“ยงยุทธ” เผย การตอบรับ ปชช. รายย่อยดี หลังเริ่มเดินเครื่องธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ล่าสุด มีผู้ประกอบการยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์อีกกว่า 10 ราย เชื่อ ปัญหาหนี้นอกระบบจะผ่อนคลายลง
วันนี้ (3พ.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย หลังจากกระทรวงการคลังได้ให้ใบอนุญาต 4 บริษัทดำเนินงานมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย หรือ นาโนไฟแนนซ์ และบางบริษัทจะได้เริ่มปล่อยกู้ในเดือน พ.ค. นี้ พบว่า มีการตอบรับจากประชาชนรายย่อยในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ล่าสุด ได้มีบริษัทยื่นขอรับใบอนุญาตทำธุรกิจนาโนไฟแนนซ์เพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่ง รมว.คลัง กำลังพิจารณาอยู่และมีบริษัทที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติมอีกราว 10 บริษัท หาก ธปท. พิจารณาคุณสมบัติแล้วเสร็จก็จะส่งเรื่องต่อมาถึงกระทรวงการคลัง “การมีผู้ประกอบการธุรกิจนาโนไฟแนนซ์จำนวนมากจะเป็นผลดีต่อการเข้าถึงแหล่งเงินของผู้ใช้บริการ และจะทำให้แก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นปัญหาของประชาชนกว่า 6 แสนครัวเรือน และอีก 1.3 ล้านครัวเรือน ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างรวดเร็ว”
นอกจากนี้ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ยังจะช่วยลดแรงกดดันไม่ให้ผู้ที่มีบัญชีสินเชื่อในระบบเลือกไปใช้บริการสินเชื่อนอกระบบในช่วงที่ต้องการเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพเสริม/เพิ่มเติม ในช่วงที่สถาบันการเงินระมัดระวังและเข้มงวดต่อการปล่อยสินเชื่อ สำหรับเกณฑ์การปล่อยกู้ของธุรกิจนาโนไฟแนนซ์นั้นจะกำหนดให้สามารถปล่อยกู้ให้กับรายย่อยรายละไม่เกิน 100,000 บาท และสามารถคิดค่าธรรมเนียมรวมกับค่าปรับแล้วไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี โดยเกณฑ์การปล่อยกู้จะไม่อิงสลิปเงินเดือน จึงยืดหยุ่นสูงกว่าการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินทั่วไป สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ 4 รายได้แก่ บ.เงินด่วนทันใจ จำกัด, บ.ไทยเอชแคปปิตอล จำกัด, บ.แมคคาเลกรุ๊พ จำกัด (มหาชน) และบ.สหไพบูลย์ (2558) จำกัด