“เอกนัฏ” เฟซบุ๊กย้อนพฤติกรรมป่วนแดง แบบไม่อายฟ้าดิน ข้องใจโยงคาร์บอมบ์สมุยหรือไม่ พร้อมแนบข้อความเสื้อแดงขู่ก่อนเกิดเหตุ ชี้ชัดทำเพื่อท้าทาย ม.44 ประณามพวกรุนแรง ลั่นยอมถูกว่าใช้ ม.44 ดีกว่าอยู่กลางระเบิด ขอให้กำลังใจ จนท.จับมือป่วน
วันนี้ (11 เม.ย.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เผยถึงเหตุเมื่อคืน 2 ครั้งที่ จ.สุราษฎร์ธานี และไฟไหม้ที่สหกรณ์โคออปรอสรุปผลพิสูจน์สาเหตุ โดยระบุว่าเหตุเกิดที่เซ็นทรัลสมุยชัดเจนว่าเป็นคาร์บอมบ์
นายเอกนัฏเผยต่อว่า เป้าของการก่อวินาศกรรมมักจะเป็นกลุ่มคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับขบวนการที่เบื้องหน้าอ้างประชาธิปไตย แต่ภายในผสมไปด้วยขบวนการล้มเจ้า แบ่งแยกประเทศ ชอบสร้างความเกลียดชัง แบ่งแยกชนชั้น นิยมใช้กำลังมาตั้งแต่ปี 2552-2553 ไม่ว่าจะเป็นการเผาศาลากลางจังหวัด ห้างสรรพสินค้า ระเบิดที่ศาล สถานีรถไฟฟ้า แม้กระทั่งวัดพระแก้วก็ไม่เว้น พอมาปี 2556-2557 ก็เกิดเหตุร้ายกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมหรือกลุ่มที่ถูกมองว่าเป็นปฏิปักษ์บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลอบระเบิดสถานที่ การทำร้ายกลุ่มคนหรือบุคคลด้วยอาวุธสงครามไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กและสตรี มาถึงวันนี้ยังไม่วายยังคงมีความพยายามที่จะสร้างความไม่สงบ ไม่นานมานี้ก็เกิดเหตุระเบิดที่ศาลอาญา ทำกันแบบไม่อายฟ้าดิน ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี กำลังพิสูจน์ความเชื่อมโยงแต่เห็นว่ามีการโพสต์ประกาศก่อเหตุล่วงหน้าด้วยความคึกคะนอง
โฆษก กปปส.ระบุอีกว่า ขอบอกตรงๆว่าถ้าจะทำแบบนี้เพื่อข่มขู่ถ้าทายการประกาศกฎอัยการศึก หรือมาตรา 44 อ้างว่าถูกปิดกั่นการใช้สิทธิหรือถูกนานาชาติดูแคลน ถ้าจะใช้สิทธิ์ด้วยการเข่นฆ่าปาระเบิดอย่ามาทำในประเทศนี้ ตนเข้าใจความรู้สึกของคนที่รู้สึกอึดอัดกับการประกาศกฎหมายพิเศษ แต่ขอประณามพวกที่พยายามใช้ความรุนแรงจัดการปัญหา เรายอมที่จะดูถูกดูแคลนกับมาตรา 44 ยังดีกว่าอยู่ท่ามกลางระเบิดกับกระสุน ทั้งนี้ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนเร่งทำงานจับคนผิดมาดำเนินการทางกฎหมายโดยเร็วครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกนัฏยังได้โพสต์รูปภาพประกอบเป็นภาพจากเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “เอ็ม เสื้อแดง” มีเนื้อหาระบุว่าจะก่อเหตุการณ์ที่สุราษฎร์ธานี ก่อนจะมีการก่อเหตุจริง
