หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ฯ มีมติถอนใบอนุญาตการออกอากาศสถานีโทรทัศน์พีซทีวี สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยก็ออกแถลงการณ์ ขอให้ทบทวนคำสั่ง โดยระบุว่า บทลงโทษหนักเกินไป และไม่เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งอาจนำไปสู่คำถามเลือกปฏิบัติตามมา
คำสั่งปิดพีซทีวี หรือทีวีช่องแดงของคนเสื้อแดง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นเพียงองค์กรวิชาชีพสื่อเพียงองค์กรเดียวที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้อง
การออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้พีซทีวี โดยหลักการดูเหมือนดี แต่ในทางปฏิบัติ คงมีการตั้งคำถามกลับไปยังสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยเหมือนกันว่า
การออกอาการเดือดร้อนแทนพีซทีวีนั้น ทำในฐานะที่พีซทีวีเป็นสมาชิกสมาคมฯ หรือสมาคมฯ เห็นว่า พีซทีวีเป็นสื่อ
ไม่รู้ว่า พีซทีวีเป็นสมาชิกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยหรือไม่ ถ้าเป็น ก็คงต้องถามต่อว่า สมาคมฯ รับพีซทีวีเป็นสมาชิกได้อย่างไร
เพราะพีซทีวีไม่ใช่สื่อ รูปลักษณ์อาจดูเหมือนสื่อ แต่ข้อเท็จจริงก็รู้กันทั้งสังคมไม่ใช่หรือว่า พีซทีวีเป็นกระบอกเสียงของระบอบทักษิณ
จุดมุ่งหมายของพีซทีวี ตั้งขึ้นมาเพื่อเชลียร์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปกป้องพรรคเพื่อไทย และเป็นช่องเพื่อใช้ปลุกระดมทางการเมือง
คนในพีซทีวีบางส่วนอาจเคยเป็นสื่อ แต่เมื่อเลือกที่จะทำงานในพีซทีวี ต้องถือว่าความเป็นสื่อสิ้นสุดลงแล้ว เพราะได้เปลี่ยนฐานะตัวเองเป็นขี้ข้ารับใช้ระบอบทักษิณ เช่นเดียวกับอดีตนักข่าวอีกหลายคน ซึ่งหันไปทำอาชีพเป็นกระบอกเสียงให้พ.ต.ท.ทักษิณเต็มตัว
เช่นเดียวกับสื่อสิ่งพิมพ์ค่ายใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนฐานะตัวเองเป็นสุนัขเฝ้าทักษิณไปแล้ว
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยจะเกรงอกเกรงใจอดีตเพื่อนร่วมวิชาชีพสื่อที่หันไปเป็นขี้ข้ารับใช้ระบอบทักษิณ โดยเข้าไปสังกัดพีซทีวี และยอมรับพีซทีวีเข้าไปเป็นสมาชิกไม่ได้
เพราะสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นองค์กรวิชาชีพสื่อ หากต้องการให้สังคมยอมรับ สมาคมฯ ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ไม่รับสื่อเทียม ไม่ยอมให้สื่อปลุกระดมและนิยมการบิดเบือนเข้าเป็นสมาชิก
ถ้าสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สักแต่รับสมาชิก ใครจะตั้งทีวี ใครมีสถานีวิทยุ หรือใครตั้งสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้นมาเพื่อเป็นกระบอกเสียงตัวเอง ปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง และนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน สมาคมฯ รับเข้าไปเป็นสมาชิกหมด สุดท้ายสมาคมฯ จะไม่เหลือความเชื่อถือใดๆ
การออกหน้าทำเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพีซทีวี ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยในจุดยืนของสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยแล้ว
และหากพีซทีวีไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยยิ่งเป็น เรื่องที่ต้องตั้งคำถามหนักๆ ว่า สมาคมฯ เดือดร้อนอะไรนักหนากับการปิดพีซทีวี
จะอ้างว่า คำสั่งถอนใบอนุญาตการออกอากาศ เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยก็จะกลายเป็นตัวตลกไปอีก เพราะสังคมไม่มีใครยอมรับว่า พีซทีวีเป็นสื่อ และพฤติกรรมของพีซทีวีก็ประจักษ์ชัดว่า ไม่ใช่สื่อแน่ๆ
การออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ฯ ทบทวนคำสั่งถอนใบอนุญาตพีซทีวีครั้งนี้ จึงมีกระแสสวนกลับไปยังสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ เพราะควรจะต้องทบทวนจุดยืนตัวเองเหมือนกัน
ช่วงที่พีซทีวีปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ต่างๆ ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน เป็นกระบอกเสียงระดมมวลชนข่มขู่คุกคามสื่อและองค์กรอิสระ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยมุดหัวไปอยู่ที่ไหน
ทำไมจึงทำตัวจะเป็นจะตายกับการปิดพีซทีวีเอาตอนนี้ หรือเพียงต้องการแสดงให้เห็นว่า สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นองค์กรวิชาชีพสื่อที่หวงแหนสิทธิเสรีภาพสื่อ แม้พีซทีวีจะเป็นแค่กระบอกเสียงระบอบทักษิณก็ตาม
ถ้าสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยังทำตัวเป็นนักหลักการจ๋า ยืนยันว่าพีซทีวีเป็นสื่อ คงยอมรับได้ละมั้ง ถ้าจตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ หรือนายแพทย์เหวง โตจิราการ จะเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ
