นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง ความคืบหน้าการไต่สวนกรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีบริษัทเอกชนเกี่ยวข้องเกือบ 100 แห่ง ว่า ขณะนี้กำลังเตรียมสรุป เพื่อส่งไปเพิ่มเติมที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยพบว่า มีบริษัทเอกชน 15-20 บริษัท ร่วมกระทำความผิดกับเรื่องข้าว นอกจากนั้นพบว่า ยังมีความผิดเกี่ยวเนื่องกับการทุจริตมันเส้นเข้ามาเกี่ยวด้วย
นายวิชา ยังกล่าวถึง ความคืบกรณีไต่สวนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2548 - 2553 วงเงิน 577 ล้านบาท ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดี และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมมารองรับการพิจารณาของ ป.ป.ช. เนื่องจากมีหลักฐาน คือ มติคณะรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว โดยต้องมีระเบียบ รวมถึงข้อกฎหมายมารองรับ เพื่อให้สำนวนครบถ้วน โดย ป.ป.ช. จะเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายที่มีความเป็นกลางมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในการใช้จ่ายงบประมาณ และคาดว่าหลังสงกรานต์จะสรุปสำนวนดังกล่าวได้
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” อ้างว่า ได้ทำการรับซื้อข้าวจากชาวนา ในราคาเกวียนละ 15,000 บาท ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับโครงการรับจำนำข้าว เพื่อนำมาจำหน่าย โดยใช้ชื่อว่า “ข้าวลายจุด”ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในราคาถุงละ 200 บาท ว่า การขายข้าวดังกล่าว เพื่อให้เกษตรกรได้เจอกับผู้ซื้อโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเรื่องนี้เป็นแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งเห็นได้จากการจัด“ตลาดวิถีข้าว วิถีไทย” ที่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ริมคลองผดุงกรุงเกษม
ทั้งนี้ สิ่งที่นายสมบัติ ทำอาจไม่ตรงกับแนวทางของรัฐบาลที่ผ่านมา คือ วิธีการให้ขายข้าวโดยตรง ซึ่งเป็นหลักการที่ดี แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ใช่อย่างนั้น
นอกจากนี้ ตนมองว่าการขายข้าวทุกชนิด ทุกพันธุ์ ในราคาเกวียนละ 15,000 บาทนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะจะทำให้กลไกตลาดได้รับความเสียหาย ซึ่งการทำแบบนี้ใช้ได้สำหรับข้าวปริมาณน้อย แต่ถ้าเป็นโครงการใหญ่อย่างที่รัฐบาลทำ การขายข้าวเพื่อช่วยๆ กันอย่างนี้ เป็นไปไม่ได้ จึงอยากให้เข้าใจว่า สิ่งที่นายสมบัติเสนอ เป็นสิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามดำเนินการ เพียงแต่รัฐบาลในอดีตไม่ได้ทำ แต่ใช้การรับจำนำข้าว
"หากนายสมบัติ ทำได้ตามที่พูดจริง ก็จะเชิญชวนประชาชน ให้นำข้าวที่เก็บไว้มาขายให้นายสมบัติ ในราคาเกวียนละ 15,000 บาท แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
นายวิชา ยังกล่าวถึง ความคืบกรณีไต่สวนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2548 - 2553 วงเงิน 577 ล้านบาท ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดี และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมมารองรับการพิจารณาของ ป.ป.ช. เนื่องจากมีหลักฐาน คือ มติคณะรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว โดยต้องมีระเบียบ รวมถึงข้อกฎหมายมารองรับ เพื่อให้สำนวนครบถ้วน โดย ป.ป.ช. จะเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายที่มีความเป็นกลางมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในการใช้จ่ายงบประมาณ และคาดว่าหลังสงกรานต์จะสรุปสำนวนดังกล่าวได้
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” อ้างว่า ได้ทำการรับซื้อข้าวจากชาวนา ในราคาเกวียนละ 15,000 บาท ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับโครงการรับจำนำข้าว เพื่อนำมาจำหน่าย โดยใช้ชื่อว่า “ข้าวลายจุด”ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในราคาถุงละ 200 บาท ว่า การขายข้าวดังกล่าว เพื่อให้เกษตรกรได้เจอกับผู้ซื้อโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเรื่องนี้เป็นแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งเห็นได้จากการจัด“ตลาดวิถีข้าว วิถีไทย” ที่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ริมคลองผดุงกรุงเกษม
ทั้งนี้ สิ่งที่นายสมบัติ ทำอาจไม่ตรงกับแนวทางของรัฐบาลที่ผ่านมา คือ วิธีการให้ขายข้าวโดยตรง ซึ่งเป็นหลักการที่ดี แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ใช่อย่างนั้น
นอกจากนี้ ตนมองว่าการขายข้าวทุกชนิด ทุกพันธุ์ ในราคาเกวียนละ 15,000 บาทนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะจะทำให้กลไกตลาดได้รับความเสียหาย ซึ่งการทำแบบนี้ใช้ได้สำหรับข้าวปริมาณน้อย แต่ถ้าเป็นโครงการใหญ่อย่างที่รัฐบาลทำ การขายข้าวเพื่อช่วยๆ กันอย่างนี้ เป็นไปไม่ได้ จึงอยากให้เข้าใจว่า สิ่งที่นายสมบัติเสนอ เป็นสิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามดำเนินการ เพียงแต่รัฐบาลในอดีตไม่ได้ทำ แต่ใช้การรับจำนำข้าว
"หากนายสมบัติ ทำได้ตามที่พูดจริง ก็จะเชิญชวนประชาชน ให้นำข้าวที่เก็บไว้มาขายให้นายสมบัติ ในราคาเกวียนละ 15,000 บาท แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
