xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ลั่นเลิกขายลอตเตอรี่ หากแก้ราคาแพงไม่สำเร็จภายใน มิ.ย.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” เปิดใจบนเวทีการประชุมการพิมพ์แห่งเอเชีย บอกไม่คิดมาเป็นนายกฯ แต่จำเป็นต้องเข้ามาปลดล็อกปัญหาประเทศ โอดตั้งแต่หลังรัฐประหารไม่เคยได้เที่ยวกับครอบครัวเลย ลั่นหากแก้ลอตเตอรี่แพงไม่สำเร็จภายใน มิ.ย.ก็เลิกขาย บอกไม่อยากทะเลาะ “บก.ลายจุด” กรณีขายข้าว ขู่เรียกตัวคราวหน้าจะไม่มีการเตือนแล้ว ยืนยันไม่ได้เป็นคนสั่งปิดพีซทีวี

วันนี้ (29 เม.ย.) ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำของการประชุมการพิมพ์แห่งเอเชีย ประจำปี 2558 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณในการมาร่วมการประชุมครั้งนี้ ประเทศเรามีความหลากหลายทั้งสงบเงียบ ตื่นเต้น นี่คือประเทศไทยดินแดนแห่งรอยยิ้ม ยินดีต้อนรับทุกท่านในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศตัวเลือกสำหรับการจัดการประชุมและการสัมมนาที่พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการจัดงานทุกอย่าง และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ที่พวกท่านเห็นมายืนบนเวทีนี้คือตัวจริง แต่ที่ท่านเห็นในสื่อต่างๆ ที่เป็นตัวปลอม และเขาบอกว่ามางานสื่อให้ระมัดระวัง อดทน สงบเงียบ เรียบร้อย ทำหน้าตาดีๆ ตอบแล้วยิ้ม แต่ตนทำไมได้ อดทนไม่ได้ ต้องทำความเข้าใจ และสื่อไม่ต้องมาเชียร์กัน เมื่อมาแล้วต้องเปิดใจพูดอธิบาย สำหรับท่านที่จะเดินทางมาประเทศไทยไม่ต้องกังวล ไม่ต้องตื่นเต้น เพราะวันนี้สถานการณ์ดีขึ้น อย่าได้กลัว ให้อยู่ประเทศไทยอย่างมีความสุข ประเทศไทยมี 4 ภาค มีแตกต่างจากประเทศอื่นๆที่เดินไปทางไหนก็เหมือนกันหมด นอกจากนี้ ประกันชีวิตที่รัฐบาลทำให้กว่า 200 ล้านยังไม่มีใครมาเบิกเลย ท่านมาบ้านเราวันนี้อย่ากลัว มาดูในภูมิภาคนี้เราเป็นเป็นเพื่อบ้านกัน ต้องคอยช่วยเหลือกันยามลำบาก เราจะไม่ทะเลาะกับใครทั้งสิ้น แต่เราอาจมีทะเลาะกันเองบ้างก็ตาม วันนี้เราต้องเดินไปพร้อม วันนี้ทุกประเทศคือเบอร์ 1 จะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และพาทุกประเทศในอาเซียนเดินไปด้วยกัน ส่วนเรื่องชายแดนไม่ใช่ปัญหา จะรบกันไปทำไม ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัย เรื่องการปักปันเขตแดนถ้ายังทำไมได้ ก็ยังไม่ต้องทำ แต่ต้องทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเดินไปได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า สถานการณ์ก่อน 22 พ.ค. เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง บ้านเมืองไร้การควบคุม รัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ มีความรุนแรงเกิดขึ้น ตนเป็นทหารมาทั้งชีวิต เป็นผู้บัญชาการทหารบกมา 4 ปี และไม่อยากมายึดอำนาจ เพราะรู้ถ้าทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่ต้องตัดสินใจทำ แต่รัฐบาลที่ผ่านมาตนช่วยเหลือทุกเรื่อง ทั้งเรื่องน้ำท่วม ช่วยมาตลอด แต่เรื่องเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ ก็บอกว่าทำไม่ได้ และไม่ทำ

