รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ขอชาวเหนือปิดบ้านช่วงเช้า ไม่เผา ช่วยลดหมอกควัน ให้ อปท.รณรงค์จริงจัง ไม่ใช่แค่ 2 ครั้งแล้วเลิก ห่วงเอาแต่จับก็เจอแต่ชาวบ้าน ระบุนายกฯ สั่งผู้ว่าฯ ร่วมปรึกษาหามาตรการรัดกุม รายงานส่วนกลางทุกวัน ยันบังคับใช้กฎหมาย แต่พอเจอเหตุจากก้นบุหรี่ หรือเผาบนดอยก็จับใครไม่ได้ ชี้อยู่ที่สำนึก ต้องใช้เวลา
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาไฟป่า และหมอกควันไฟในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนว่า จากการประชุมที่ จ.เชียงใหม่เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ขอให้ประชาชนปิดบ้านในช่วงเช้า และขอให้ช่วยกันรณรงค์ไม่เผา โดยให้ภาครัฐอย่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ใช่รณรงค์ครั้งสองครั้งแล้วเลิกรากันไป ช่วยกันคิดว่าหากไม่เผาจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะถ้าใช้กฎหมายจับกุมก็มีแต่ชาวบ้านทั้งนั้น สงสารเขา ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อปท.ร่วมกันปรึกษาหารือดำเนินมาตรการอย่างรัดกุม ให้มีผลเป็นรูปธรรมและรายงานส่วนกลางทุกวัน
เมื่อถามว่า ถึงขั้นจะต้องสั่งการงานไปยังหน่วยงานภาครัฐหรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า จากการประชุมเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมาแม่ทัพภาคที่ 3 ได้พูดชัดเจนว่าบ้านของเราจะให้ใครมารักษาบ้านของเรา อปท.ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านต้องช่วยกันดูแลรักษาหวงแหน
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังแล้วหรือยัง ม.ล.ปนัดดากล่าวว่าก็บังคับใช้อยู่ แต่การที่มีคนทิ้งก้นบุหรี่ไว้ แล้วไฟไหม้จะไปจับมือใครดมก็ไม่ได้ หรือการเผาบนดอยก็จับใครไม่ได้ เรื่องนี้อยู่ที่ความสำนึกและความรับผิดชอบร่วมกันซึ่งต้องใช้เวลา