xs
xsm
sm
md
lg

ใช่ครับพี่ดีครับนายแต่ไม่ทำ-ตู่ซวย !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล
เกาะกระแส

00 ยังเดาอารมณ์ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. คนนี้ไม่ค่อยออก เพราะอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเครียด เดี๋ยวเล่นหัว จับทางไม่ค่อยถูก บางคนก็เดาเอาว่าที่ต้องออกอาการหงุดหงิดรุนแรงออกมาก็ต้องการกระทบชิ่งไปถึงคนข้างๆ ที่อยู่ใกล้ตัว ที่ทำงานไม่เข้าเป้า ไม่เข้าท่า ทำให้ตัวเองถูกวิจารณ์ในทางลบ และส่งผลให้ความศรัทธาเริ่มถดถอยลงมาเรื่อยๆ

00 ต้องยอมรับความจริงว่า ภาวะเศรษฐกิจเวลานี้ "ไม่เข้าเป้า" ไม่เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ความหวังที่คุยฟุ้งเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ปีนี้ (58) อัตราการขยายตัวจะต้องโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 แต่เอาเข้าจริง ไตรมาสแรกทุกอย่างหลุดเป้าหมด ทั้งการจัดเก็บรายได้ การส่งออก ความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมก็ลดลง และติดลบ มีเพียงการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ดูแล้วมีความหวังมากที่สุด เพราะโตสวนทาง ซึ่งพูดกันแบบชาวบ้านให้เข้าใจง่ายก็คือ มันส่งผลต่อเรื่อง "ปากท้อง" ชาวบ้าน เต็มๆ แม้ว่าจะอ้างเรื่องปัจจัยภายนอกที่ควบคุมยาก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าล้วนเดี้ยงมันก็อธิบายได้ แต่ชาวบ้านเขาไม่ค่อยสนหรอก คิดแต่เฉพาะหน้าว่า ทำไมถึงรายได้หด ขายของไม่ได้ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำลงทุกวัน

00 แม้ว่าผลสำรวจออกมาทีไร "ลุงตู่" ยังสอบผ่าน ด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยชาวบ้านยังยกนิ้วให้ แต่อีกด้านหนึ่ง ที่กลายเป็นแรงกดดันทุกที และหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็คือเรื่อง "ปากท้อง" ของแพง เรียกร้องให้รีบแก้ไขเสียที ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่บรรดา รมต.ที่โดนวิจารณ์หนักก็หนีไม่พ้น "หม่อมอุ๋ย"ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ หัวหน้าทีมศก. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ รวมไปถึง รมว.คลัง สมหมาย ภาษี ที่ก่อนหน้านี้พยายามเดินหน้าเรื่องภาษีที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง จนต้องสั่งลดเพดาน และชะลอออกไปก่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงกดดันในทางลบทั้งสิ้น แม้ว่าเรื่องภาษีเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำได้แล้ว และเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองปี เป็นเรื่องอนาคต แต่คนที่คิดริเริ่มมันก็ต้องโดนด่าอยู่แล้ว !!

00 ที่น่าจับตาก็คือข้าราชการ "เกียร์ว่าง" ที่มองในเชิงลึกแล้วนี่แหละคือปัญหาใหญ่ เพราะที่มาของเกียร์ว่างดังกล่าว มันมีหลายรายละเอียด แต่เรื่องเดียวกันก็คือความ "โคตรเขี้ยว" ของคนพวกนี้มาแต่ไหนแต่ไร และยิ่งมาเจอคำสั่งแบบทหาร มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ นึกภาพเลยว่าตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งแบบเข้ม คนพวกนี้ก็จะรับคำสั่ง พร้อมกันแบบครับผม "ใช่ครับพี่ ดีครับนาย ไม่มีปัญหา" แต่ "ไม่ทำ" นี่เป็นแบบเฉื่อยแฉะ เช้าชามเย็นชามมาแต่ไหนแต่ไรเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมนี่ก็อีกพวกหนึ่ง ส่วนอีกพวกหนึ่งเป็นพวก "ขี้ข้าเดิมของพวกนักการเมือง" ที่เฉื่อยงาน "วางยา" ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็รอ "นายจะกลับมา" ยิ่ง ลุงตู่ ยืนยันว่าจะเลือกตั้งปลายปี หรือต้นปีหน้ากลางปีหน้า คนพวกนี้ก็นับนิ้วรอ ช่วงนี้ก็อาจตามน้ำพอเป็นพิธีไปเรื่อยๆ แต่คนที่ซวยก็คือรัฐบาล และ คสช. เพราะเมื่อไม่เห็นงาน ชาวบ้านก็จะมองว่า "เสียของ" นี่แหละเรื่องใหญ่ !!

00 สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. รู้อยู่เต็มอกก็คือ การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ประเมินกันว่าเบิกจ่ายไปแค่ร้อยละ 20 เท่านั้น ทั้งที่น่าจะเป็นร้อยละ 40-50 ได้แล้ว หากคิดจะกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการลงทุนภาครัฐ ดังนั้นเมื่อเม็ดเงินยังไม่ลงไปถึงชาวบ้าน มันก็หยุดนิ่งไปหมด ดังนั้นทางที่จำเป็นก็คือ "ต้องคาดโทษ" กันลงไปเป็นลูกระนาด ตั้งแต่ รมต.ลงไปถึง ปลัดฯ อธิบดี ลงไป ให้เห็นผลงานแบบเป็น "ผลสัมฤทธิ์" แบบที่ชอบพูดกันนั่นแหละ ไม่งั้นก็งานไม่เดินหรอก ไม่งั้นลุงตู่ ก็จะยิ่งหงุดหงิดปรี๊ดแตกได้ทุกวันละทีนี้ !!
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กำลังโหลดความคิดเห็น