นายกฯ แจงประชุม ครม.เกาะติด ศก. แจงยอดขายรถลด แต่เงินได้มากกว่าเก่า เหตุไร้นโยบายรถคันแรก ตลาดล่างลด ไม่ต้องแบกภาระ ย้ำต้องสร้างต้องสร้างเครือข่ายเกษตรให้เข้มแข็ง ไม่ใช่หนุนแต่ปลูกเน้นปริมาณ ต้องเปลี่ยนบ้าง เผยต่างชาติพร้อมร่วมมือ หวังญี่ปุ่น-เกาหลีช่วยชี้แจง ICAO แทนไทย เผยสงกรานต์นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านกว่าคน
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องสำคัญในที่ประชุม คือ ได้ติดตามเรื่องของเศรษฐกิจในภาพรวมที่บางอย่างสูงขึ้น บางอย่างลด ชะลอตัวลง ในเรื่องของตัวเลขนั้นมีเปลี่ยนนิดหน่อยเพราะมีหลายตัวประกอบด้วยกัน เรื่องการขึ้นลงของราคาสินค้าต้องมีการอธิบายกันยาวและช่วยกันทำความเข้าใจ อย่างเช่น ยอดขายรถยนต์ที่ลดลงมา ขายได้ 2.7 แสนคัน ต้องขายได้มากกว่านี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่เม็ดเงินนั้นได้มากกว่าเดิม แสดงว่าราคาที่ซื้อรถยนต์นั้นสูงขึ้น และความต้องการในตลาดระดับล่างลดลง เพราะไม่มีโครงการรถคันแรกที่ให้คนมีรายได้น้อยซื้อไปแล้วผ่อนไม่ไหว จนลำบากเป็นภาระ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ครม.ตนได้สั่งการให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ได้ แต่ไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะทำได้ มันขึ้นอยู่กับส่วนประกอบเยอะแยะไปหมด ถ้าผู้ผลิตคือเกษตรกร ผู้ประกอบการ พ่อค้าคนกลาง การขนส่ง ตลาดในและต่างประเทศ สัดส่วนความตกลงการค้าซึ่งมีกติกาเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วขายได้พรุ่งนี้ เราต้องสร้างเครือข่ายเหล่านี้ให้เข้มแข็งมานานแล้ว แต่เราไม่ได้ทำให้มันเชื่อมโยงกันเต็มที่ วันนี้ทุกคนต้องมานั่งคุยกัน เมื่อก่อนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผลิตได้มากที่สุด สนับสนุนปลูกยางเข้าไปสิ เกินมากว่าล้านไร่ กี่รัฐบาลแล้ว วันนี้ยุติทั้งหมด และเคลียร์ว่าตรงไหน ถูกหรือไม่ถูกกฎหมาย ถ้ามีการบุกรุกอยู่แล้วจะทำอย่างไร พอเราเข้าไปแตะก็บอกว่าเรารังแกคนจน แล้วผิดกฎหมายหรือเปล่า โดยรัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลผู้มีรายได้น้อยอย่างไร ปรับพฤติกรรมให้มีการสนับสนุนปลูกพืชอย่างอื่นได้หรือไม่ ชี้แจงไปว่าปลูกไปแล้วก็เป็นแบบนี้ ต้องเปลี่ยนไปเป็นอ้อยหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนได้ก็จะไปแก้กฎหมายอย่างไรให้มีการตั้งโรงน้ำตาลเพิ่มขึ้น และไม่มีการแย่งสมาชิกกันทำให้ราคาต่ำ เพราะที่ผ่านมาตั้งกันไปจนมีปัญหา แล้วจะให้ปลูกข้าวปีละ 4 ครั้ง กับแค่ 2-3 ครั้งยังขายไม่หมดเลย
นายกฯ กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์นั้นได้มีการคุยกัน ที่ผ่านมาเคยคุยกันเพื่อให้การผลิตนั้นสอดคล้องกันกับความต้องการตลาดทั้งหมด ดินฟ้าอากาศ นำไปสู่การผลิต นอกจากนี้เมื่อมีปัญหาราคาตก กระทรวงการต่างประเทศก็ไปช่วยเดินสายทำความเข้าใจเปิดตลาดในต่างประเทศ ตนก็ไปคุยหมดทุกประเทศ เขาพร้อมที่จะร่วมมือกับเรา เรารื้อสิ่งเหล่านี้หมดเพราะที่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่อง
พล.อ.ประยุทธ์เผยที่ประชุม ครม.ได้มีการติดตามปัญหาการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) ตามมาตราฐานการบินขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้ได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งทางประเทศญี่ปุ่นนั้นได้มีการชะลอให้ แต่จะส่งคนมาตรวจสอบดูแลเรา
ส่วนกรณีสาธารณรัฐเกาหลีใต้จะไม่อนุญาตให้สายการบินที่ทำการบินแบบประจำเพิ่มเส้นทางใหม่หรือเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และไม่อนุญาตเที่ยวบินเช่าเหมาทำการบินนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรากำลังพูดคุยกันอยู่โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งประเทศญี่ปุ่นก็ให้ความเห็นใจเรามา ตนพูดกับนายกฯ ของทั้งญี่ปุ่น และประธานธิบดีเกาหลีด้วย เมื่อครั้งที่เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ท่านก็รับพิจารณา แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ICAO ซึ่งทางญี่ปุ่นและเกาหลีเขาก็จะส่งคนมาตรวจสอบว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ เราต้องเห็นใจเขาด้วย เพราะเป็นคำสั่งของ ICAO ถ้าเขาไม่ช่วยเราเขาก็ทำได้เพราะ ICAO เป็นคนชี้ และญี่ปุ่นกับเกาหลีก็จะช่วยชี้แจงแทนไทยด้วยว่ามาดูแล้วและไม่ได้เป็นอย่างนั้น ทั้งนี้การทำอะไรก็ตามเราพูดเองคิดเองไม่ได้ แม้กระทั่งตนที่มีอำนาจขนาดนี้ก็ต้องคิดแล้วคิดอีกในหลายๆ เรื่อง ซึ่งทุกเรื่องกับมาที่ตนอยู่แล้วฉะนั้นจะไม่ปล่อยให้ประเทศชาติเสียหาย หรือประชาชนต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นั้นมีนักท่องเที่ยวมากกว่าปีที่แล้วเยอะ คาดว่าจะมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวประเทศไทยถึง 2 ล้านคน เช่นเดียวกันคนของเราก็ไปเที่ยวต่าวประเทศมาก เพราะโลกวันนี้ไร้พรมแดน คนไทยอยากเที่ยวเมืองนอก คนเมืองนอกอยากเที่ยวประเทศไทย ใครมีเงินก็ไป ไม่มีเงินก็เที่ยวประเทศไทยดีกว่า จะได้เป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้ประเทศ เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น ทั้งนี้คำว่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้นมีการรวมหลายอย่าง ตั้งแต่ค่าเรื่องบิน เดินทาง ที่พักแรม ค่าอาหาร จับจ่าย ทั้งหมดนั้นเป็นเศรษฐกิจในภาพรวมซึ่งจะกลับมาที่รัฐตรงภาษีประกอบการในทุกกิจการ