xs
xsm
sm
md
lg

“ปู-แม้ว” นอนไม่หลับลุ้นศาลรับฟ้องอาญาจำนำข้าว 19 มี.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่าจะมีคำอธิบายออกมาจากปากของ “กูรูด้านกฎหมาย” อย่าง วิษณุ เครืองาม ที่เวลานี้รั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า ในวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะแถลงว่าจะรับฟ้องคดีอาญาที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในกรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนก่อให้เกิดความเสียหายนั้น เธอยังไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ศาลจะแจ้งต่ออัยการเท่านั้น ว่า รับฟ้องหรือไม่รับฟ้อง หากไม่รับฟ้องก็ถือว่าจบกัน

แต่ในทางตรงกันข้าม หากศาลฎีกาฯรับฟ้อง ศาลก็จะนัด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะจำเลยมารับฟังในคราวต่อไป ซึ่งตอนนี้แหละต้องมา เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น เชื่อว่า ทั้งเจ้าตัว และคนในเครือข่ายทั้งหลายต้องลุ้นให้หวยออกแบบแรกนั่นคือ ไม่ฟ้อง

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากความเสียหายจากมูลค่าโครงการ สำนวนการชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เป็นเอกฉันท์ และมีการตรวจสอบสำนวนร่วมกันกับอัยการสูงสุดที่เห็นพ้องให้มีการฟ้องอาญา มันก็ยิ่งทำให้ “มัดแน่น” เพิ่มน้ำหนักมากขึ้นว่าหวยน่าจะออกมาแบบอย่างหลังมากกว่า แม้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ เพียงแต่อดไม่ได้ที่จะเดากันล่วงหน้าจากองค์ประกอบข้างต้นดังกล่าวนั่นแหละ

แน่นอนว่านี่คือ คดีอาญา หากศาลรับฟ้องในวันที่ 19 มีนาคม นั่นก็ย่อมหมายความว่า สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย่อมต้องเกิดความยุ่งยากตามมา เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าคดีอาญาย่อมหมายถึงการเสี่ยงคุกตะราง ซึ่งสำหรับเธอรวมไปถึงใครก็ตามย่อมต้องทุกข์ใจทุกราย และโดยเฉพาะสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ซึ่งในความเป็นจริงที่เป็นเพียง “หุ่นเชิด” ทางการเมือง ถูกส่งมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพื่อแสตมป์โครงการตามคำแนะนำของพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยิ่งไปกันใหญ่

ในวันที่ 19 มีนาคม สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และครอบครัว เป็นวันที่มีความหมายยิ่งใหญ่มาก เพราะศาลฎีกาฯรับฟ้องนอกจากเป็นการนับถอยหลังเสี่ยงคุกตะรางเป็นครั้งแรก และอาจพลิกผันชะตาชีวิตของเธอแบบไม่น่าเชื่อเลยก็ได้ และที่จะตามมา ก็คือ การถูกฟ้องในทางแพ่ง ซึ่งแม้ว่าตามขั้นตอนยังคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ แต่เมื่อคดีอาญาเดินหน้าแล้ว คดีแพ่งคงไม่ต้องพูดถึง และความเสียหายที่ประเมินเอาไว้เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท ตามการประเมินจากตัวเลขทางบัญชีของคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของกระทรวงการคลัง ก่อนหน้านี้ มันก็พูดได้คำเดียวว่าอ่วม และล่าสุด ตามข่าวระบุว่า คนที่ร่วมประเมินความเสียหายมีชื่อของ สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นอดีตประธานอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ร่วมประเมินความเสียหายทางแพ่งด้วย มันก็ต้องหนาวอยู่แล้ว

แน่นอนว่า สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเจอกับชะตากรรมแบบนี้ เคยมีความสุขจากการเป็นนายกรัฐมนตรี สร้างสถิติเดินทางไปต่างประเทศมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำคนอื่นๆ ส่วนจะมีผลงานอะไรบ้างนั้น หรือเกิดคำถามมากมายระหว่างนั้น ทุกคนคงทราบกันดี แต่มาวันนี้เป็นวันที่เธอต้องนอนไม่หลับ นอนไม่หลับมาตั้งแต่ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี โดยอัตโนมัติ และที่สำคัญ หากถูกฟ้องคดีอาญาในกรณีโครงการรับจำนำข้าว รวมไปถึงคดีแพ่งตามมาอีก นั่นหมายถึงอนาคตทางการเมืองก็จบเห่ มีสิทธิ์ถูกห้ามเข้าสนามตลอดชีวิต ตามคุณสมบัติต้องห้ามของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงวันที่ 19 มีนาคม วันที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องชี้ชะตาว่าจะเสี่ยงคุกหรือไม่นั้น วันที่ 17 มีนาคม เครือข่ายลูกน้องเก่า อย่างอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภูมิ สาระผล กับพวก จะโดนอัยการสูงสุดส่งฟ้องคดีอาญาในกรณีทำสัญญาขายข้าวจีทูจีปลอม ซึ่งบุคคลที่มีรายชื่อดังกล่าวคาดว่าจะต้องถูกฟ้องทางแพ่งร่วมกับเธอในโอกาสต่อไปอีกด้วย

ดังนั้น หากมองเข้าไปในหัวใจของสองพี่น้องทั้ง ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเวลานี้ก็ย่อมต้องใจระทึก นอนไม่หลับ นั่งไม่ติดกับการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 19 มีนาคม เพราะถ้ารับฟ้อง ทุกอย่างก็นับถอยหลังทันที !!
กำลังโหลดความคิดเห็น