นายกฯ สั่งรองนายกฯ เรียกภาคเศรษฐกิจมาถามจะเอายังไง ยันกำลังแก้ปัญหาให้ แต่รับปัญหาหมักหมมมา 8 ปีไม่รู้จะจบหรือเปล่า ขออย่าโวย ลั่นจะดูทุกสื่อ ขู่คำสั่ง คสช.ยังอยู่ลืมกันหรือไง ย้ำภาษีมูลค่าเพิ่มยังไม่ขึ้น เร่งจัดระเบียบการค้า ชี้เหตุธุรกิจสีเทาหดทำเศรษฐกิจแย่ ปรามคลังไม่ต้องพูดแล้วภาษีที่ดิน ฉะไอ้หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมขอให้กูได้ด่า บอกให้มีประชาธิปไตยแบบผิดๆ มันไม่ได้ ระบุถ้าไม่รู้ทุกเรื่องไม่มาเป็นนายกฯ โว้ย ไม่มีเซ็นเรื่องส่งเดช เผยไม่มีความคิดเลิกโควตาสลากคนพิการ รับกำลังหาทางช่วยผู้ค้าสลากเร่ แย้มให้ไปรับสลากที่ศาลากลางแทนกรุงเทพฯ
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริหารงานของรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจว่า วันนี้หลายภาคส่วนออกมาโวยวายกัน ขอถามว่าจะรวมกันได้เมื่อไหร่ อยากให้รวมกันมา ตนได้สั่งรองนายกฯด้านเศรษฐกิจเรียกมาถามว่าจะเอายังไง เวลานี้ธนาคาร ก่อสร้างและทุกคนเอากิจการของตัวเองมาพูดหมด ซึ่งในภาพรวมรัฐบาลกำลังแก้ปัญหาให้ ขอให้เข้าใจ ไม่ใช่จะเดินหน้าไปแบบปกติ เพราะถ้าปกติคงไม่มีวันนี้ และที่มันเป็นอย่างนี้ ฐานรากความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มาจากใครทำไว้และมันจะเกิดได้ภายใน 8 เดือน ที่ตนอยู่ได้หรือไม่ ปัญหาที่หมักหมมอยู่ 8 ปีไม่รู้จะจบหรือเปล่า ขอให้เข้าใจกันบ้าง อย่าออกมาโวยวาย
“ผมกำลังทำทั้งภาคต่างประเทศและในประเทศ เชื่อมต่อกันด้วยเขตเศรษฐกิจชายแดน การค้าขายอาเซียน มันง่ายหรือไม่ แล้วที่ผ่านมาได้ทำห่วงโซ่ไว้หรือไม่ วางแผนถนนเส้นทางรถไฟ ที่เป็นเรื่องเป็นราวไว้หรือไม่ รวมถึงระบบบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลนี้ทำให้ทั้งหมด แต่ไปจบปี 2565 ซึ่งเวลานั้นผมไม่อยู่แล้ว จะทำต่อกันหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ วางกลไกให้ทำต่อก็ไม่ทำอีกก็กลับมาที่เก่าอีกนั่นแหละ พวกเราก็คล้อยตามเขียนกันไปเรื่อยให้สังคมแตกแยก แล้วผมจะได้อะไรขึ้นมาที่มาทำตรงนี้ผมไม่ใช่การเมืองไม่ได้ผลประโยชน์ไม่มีธุรกิจ ไม่ได้มาทวงอะไรหรอก แต่ผมทำให้คนไทย ใครที่ไม่เข้าใจ ไม่ใช่คนไทย ขอให้สื่อช่วยกันจากนี้ผมจะดูทุกสื่อและจำเป็นผมจะใช้อำนาจทุกคน ไม่ได้ไม่ให้วิจารณ์ ทำได้แต่ขอให้เข้าใจกันหน่อย วันนี้คำสั่ง คสช.ยังมีอยู่ ลืมกันหรือไงสบายกันเกินไปแล้วล่ะมั้ง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์รัฐบาลเตรียมขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มว่า ตนบอกไปแล้วว่าปี 2558 ยังไม่ขึ้นแน่นอน สื่อเขียนและถามอยู่ได้ว่ารัฐบาลจะรีดเลือดกับปู รัฐบาลรู้อยู่ว่าจน ก็เข้ามาดูแลคนจน แต่จนแล้วต้องอยู่ในระเบียบ ไม่ใช่จนแล้วจะทำอะไรหรือขายของตรงไหนก็ได้ วันนี้กำลังจัดระเบียบอยู่ เข้าใจธุรกิจสีเทาหรือไม่ เป็นเพราะทำความผิดอยู่เงินก็สะพัดอยู่ตรงนี้ พอมีการจัดระเบียบเงินก็หายไป นั่นแหละเศรษฐกิจแย่ลง อย่างอื่นมันแย่อยู่แล้วไม่ต้องมาพูดว่าแย่ลง ทำไมจะไม่แย่ไปดูโครงสร้างการทำงานที่ผ่านมา เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตนได้สั่งกระทรวงการคลังไม่ต้องพูดแล้ว ยิ่งพูดยิ่งไม่เข้าใจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังปรับให้เป็นสากล และเกิดความเป็นธรรม
