เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ ที่หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำประเทศไทย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. พร้อมทีมผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์พีซทีวี ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ ผ่าน นายยู คาโนสุเอะ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขอให้ยูเอ็น เรียกร้องรัฐไทยปฏิบัติตามปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนข้อที่ 19 หยุดปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อ หลังจากที่พีซทีวี ถูกถอนใบอนุญาตออกอากาศ
ทั้งนี้ ก่อนการยื่นหนังสือ นพ.เหวง พร้อมผู้ประกาศของสถานีฯ ได้แสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ปล่อยนกพิราบสีขาวจำนวน 4 ตัว โดยให้เหตุผลว่า นกพิราบเปรียบเสมือนสื่อสารมวลชนและสันติภาพ การปล่อยนกพิราบครั้งนี้ จึงหมายถึงขอให้สื่อได้รับเสรีภาพอย่างเต็มที่
ต่อมาทีมผู้ประกาศ อ่านแถลงการณ์ว่า ด้วยสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 3 พ.ค. ทุกปี เป็นวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่องค์กรรัฐไทย ปิดสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของไทย และไม่ชอบด้วยปฏิญญาณสากลฯ จึงกราบเรียนเลขาธิการยูเอ็นพิจารณาเรียกร้องให้รัฐไทย คืนความเป็นธรรมและหยุดปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อต่อไป
ด้านนายวัชระ เพชทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นคัดค้านต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสหประชาชาติ กรณีที่ กสทช. มีคำสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี โดยเห็นว่า เป็นการชักศึกเข้าบ้าน ทั้งที่สถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อให้ระบอบทักษิณ ไม่เสนอข่าวรอบด้าน เช่น กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ซึ่งเป็นผู้จัดรายการ โจมตีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าพกพาระเบิด หรือ วางระเบิดในรถจี๊ป เพื่อวางระเบิดรัฐสภา พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ ให้ไปส่องกระจกดูสถานีของตัวเอง
ดังนั้นการที่ กสทช.ปิดสถานีดังกล่าว มีเหตุผล และ คสช. เป็นเผด็จการที่ให้เสรีภาพที่สุด นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร ในยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จึงอยากให้องค์การสหประชาชาติ พิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมด อย่าหลงเชื่อแต่หนังสือร้องเรียนของสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี ที่เป็นกระบอกเสียงของระบอบทักษิณ
ทั้งนี้ ก่อนการยื่นหนังสือ นพ.เหวง พร้อมผู้ประกาศของสถานีฯ ได้แสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ปล่อยนกพิราบสีขาวจำนวน 4 ตัว โดยให้เหตุผลว่า นกพิราบเปรียบเสมือนสื่อสารมวลชนและสันติภาพ การปล่อยนกพิราบครั้งนี้ จึงหมายถึงขอให้สื่อได้รับเสรีภาพอย่างเต็มที่
ต่อมาทีมผู้ประกาศ อ่านแถลงการณ์ว่า ด้วยสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 3 พ.ค. ทุกปี เป็นวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่องค์กรรัฐไทย ปิดสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของไทย และไม่ชอบด้วยปฏิญญาณสากลฯ จึงกราบเรียนเลขาธิการยูเอ็นพิจารณาเรียกร้องให้รัฐไทย คืนความเป็นธรรมและหยุดปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อต่อไป
ด้านนายวัชระ เพชทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นคัดค้านต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสหประชาชาติ กรณีที่ กสทช. มีคำสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี โดยเห็นว่า เป็นการชักศึกเข้าบ้าน ทั้งที่สถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อให้ระบอบทักษิณ ไม่เสนอข่าวรอบด้าน เช่น กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ซึ่งเป็นผู้จัดรายการ โจมตีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าพกพาระเบิด หรือ วางระเบิดในรถจี๊ป เพื่อวางระเบิดรัฐสภา พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ ให้ไปส่องกระจกดูสถานีของตัวเอง
ดังนั้นการที่ กสทช.ปิดสถานีดังกล่าว มีเหตุผล และ คสช. เป็นเผด็จการที่ให้เสรีภาพที่สุด นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร ในยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จึงอยากให้องค์การสหประชาชาติ พิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมด อย่าหลงเชื่อแต่หนังสือร้องเรียนของสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี ที่เป็นกระบอกเสียงของระบอบทักษิณ