“คนเพื่อไทย” ไม่เชื่อไทยจับมือจีน-รัสเซียเพื่อมาทัดทานสหรัฐฯ ด้าน “ชินวัฒน์” ยกคำพูด “ดร.โกร่ง” ย้อนหมอดูชี้รัฐบาลอยู่ได้ถ้าเศรษฐกิจดี
วันนี้ (7 เม.ย.) นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวถึงท่าทีรัฐบาลไทยที่พยายามเปิดสัมพันธ์กับรัสเซียและจีนมากขึ้นในช่วงที่สหรัฐอเมริกาเริ่มมองไทยว่ามีข้อจำกัดทางการเมืองและทางประชาธิปไตยว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายดมิตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ช่วงวันที่ 7-8 เม.ย.ไม่น่าแปลกใจ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจรัสเซียไม่ดีนัก จึงต้องหาทางตลาดระบายสินค้า การมาของเขาคงเป็นเรื่องการหารือทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องอื่นๆ
ส่วนประเด็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมผู้นำเหล่าทัพเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย.นั้น ทหารยกคณะไปคงไปดูเรื่องอาวุธ เห็นมีข่าวว่าอาจจะไปซื้อเรือดำน้ำจากจีน อีกทั้งจีนก็เป็นคู่แข่งทางการค้าอาวุธกับสหรัฐอเมริกา ประเทศในแถบยุโรป เขาก็อยากขายให้ประเทศอื่นๆ เช่นกัน ส่วนตัวไม่อยากให้ประเทศเราไปซื้ออาวุธในช่วงนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศไม่ดี น่าจะนำเงินไปพัฒนาในส่วนอื่นดีกว่า หากต้องซื้ออาวุธจะต้องไปกู้เงินมาซื้อหรือไม่
“ที่มองกันเราพยายามไปจับมือกับ 2 ประเทศนี้เพื่อมาทัดทานสหรัฐฯ คงไม่ใช่ การแผ่อิทธิพลของโลก ยังเชื่อว่าทั้งสองประเทศก็ยังคงเกรงใจสหรัฐอเมริกาอยู่เหมือนเดิม คงไม่ใช่การไปจับมือจีน รัสเซียเพื่อต้านมหาอำนาจอย่างอเมริกา แต่ก็อาจทำให้ฝั่งสหรัฐฯ กับยุโรปเบื่อได้ เห็นเราเป็นเด็กเกเร วันหนึ่งมีประชาธิปไตยอยู่แล้ว ก็มาเป็นเผด็จการ เรากับสหรัฐฯ คบกันมากว่า 200 ปี ทางที่ดีก็ควรทำตัวเป็นกลางๆ คบทั้งสองฝั่ง สหรัฐฯ กับจีน ทำในสิ่งที่สังคมโลกยอมรับ ทำตามโรดแมปรีบคืนอำนาจให้ประชาชน อย่าไปเชื่อหมอดูมาก” นพ.เชิดชัยกล่าว
ด้านนายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังเจ้าของฉายาโหร คมช.ออกมาระบุว่าจะมีปัจจัยทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ยาวว่า พอข่าวนี้ออกมาก็มีพี่น้องเราที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ก็ดีอกดีใจ แต่ยังมีพี่น้องอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ชอบก็วิตกกังวลกันพอสมควร อยากจะให้สติพี่น้องเราทั้งสองฝ่ายว่าหมอดูก็คือหมอดู เราไม่ควรปักใจเชื่อมากนัก หากเชื่อมากเดี๋ยวสติแตก ตนแม้จะไม่เชื่อโดยสนิทใจ แต่ก็ไม่ลบหลู่หมอคนใดทั้งสิ้น เพียงแต่อยากให้เอาเหตุผลอื่นเข้ามาประกอบด้วย
“วันนี้อยากจะเอาคำพยากรณ์ทั้งสองหมอมาให้พี่น้องเราทั้งสองฝ่ายได้คิดกันเพื่อสร้างความสมดุลทั้งสองฝ่าย ดังนี้ครับ 1. หมออีทีของพม่า พยากรณ์ว่า “ตั้งแต่กลางปี 58 นี้เป็นต้นไปจนถึงปี 59 ผู้มีอำนาจของประเทศไทยจะสิ้นอำนาจชนิดไม่มีแผ่นดินอยู่ 2. หมอวารินทร์พยากรณ์ว่า “หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรีจะอยู่ในอำนาจอีก 3 ปี”
นายชินวัฒน์ระบุต่อว่า ทั้งสองหมอนี้ที่ตนเอามาเขียนก็เพื่อให้สติทั้งสองฝ่ายว่าทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน โดยเฉพาะโหราศาสตร์ อาจจะเรียนกันมาคนละตำราก็ได้ เมื่อเป็นอย่างนี้พี่น้องของตนทั้งสองฝ่ายอาจจะสบายใจขึ้นได้ ตนค่อนข้างจะเชื่อหมอวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งชื่อหมอวีรพงษ์ รามางกูร (ดร.โกร่ง) ที่บอกว่ารัฐบาลจะอยู่หรือจะไปไม่ใช่อยู่ที่ประชาชนออกมาขับไล่ แต่จะอยู่ที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ถ้ารัฐบาลใดบริหารประเทศดี เศรษฐกิจดี ประชาชนอยู่ดีกินดีรัฐบาลนั้นจะเป็นที่รักของประชาชนได้ แต่ถ้ารัฐบาลใดทำให้ประชาชนอดอยาก แม้จะมาอย่างไรก็ตามก็อยู่ไม่ได้