รองนายกฯ ยังไม่ทราบรายละเอียดนิรโทษกรรม ยันหน้าที่หัวหน้าทีมศึกษาร่างรัฐธรรมนูญแค่ดูภาพรวม เผยมีหลาย 10 กระทรวงชงปัญหามาแล้ว เล็งส่งความเห็นกลับ กมธ.ยกร่างฯ 2 บัญชี แก้ไขกับไม่แก้ นัดตั้งกรรมการตรวจสอบการใช้เงินสาธารณสุขวันนี้ ไม่เน้นตัวบุคคล แต่จะเป็นเหตุผลเพื่อไปตัดสินใจอะไรบางอย่าง
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอให้มีการนิรโทษกรรมผู้ชุมชุมทางการเมืองทุกฝ่ายเพื่อสร้างความปรองดองว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าวเพราะไม่ได้เสนอมาที่ตน คิดว่าน่าจะเสนอไปที่นายกรัฐมนตรี จากนั้นค่อยมาถึงตน ตอนนี้เห็นแต่เพียงในข่าว เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่า ตนดูในภาพรวมของรัฐธรรมนูญเท่านั้น เพราะต่อไปรัฐบาลต้องทำความเห็นส่งไปยัง กมธ.ยกร่างฯ คล้ายๆกับการแปรญัตติ เป็นการเตรียมการเมื่อถึงเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ต้องแจ้งความเห็นไปยัง กมธ.ว่าอยากให้แก้ไขในเรื่องอะไร ถ้าเห็นด้วยก็แก้ให้ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่แก้ให้ เพราะหลายคนมีความเห็นไม่เหมือนกัน จะเอาใจทุกคนไม่ได้ โดยตนจะทำหน้าที่ดูในส่วนของรัฐบาล เมื่อมีความเห็นแล้วจะต้องรายงานไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบ เพื่อเป็นท่าทีของ ครม.ไปถึง กมธ.ยกร่างฯ ตอนนี้ได้ให้แต่ละกระทรวงดูว่ามีปัญหาขัดข้องตรงไหน ซึ่งมีการรายงานมาแล้วกว่าสิบกระทรวง แต่อยากให้ทำความเห็นมาใหม่เพราะตอนที่ทำความเห็นนั้นเป็นร่างรัฐธรรมนูญเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมามีการแก้ไขอะไรแล้วก็ให้ช่วยดูใหม่
เมื่อถามว่า ประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า การเสนอความคิดเห็นไปยังกรรมาธิการนั้นเป็นประเด็นที่รัฐบาลเห็นว่าควรจะต้องแก้ไขโดยจะทำเป็นบัญชีแรก แต่ในส่วนที่คนอื่นเขาเป็นว่าเป็นปัญหาแล้วรัฐบาลไม่เห็นด้วย ตอนนี้กำลังพิจารณาว่าอาจจะทำเป็นบัญชีที่ 2 หรือไม่ เพราะเขาอาจจะไม่มีช่องทางเสนอไปยัง กมธ.ยกร่างฯ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของ ครม.
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการใช้เงินกองทุนต่างๆ ภายในกระทรวงสาธารณสุขว่า วันนี้จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยทาบทามบุคคลไว้แล้วแต่ต้องรอการยืนยันหลังจากบุคคลเหล่านั้นขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้ว ขาดเพียงแค่คนสองคน และคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะใช้คนไม่มาก เพราะต้องเร่งดำเนินการ อีกทั้งเรื่องที่จะตรวจสอบไม่ใช่เป็นการสอบตัวบุคคล เนื่องจากการสอบตัวบุคคลได้ดำเนินการไปแล้ว โดยจะทำหน้าที่สอบเรื่องเงิน เรื่องงบประมาณ แต่ผลการดำเนินการก็จะเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะนำไปประกอบการพิจารณาคณะกรรมการชุดแรก เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจอะไรบางอย่าง