ASTVผู้จัดการ - เปิดประวัติ “เอนก ซานฟราน” ชี้ตั้งรกรากอยู่ในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ กว่า 20 ปี เปิดร้านอาหารไทยชื่อ “ราชาก๋วยเตี๋ยวเรือ” จนร่ำรวยมีหลายสาขา แหล่งข่าวชี้อาจถือพาสปอร์ตอิสราเอลอยู่ด้วย ด้าน ตม.ระบุไม่ปรากฎเคยกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย แต่สหรัฐฯ และไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยกรณีนี้จะเป็นกรณีแรกที่ไทยขอสหรัฐฯ ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีก่อการร้าย
จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 1 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการติดตามตัว นายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีปาระเบิดศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาว่า สถานะปัจจุบันตำรวจสากลประเทศไทยได้รับคำร้องจากพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ช่วยดำเนินการสอบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายมนูญ แต่คดีนี้ขั้นตอนยังไม่ถึงชั้นพนักงานอัยการ เพราะตำรวจยังไม่สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา ตำรวจสากลประเทศไทยจึงได้เตรียมส่งรายละเอียดคำร้อง ซึ่งยังไม่ใช่หมายแดงไปยังองค์กรตำรวจสากล ซึ่งมีสมาชิกอยู่ 190 ประเทศทั่วโลกภายในวันนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้นายมนูญเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว
สำหรับประวัติของ มนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน แหล่งข่าวในสหรัฐฯ ระบุว่า นายเอนกเดิมทีเป็นคนกรุงเทพฯ มีภูมิลำเนาอยู่ใกล้ค่ายทหารถนนสามเสน บิดาเป็นอดีตนายตำรวจยศร้อยตำรวจโทนอกราชการ ก่อนมาอยู่อเมริกานายเอนกเคยเป็นทหารและอาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอลจนได้รับสัญชาติและถือหนังสือเดินทางอิสราเอล
เอนกเข้ามาซุกหัวอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ราว 20 ปีก่อน โดยมาอาศัยทำงานอยู่กับพี่ชายชื่อ นายธนู ชัยชนะ ที่ร้านอาหาร Your Place เมืองเบิร์กเลย์ ทั้งยังออกหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ชื่อสยามนิวส์ และเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือนิวชุมชนของเชาว์ ซื่อแท้ โดยเชาว์นั้นเป็นอดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในประเทศไทย และในเวลาต่อมากลายเป็นแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในนครลอสแองเจลิส
ในส่วนของชีวิตครอบครัว ในหมู่คนไทยในซานฟรานซิสโกต่างทราบดีว่า เมื่อมาใช้ชีวิตในสหรัฐฯ เอนก เป็นคนกว้างขวาง ทั้งยังเจ้าคารมคมคาย ทำให้ต่อมาแต่งงานอีกสองครั้งกับสาวไทยในสหรัฐฯ และมีทายาททั้งหญิงและชายหลายคน
เอนก ซานฟราน มีธุรกิจร้านอาหารหลายสาขาโดยใช้ชื่อว่า King of Thai Noodle หรือราชาก๋วยเตี๋ยวเรือ ขณะเดียวกันก็เปิดบ้านให้คนไทยเช่าด้วย สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวที่เป็นธุรกิจหลักของเอนกนั้น เขาเคยร่วมหุ้นกับนายตำรวจใหญ่ของไทยหลายนายเพื่อเปิดสาขา King of Thai Noodle บนถนน Taraval โดยนายตำรวจกลุ่มดังกล่าวหลายคนเมื่อส่งลูกหลานมาเรียนที่ซานฟรานซิสโก ก็อาศัยให้นายเอนกช่วยดูแล
ร่ำลือกันว่าสถานที่ปักหลักอีกหนึ่งแห่ง คือ วัดพุทธประธีป ซานฟรานซิสโก ในเมืองซานบรูโน โดยเอนกสนิทสนมกับเจ้าอาวาสพระพุทธประทีป ชื่อ พระครูวรสิทธิวิเทศ (สิทธิพร มิตรวิเชียร) โดยวัดนี้มีโอกาสต้อนรับคนในตระกูลชินวัตรหลายครั้ง ทั้งนี้เมื่อมีชาวไทยมาถือป้ายต่อต้านระบอบทักษิณ นายเอนกก็มักจะออกมาข่มขู่ขับไล่
เมื่อครั้ง ทักษิณ ชินวัตร บินมาเยือนนครซานฟรานซิสโกในเดือนสิงหาคม 2555 นายเอนก ชัยชนะ ได้เปิดร้านอาหาร King of Thai Noodle สาขานอร์ทบีชของตนให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้รับประทานอาหารค่ำกับคณะนักธุรกิจเอเชีย-อเมริกัน
“นายเอนก ชัยชนะ นักธุรกิจร้านอาหารในเมืองซานฟรานซิสโก เจ้าของร้านอาหาร King of Thai Noodle แกนนำคนเสื้อแดงในซานฟรานฯ ได้ปิดร้านอาหารตั้งแต่เวลา 19.00 น. เพื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการส่วนตัว โดยมีการขึ้นป้ายภายในร้านว่า ‘คนเสื้อแดงซานฟรานฯ ยินดีต้อนรับ ฯพณฯ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร’ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงในซานฟรานฯ เดินทางเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด...” สำนักข่าวอิศรารายงาน (อ่าน : “แม้ว” บุกซานฟรานฯ สั่งชะลอแก้รธน.รับดึง 111 เสียบครม.ปู-บินประชิดไทยอีกปลายปีนี้)