อย่าทำเป็นเล่นไป ถ้าสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยทำเป็นนักหลักการจ๋าโดยไม่รู้ภาษีภาษา สักวันแกนนำคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ ถึงวันนี้คงเป็นความบัดซบขององค์กรวิชาชีพสื่อ
คำสั่งปิดพีซทีวี หรือทีวีช่องแดงของคนเสื้อแดง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นเพียงองค์กรวิชาชีพสื่อเพียงองค์กรเดียวที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้อง
การออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้พีซทีวี โดยหลักการดูเหมือนดี แต่ในทางปฏิบัติ คงมีการตั้งคำถามกลับไปยังสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยเหมือนกันว่า
การออกอาการเดือดร้อนแทนพีซทีวีนั้น ทำในฐานะที่พีซทีวีเป็นสมาชิกสมาคมฯ หรือสมาคมฯ เห็นว่า พีซทีวีเป็นสื่อ
ไม่รู้ว่า พีซทีวีเป็นสมาชิกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยหรือไม่ ถ้าเป็น ก็คงต้องถามต่อว่า สมาคมฯ รับพีซทีวีเป็นสมาชิกได้อย่างไร
เพราะพีซทีวีไม่ใช่สื่อ รูปลักษณ์อาจดูเหมือนสื่อ แต่ข้อเท็จจริงก็รู้กันทั้งสังคมไม่ใช่หรือว่า พีซทีวีเป็นกระบอกเสียงของระบอบทักษิณ
จุดมุ่งหมายของพีซทีวี ตั้งขึ้นมาเพื่อเชลียร์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปกป้องพรรคเพื่อไทย และเป็นช่องเพื่อใช้ปลุกระดมทางการเมือง
คนในพีซทีวีบางส่วนอาจเคยเป็นสื่อ แต่เมื่อเลือกที่จะทำงานในพีซทีวี ต้องถือว่าความเป็นสื่อสิ้นสุดลงแล้ว เพราะได้เปลี่ยนฐานะตัวเองเป็นขี้ข้ารับใช้ระบอบทักษิณ เช่นเดียวกับอดีตนักข่าวอีกหลายคน ซึ่งหันไปทำอาชีพเป็นกระบอกเสียงให้พ.ต.ท.ทักษิณเต็มตัว
เช่นเดียวกับสื่อสิ่งพิมพ์ค่ายใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนฐานะตัวเองเป็นสุนัขเฝ้าทักษิณไปแล้ว
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยจะเกรงอกเกรงใจอดีตเพื่อนร่วมวิชาชีพสื่อที่หันไปเป็นขี้ข้ารับใช้ระบอบทักษิณ โดยเข้าไปสังกัดพีซทีวี และยอมรับพีซทีวีเข้าไปเป็นสมาชิกไม่ได้
เพราะสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นองค์กรวิชาชีพสื่อ หากต้องการให้สังคมยอมรับ สมาคมฯ ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ไม่รับสื่อเทียม ไม่ยอมให้สื่อปลุกระดมและนิยมการบิดเบือนเข้าเป็นสมาชิก
ถ้าสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สักแต่รับสมาชิก ใครจะตั้งทีวี ใครมีสถานีวิทยุ หรือใครตั้งสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้นมาเพื่อเป็นกระบอกเสียงตัวเอง ปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง และนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน สมาคมฯ รับเข้าไปเป็นสมาชิกหมด สุดท้ายสมาคมฯ จะไม่เหลือความเชื่อถือใดๆ
การออกหน้าทำเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพีซทีวี ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยในจุดยืนของสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยแล้ว
และหากพีซทีวีไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยยิ่งเป็น เรื่องที่ต้องตั้งคำถามหนักๆ ว่า สมาคมฯ เดือดร้อนอะไรนักหนากับการปิดพีซทีวี
จะอ้างว่า คำสั่งถอนใบอนุญาตการออกอากาศ เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยก็จะกลายเป็นตัวตลกไปอีก เพราะสังคมไม่มีใครยอมรับว่า พีซทีวีเป็นสื่อ และพฤติกรรมของพีซทีวีก็ประจักษ์ชัดว่า ไม่ใช่สื่อแน่ๆ
การออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ฯ ทบทวนคำสั่งถอนใบอนุญาตพีซทีวีครั้งนี้ จึงมีกระแสสวนกลับไปยังสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ เพราะควรจะต้องทบทวนจุดยืนตัวเองเหมือนกัน
ช่วงที่พีซทีวีปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ต่างๆ ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน เป็นกระบอกเสียงระดมมวลชนข่มขู่คุกคามสื่อและองค์กรอิสระ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยมุดหัวไปอยู่ที่ไหน
ทำไมจึงทำตัวจะเป็นจะตายกับการปิดพีซทีวีเอาตอนนี้ หรือเพียงต้องการแสดงให้เห็นว่า สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นองค์กรวิชาชีพสื่อที่หวงแหนสิทธิเสรีภาพสื่อ แม้พีซทีวีจะเป็นแค่กระบอกเสียงระบอบทักษิณก็ตาม
ถ้าสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยังทำตัวเป็นนักหลักการจ๋า ยืนยันว่าพีซทีวีเป็นสื่อ คงยอมรับได้ละมั้ง ถ้าจตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ หรือนายแพทย์เหวง โตจิราการ จะเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ
อย่าทำเป็นเล่นไป ถ้าสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยทำเป็นนักหลักการจ๋าโดยไม่รู้ภาษีภาษา สักวันแกนนำคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ ถึงวันนี้คงเป็นความบัดซบขององค์กรวิชาชีพสื่อ