“ครอบครัวผม ทั้งลูกและภรรยา รอผมมาตลอดที่จะได้ไปเที่ยวกันหลังเกษียณอายุราชการ แต่วันนี้ไม่ใช่ ตั้งแต่ปี 2549 ผมไม่เคยได้เที่ยวไหน ไม่เคยได้เดินตลาดซื้อของด้วยกันเลย และหวังว่าหลังเกษียณจะได้อยู่กับครอบครัวอย่างที่หวังไว้ แต่ต้องมายืนตรงนี้เพราะปล่อยสถานการณ์ไว้ต่อไปไม่ได้” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า และหลังจากที่เข้ามาบริหารประเทศ สามารถปลดล็อกทุกอย่างได้เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าเป็นประชาธิปไตย รวมถึงเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณให้เดินไปได้ และทำทุกอย่างให้โปร่งใส ตนถูกสอนมาว่าต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เมื่อก่อนที่เป็น ผบ.ทบ.คิดทำทุกอย่าง แต่ไม่เคยคิดว่าจะมายืนเป็นนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์อธิบายต่อว่า ตลอดเวลาที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ในช่วงระยะแรกที่เป็น คสช.ที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกที่มี 17 มาตรา แต่ใช้เพียงมาตราเดียวในเรื่องการตรวจค้นจับกุม ไม่เช่นนั้นกว่าจะออกหมายศาล คนทำผิดก็หนีไป จับไม่ได้ และที่ผ่านมาที่เรียกมารายงานตัวไม่เคยทรมานใคร ไม่ได้เรียกมาซ้อม หรือเอาถุงดำครอบหัว หรือเอานน้ำแข็ง เอาน้ำเย็นราดอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นออกไปพูดว่าถูกทำร้าย คนพวกนี้ไม่รักประเทศเลย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้นักการเมืองไม่ฟังก็ต้องล้างกันสักที ตนพยายามคิดให้เร็ว ตัดสินใจให้เร็ว แต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะไม่ต้องการผลประโยชน์อะไรอยู่แล้ว และวันนี้ที่ใช้มาตรา 44 เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน หลายกระทรวงต้องทำงานด้วยกัน ที่ผ่านมาเป็นรัฐบาลผสม แบ่งโควตากัน ต่างคนต่างทำงาน วันนี้ไม่ได้ ตนไม่ยอม ทุกกระทรวงต้องบูรณาการกัน และวันนี้มีรัฐบาลเดียวคือรัฐบาลพรรค คสช. ไม่จำเป็นต้องไปหาทุนใดๆ ใครถูกเรียกรับ ถ้าตนรู้จะสอบสวนทั้งหมด วันนี้เรื่องงบประมาณต้องมาคลี่ทำใหม่หมด แม้กระทั่งงบประมาณท้องถิ่นด้วย รวมไปถึงการแก้ปัญหาบุกรุกป่าที่เป็นปัญหามานานแล้ว ที่ผ่านมาสอบไปเจอของแข็ง ส่วนกฎหมายมีหลายเรื่องที่ไม่สามารถออกได้เพราะนักการเมืองไม่ยอม ทำไปแล้วมีคนได้คนเสียประโยชน์ วันนี้ตนยอมไม่ได้ จะพยายามทำทุกอย่างปลดล็อกทุกอย่าง

นายกฯ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาวันนี้ทำทุกอย่างตั้งแต่เรื่องป่าไม้ที่มีปัญหากัน เราต้องคิดว่าทำอย่างไรให้คนอยู่กับป่าที่หมดสภาพได้ไปก่อน ให้เป็นพื้นที่ทำกินไม่สามารถขายได้ เพราะให้โฉนดไปก็ขายหมดแล้วมาขอกันใหม่ การแก้ปัญหาจะใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้รัฐศาสตร์เข้ามาด้วย รวมถึงต้องดูเรื่องการออกโฉนดที่ผ่านมา ส่วนเรื่องการจัดระเบียบที่ทำ ต้องจัดระเบียบหลายอย่าง แต่กลับถูกคนเหล่านั้นตำหนิหาว่ารังแกคนจน แต่ยังไงต้องจัดระเบียบ โดยไม่ได้ไปทำลายอัตลักษณ์ แต่เพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบกัน และทำให้ถูกกฎหมาย ยอมรับว่าปัญหาประเทศไทยวันนี้กำลังมะรุมมะตุ้มหลายเรื่อง

