xs
xsm
sm
md
lg

ฮึ่ม!ใช้ม.112ฟันบีบีซีทำสถาบันเสื่อมเสีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360- นายกฯจวกบีบีซี หมิ่นเบื้องสูง ชี้ทำผิดกฎหมายไทย ก็ต้องถูกดำเนินคดี ไม่มีข้อยกเว้น ตร.ยันไม่มีหน่วยความมั่นคงเข้าตรวจค้นสำนักข่าวบีบีซี เตรียมพิจารณาเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำ แนะประชาชน อย่ากดไลก์-กดแชร์ เพราะอาจจะเข้าข่ายความผิด ผบ.ทบ. ลั่นใช้ม.112 อย่างเข้มข้น ไม่ยอมให้ใครทำสถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมเสีย ขณะที่วิทยุใต้ดินเสื้อแดงที่สปป.ลาว กลับมาออกอากาศโจมตีสถาบันอีกครั้ง สวนทางกับที่ "ประวิตร" อ้างคุยกับทางการลาว สั่งปิดแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีสื่อต่างชาติ โดยเฉพาะบีบีซี นำเสนอข่าวหมิ่นสถาบันฯ ของไทยว่า ถ้าสื่อต่างประเทศนั้นมีสาขาอยู่ในประเทศไทย และมีนักข่าวคนไทยอยู่ เมื่อทำผิดกฎหมายไทย ก็ต้องดำเนินคดี เหมือนเราไปอยู่ประเทศอื่น ถ้าเราทำผิดในประเทศเขา เราก็โดนดำเนินคดีเหมือนกัน ดังนั้นกฎหมายไทยก็เหมือนกัน ในต่างประเทศเขาอาจจะเห็นว่าไม่ผิด ตรงนี้ตนไม่รู้ แต่ในประเทศไทยถือว่าผิด ยกเว้นไม่ได้ ใช้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อ หรือใคร ถ้าผิดก็ต้องผิด ดังนั้นจะทำอะไรก็ต้องระวังก็แล้วกัน อย่าไปทำผิดที่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวคนอื่นเขา จนทำให้เกิดความวุ่นวายสับสน มาตรา 116 ก็มี ถ้าทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก็ต้องดำเนินคดี ตนไม่ได้ขู่ ดังนั้นถ้าต้องการให้ประเทศชาติสงบสุข ก็ต้องช่วยกัน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการต่อ เพจ บีบีซีไทย ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ว่า เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องดำเนินการไป อะไรที่ผิดกฎหมาย ก็ดำเนินการทั้งหมด ไม่ละเว้น เมื่อถามย้ำว่า จะมีการฟ้องร้องหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็ว่ากันไป อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามขั้นตอน ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนการที่ตรวจค้นนั้นเป็นเรื่องที่เขาทำตามหน้าที่ ไปดูว่ามีอะไรผิดบ้าง ส่วนจะเป็นเพจจริงหรือไม่ สื่อก็น่าจะรู้ดีกว่าตน และถึงแม้จะมีสำนักงานอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ใช้คนในประเทศไทยไม่ใช่หรือ เป็นเพื่อนๆ สื่อกันทั้งนั้น ต้องไปดู

เมื่อถามว่าต้องสั่งปิดสำนักงานในไทย หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนยังไม่รู้เลยว่าปิดอะไร ต้องรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการ อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีอะไร

**ตร.ยันไม่ได้บุกค้นบีบีซีตามกระแส

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาราชการ แทนผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 (รรท.ผบก.ส.4) กล่าวถึง กรณีมีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังตรวจค้นที่ทำการสำนักข่าวบีบีซีประจำประเทศไทย ที่อาคารมณียา ว่า ยืนยันจากการตรวจสอบไม่มีตำรวจและทหาร หรือ หน่วยงานความมั่นคงเข้าไปตรวจค้นที่ทำการสำนักงานข่าวบีบีซี ตามที่มีกระแสข่าวออกมา แต่ยอมรับว่า ตำรวจ บก.ปอท. เตรียมตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว รวมทั้งเตรียมพิจารณาเชิญตัวแอดมินของเว็บไซต์บีบีซีไทย ผู้แปล บรรณาธิการ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันฯ เข้าให้ปากคำ หลังขยายผลของ สภ.เมืองขอนแก่น ที่ควบคุมตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ที่ถูกจับกุมตามหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์ลิงก์ รายงานข่าวของบีบีซีไทย นอกจากนี้ยังเตรียมตรวจสอบเว็บไซต์อื่น ที่อาจเข้าข่ายในลักษณะความผิดเดียวกัน