นอกจากนี้ ที่ร้านอาหารดังกล่าวของนายเอนกยังใช้เป็นที่เปิดตัวสำนักงานองค์กรภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือทีเอเอชอาร์ (The Thai Alliance for Human Rights : TAHR) เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือเรื่องสิทธิมนุษยชนของคนไทยทั่วโลกที่อยู่ในต่างประเทศและในประเทศไทย ซึ่งมีนายเพียงดิน รักไทย ดำรงตำแหน่งประธาน ทั้งนี้ไม่เพียงนายเพียงดิน ซึ่งมีชื่อกระฉ่อนในการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงที่รู้จักสนิทสนมกับนายเอนก แต่ยังมี นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน “โรส ฉัตรวดี” หรือ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลซึ่งหลบหนีหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูง
เดือนสิงหาคมปี 2549 นายเอนกเคยถูกกลุ่มคนไทยในแคลิฟอร์เนียหลายสิบคนเข้าชื่อแจ้งความต่อสถานกงสุลไทยในลอสแองเจลิสให้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์จากกรณีการเลือกตั้ง 2 เม.ย.เป็นโมฆะ ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่านายเอนกมักจะออกรายการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง และกล่าววาจาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงในรายการชื่อความจริงประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง โดยมีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ยูทิวบ์ และเว็บไซต์ของกลุ่มคนเสื้อแดง
ด้วยเหตุนี้ชื่อของ เอนก ซานฟราน จึงติดอยู่ในรายชื่อผู้ต้องหาคดีพิเศษที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษถึง 2 คดี ได้แก่คดีพิเศษที่ 41/54 กล่าวหา นายมนูญ หรือ เอนก ชัยชนะ เผยแพร่คลิปภาพและเสียงเนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ผ่านเว็บไซต์ และคดีพิเศษที่ 42/54 กล่าวหา นายมนูญ หรือ เอนก ชัยชนะ โทรศัพท์แสดงความคิดเห็นกับสื่อท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2549 กรณีการเลือกตั้งเป็นโมฆะ มีข้อความพาดพิงสถาบันเบื้องสูง มีการดำเนินการขอให้มีการส่งตัวนายมนูญเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกาไม่มีความผิดข้อหานี้ จึงไม่เข้าเงื่อนไขของการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
หลังการรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 นายเอนกมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 10 ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 49/2557 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 57 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม โดยในเวลานั้น นายเอนกให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าจะไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อ คสช.เด็ดขาดโดยระบุว่าเพราะตนเป็นพลเมืองของประเทศอื่น ทั้งยังขู่ที่จะฟ้ององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อีกด้วย ทั้งนี้หลังรัฐประหาร 2557 เฟซบุ๊กร้านอาหาร King of Thai Noodle ยังปรากฎว่ามีการโพสต์เผยแพร่ข้อมูลของคนเสื้อแดงและการต่อต้านรัฐประหารในประเทศไทยจำนวนมาก
นอกจากคดีระเบิดศาลอาญา ชุดสืบสวนของเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนขยายผลย้อนหลังไปเมื่อเดือน ก.พ. 2558 เกิดในท้องที่ สน.โชคชัย นายมนูญ มีการติดต่อทางไลน์และโซเชียลมีเดีย กับ นางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือ “เดียร์” ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีปาระเบิดศาลอาญา ให้ติดต่อว่าจ้างหาคนก่อเหตุวางระเบิด 5 จุดในกทม.ได้แก่ ศาลอาญา, สวมลุมพินี, สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจตุจักร, กรมทหารราบ 11 รอ. และลานจอดโรงแรมสยามเคมปินสกี ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบมีการโอนเงิน 50,000 บาท ผ่านทาง นายวสุ เอี่ยมลออ ซึ่งขณะนี้ถูกทหารควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก เพื่อส่งต่อให้ผู้ร่วมขบวนการ ส่วนในครั้งนี้พบหลักฐานการโอนเงินของนายมนูญ ผ่านบัญชีนายธราเทพ มิตรอารักษ์ ลูกชายนางสุภาพร จำนวน 50,000 บาท เพื่อให้นำไปเยียวยาครอบครัวของคนที่ถูกจับ
สำหรับการตามล่าตัวนายเอนก ซานฟราน จากทางการไทย เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการ ว่านายเอนกไม่ได้ถือสัญชาติไทย โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ไมปรากฎว่านายเอนกเคยเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตามช่องทางปกติ แต่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน โดยในกรณีนี้จะนับว่าเป็นกรณีแรกที่มีการขอให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในคดีก่อการร้าย!