เรื่องจำนำข้าว เมื่อตนเข้ามาเวลาไปต่างประเทศก็คิดว่าไม่มีใครชอบหน้า แต่พอเล่าปัญหาให้ประเทศนั้นลองคิดบวกลบดูว่าถ้าซื้อข้าวในโครงการนี้ 2-3 ปี คิดว่าไหวไหม เขาก็ตอบว่าไม่ไหว ส่วนเรื่องรถไฟ ต่างประเทศเขาชมว่าไม่มีรัฐบาลไหนมาเซ็นเอ็มโอยูได้แบบนี้ มีแต่รัฐบาลตนที่ทำได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยูเอ็นอยากให้เราเป็นตัวอย่างบริหารจัดการน้ำซึ่งมีร้อยละ 70 ที่ยังไม่เข้าถึงน้ำสะอาด ประเทศไทยเองต้องเข้าถึงน้ำสะอาดให้ได้ภายในปี 2562

การทำงานของรัฐบาลต้องทำอย่างเร่งด่วน วันนี้ตนไม่ต้องการคะแนนนิยมเพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่สามารถทำให้ประชาชนมีความสุข แม้วันนี้จะเริ่มเบื่อกันแล้วปิดโทรทัศน์หนีทุกวันศุกร์ แต่ไม่ต้องกลัว ตนจะตามไปทุกที่

สำหรับการเดินหน้าสร้างความปรองดองนั้น ประชาชนต้องเป็นผู้กำหนดด้วยตัวเอง รัฐจะเป็นผู้ริเริ่มและเตรียมอนาคต และรับฟังเสียงประชาชนซึ่งต้องใช้หัวใจปรองดอง ไม่ใช่ไปฟังช่องเขียวช่องแดง วันนี้ไม่มีแล้ว เมื่อเริ่มมีการปรองดองก็จะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ต้องไปว่ากัน ก่อนจะมีการนิรโทษฯ อภัยโทษ สำหรับเวทีรับฟังความเห็น ก่อนตนเข้ามา พรรคการเมืองสองสามพรรคทะเลาะกัน แต่วันนี้กลับรวมหัวมาทะเลาะกับตนคนเดียว หากจะมีเลือกตั้งก็เลือกไป แต่อย่ามาดุตน ตนไม่ชอบ ด้านการปฏิรูปมีคนถามว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ แล้วเมื่อไหร่จะไป ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง วันนี้ร่างรัฐธรรมนูญและกำลังเดินไปตามโรดแมป อย่าถามตนอีกเพราะตอบมามากพอแล้ว ตนจะใช้อำนาจในเรื่องนี้ก็ได้แต่ไม่ทำ และรับฟังความคิดเห็น ทั้งๆที่ทุกฝ่ายต้องฟังตนเพราะมีอำนาจด้วยซ้ำ แต่ตนไม่ทำ

เรื่องกฎหมายต้องเป็นกฎหมายคนจนก็ต้องดูแล อย่างเรื่องลอตเตอรี่ ที่น่าจะดำเนินการแก้ปัญหาได้เสร็จในเดือนมิถุนายน ถ้าทำไม่ได้ก็ยกเลิกไป ปวดหัว วันนี้ปัญหาประเทศไทยเราต้องแก้ไขกันเองจะไปทำแบบประเทศอื่นไม่ได้ เพราะประเทศไทยเป็นรัฐเดียว ถึงแม้ทางพฤตินัยจะแยกกันอยู่ก็ตาม

ส่วนกรณีสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่มีออกขายข้าว ตนไม่อยากทะเลาะด้วย เรียกมาหลายครั้งแล้ว ก็ครับๆ แต่คราวหน้าถ้าเรียกมาอีกถือว่าได้มีการเตือนแล้ว
ส่วนเรื่องสื่อที่บอกว่าตนไปสั่งปิด ขอยืนยันว่าไม่ได้สั่งปิด สื่อก็ทำหน้าที่ไป ตนไม่กลัวสื่อ สื่อก็ไม่กลัวตนอยู่แล้ว

“สุดท้ายนี้ผมไม่อยากให้ใครมาทำร้ายประเทศตัวเอง อาเซียนต้องเป็นปึกแผ่น ไม่มีความหวาดระแวง รักษาผลประโยชน์ร่วมกัน ประเทศไทยต้องมีศักดิ์ศรี ต้องรักษาและต้องไปหาสูตรมาว่าจะให้ประเทศเป็นอย่างไร โดยไม่ขัดแย้งกับหลักประชาธิปไตยของโลก” นายกฯ กล่าวในท้ายที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น