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอแนะนำประชาชนไม่ควรแชร์ข้อมูลต่างๆ ที่อาจเข้าข่ายความผิด รวมถึงไปรวมตัวกันบริเวณหน้าสำนักข่าวบีบีซีประจำประเทศไทย ขอให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

**ผบ.ทบ. ลั่นใช้ม.112 อย่างเข้มข้น

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.กล่าวถึงนโยบายของกองทัพบก ในการดูแลปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังในหลวงรัชกาลที่ 10 ขึ้นทรงราชย์ ว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องยอมรับว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานหลายร้อยปี หากพูดเต็มปากคือ บ้านเมืองเราที่มีเอกราช มีความเจริญรุ่งเรื่องมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจุดศูนย์รวมดวงใจประชาชนทุกคน

"การที่จะมีใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นแตกต่างด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม อาจจะด้วยวัฒนธรรมจากสังคมอื่นก็ตาม เพื่อทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมเสีย โดยที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เป็นเรื่องที่พวกเราเองที่เป็นกำลังหลัก คือ กองทัพ คงยอมไม่ได้ ฉะนั้น ในเรื่องดังกล่าวเราจะบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างเข้มงวดกวดขันกับบุคคลากรที่แสดงออกในพฤติกรรมที่สังคมไทยไม่ยอมรับ ผมต้องฝากเน้นย้ำกับบางคนที่ไม่มีจิตใจตามที่กล่าว แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แชร์ โพสต์ ข้อความต่อ เมื่อเป็นความผิดแล้ว ต้องดำเนินการ ผมเองจะดำเนินการเข้มงวด กวดขันในเรื่องนี้" พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

*** เสื้อแดงไทยปลุกวิทยุจากลาวโจมตีสถาบัน

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า เครือข่ายวิทยุออนไลน์ของเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันเบื้องสูง กระจายเสียงจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้กลับมาออกอากาศอีกครั้งในเว็บไซต์ยูทูป ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยนักจัดรายการวิทยุที่ออกมาเคลื่อนไหว ประกอบด้วย ลุงสนามหลวง หรือนายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ อดีตประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่เบื้องหลังสถานีวิทยุแห่งนี้, ขุนทอง ไฟเย็น หรือนายไตรรงค์ สินสืบผล, สหายหมาน้อย หรือ นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ อดีตแกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี, แยมมี่ ไฟเย็น หรือ น.ส.รมย์ชลี สมบูรณ์รัตนกูล, กลุ่มสามสหาย รวมทั้งผู้ใช้นามแฝง ดีเจขันแดง และดีเจข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น

ทั้งนี้ เครือข่ายวิทยุออนไลน์ดังกล่าว ได้ออกอากาศโดยมีเนื้อหาโจมตีสถาบันเบื้องสูง รวมทั้ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมทั้งยังมีการถ่ายทอดเสียงจากเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดงในประเทศอื่นๆ เช่น นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือ เพียงดิน รักไทย, นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน, นายปวิณ ชัชวาลย์พงศ์พันธ์, นายจอม เพ็ชรประดับ ฯลฯ โดยพบว่ามีการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย จาบจ้วงสถาบันอย่างรุนแรง และคนไทยสามารถเข้าชมคลิปรายการได้ตามปกติ โดยทางยูทูปทำได้แค่ล็อกช่อง (Channel) ไม่ให้ผู้ชมในประเทศไทยมองเห็นเพลย์ลิสต์เท่านั้น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สวนทางกับที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ (ADMM Retreat) ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 16 - 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ระบุว่า ได้ขอบคุณและชื่นชมทางการลาว สั่งปิดรายการวิทยุโจมตีสถาบันฯ และรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น