“เด็กๆใครเคยเรียนเลขบ้าง 1% ของเงินหมื่นล้าน กับ 1% ของเงิน 5 ล้านเท่ากันหรือไม่นั่นแหละคือความแตกต่าง ดังนั้นเราต้องทำให้เกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำให้ความเป็นธรรม ใครมีทรัพย์สินมาก็เสียมาก มีน้อยก็เสียน้อย ต้องให้ความเท่าเทียมคนในประเทศไทย เพราะท่านเป็นประชาธิปไตย เรื่องภาษีบ้านและที่ดิน ผมไม่ได้เอื้อให้ใคร เขียนกันส่งเดช วันนี้เขียนอีกอยากให้นายกฯ กล้าออกภาษีตัวนี้ ไอ้หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมนั่นแหละ วันนี้จะกล้าหรือเปล่า มาตรากรออกมาวันแรกขอให้กูได้ค้านเถอะ ผมไม่เข้าใจ ทำอะไรก็ไม่ได้แล้วจะมาทำทำไม บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ และให้มีประชาธิปไตยแบบผิดๆ มันไม่ได้ และมาสร้างกระแสค่านิยมต่างๆ ผมถามว่าถ้าทุกคนมีเศรษฐกิจดีวันนี้มันน่าแปลกแสดงว่าธุรกิจผิดกฎหมายยังอยู่ หรืออีกอย่างคือที่ทำมาแล้วดีทั้งหมด ผมก็ไม่ต้องเข้ามา ทุกเรื่องผมตอบได้หมด เดี๋ยวก็หาว่าผมอธิบายคนเดียว รู้เรื่องหรือเปล่า ถ้าผมไม่รู้เรื่องไม่มาเป็นนายกฯ โว้ย อาจจะเป็นนายกฯ ที่รู้เรื่องมากที่สุดก็ได้ เพราะสั่งทุกเรื่องทุกกระทรวง ไม่ใช่ใครเสนออะไรก็เซ็นส่งเดช ไม่มีอยู่แล้ว ถ้าไม่เห็นด้วย ไม่อนุมัติ ไม่เข้า ครม.ก็จบ จะอะไรกันนักหนา ผมไม่ตามใจใครทั้งนั้น เรื่องน้ำ เรื่องรถไฟก็กำลังเดินหน้าทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงมาตรการรองรับหลังจากที่มีนโยบายให้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในร้านสะดวกซื้อซึ่งมีกลุ่มคนพิการที่มีอาชีพจำหน่ายสลากได้รับผลกระทบว่า “อะโธ่ ใครจะไปเลิกโควตาคนพิการ ถามไม่มีความคิดเลย ทั้งนี้ที่เขามาเรียกร้องก็เขาไม่เข้าใจ เพราะพวกเธอเขียนกันไปกันมาจนงงไปหมดแล้ว ส่วนแผนที่จะช่วยเหลือก็มีตั้งนานแล้ว ถ้าผมจะสั่งอะไรก็ต้องมีแผนและนึกถึงคนทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
“วันนี้ลอตเตอรี่ต้นทางมันออกมา สมมติ 65 บาท กว่าจะผ่านไอ้ห้าเสือห้าสิงห์กระทิงแรด ราคาก็ปาเข้าไป 70-80 บาท แล้วก็ต่อกันไปเป็น 90 บาท เป็น 100 บาท เป็นปัญหาอย่างนี้ตลอด แล้วยังมีการแบ่งโควตามูลนิธิ โควตาคนพิการ ในส่วนขายจริงก็ขายจริง ส่วนที่ไม่ขายจริงก็เพราะไม่มีเงิน เวลาที่ขายไม่หมดก็ไม่รู้จะไปคืนใคร ก็ไปขายคืนไอ้ห้าเสือนั่นแหละ โควตาเหล่านี้กลับไปที่ห้าเสือหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนคนที่เดินขายพวกนี้ก็จะเหนื่อย ก็กำลังแก้ทั้งหมดว่าจะทำอย่างไร 1. ก็ต้องหาเงินมาให้เขาขายคืนได้ 2. จะทำอย่างไรให้ขายปลายทางได้ 80 บาท ก็ต้องไปดูที่ต้นทุนว่าเหลือ 65 บาทได้หรือไม่ และอาจจะต่างกันว่าต้นทุนใน กทม.หรือต่างจังหวัด อาจจะมีค่าเดินทางต่างจังหวัดกำไรใบละ 10 บาทได้หรือไม่ ในกทม.จะเท่าไรไม่รู้ แต่ให้ได้กำไรสัดส่วนเท่าๆ กัน ส่วนการไปรับสลากนั้น กทม.ให้ไปรับที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนต่างจังหวัดให้ไปรับที่ศาลากลางจังหวัด ไม่ต้องวิ่งมาถึง กทม. ไม่ต้องเสียค่ารถ แล้วก็รับไปขายต่อในราคาที่มันกำไร พอใจไหม
“แต่ตอนนี้โควตาของนิติบุคคลของห้าเสือมันจะหมดเดือนกรกฎาคมนี้ ผมจะไม่ต่อโควตาให้ ไปว่ากันไปพิจารณากันใหม่ จะนำมาเติมให้คนพิการส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็นำไปขายในร้านสะดวกซื้อที่รับจ้างเป็นตัวแทนขายเท่านั้น ขายในราคา 80 บาท ซึ่งใครก็สามารถซื้อได้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องมีการควบคุม เพราะไม่ใช่ขนมยาอมที่ใครจะมาซื้อได้ แต่คนที่เดินขายก็ไม่ได้ยกเลิกไม่ได้ห้าม” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า เขาอยากได้ 15% ไม่ใช่ 7-8% นายกฯ กล่าวว่า “เขากำลังปรับกันกันอยู่ เดี๋ยวก็ตีหัวเลยนี่”