รองนายกฯ เผยสรุปคลังยื่นฟ้องแพ่ง “ยิ่งลักษณ์” พาณิชย์ฟ้อง “บุญทรง” พร้อมพวก 21 ราย แต่ยังไม่ทราบ ป.ป.ช.เรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ เตรียมตั้ง กก.พิจารณาข้อเท็จจริงโดยไม่มีนักการเมืองยุ่ง ยันไม่เกี่ยวคดีประกันราคาข้าวยุค “อภิสิทธิ์” แต่เชื่อยังอีกยาวมากกว่า 4 เดือน ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แย้มรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญแก้ได้เมื่อแม่น้ำ 5 สายส่งมาถึง
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการฟ้องร้องความเสียหายทางแพ่งต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในโครงการรับจำนำข้าวว่า หลังจากได้ประชุมเรื่องดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม จึงมีความชัดเจนขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวกทั้งหมด 21 คน ทั้งนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเรื่องมาให้ ครม.ได้รับทราบเมื่อวานที่ผ่านมาแล้ว โดยการเรียกร้องค่าเสียหายนั้นเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ยังไม่ทราบ โดยการฟ้องร้องทางแพ่งนั้นไม่เหมือนกับการฟ้องทางอาญา ถือเป็นการเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องเฉลี่ยค่าเสียหายทั้งหมดก่อนเข้ากระบวนการศาล
นายวิษณุกล่าวว่า ทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรงจะมีความผิดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจาณาของศาล แต่ที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องมาถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ในส่วนค่าเสียหายต้องมาดูอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กรณีของนายบุญทรงนั้นขณะนี้เรามีรายชื่อผู้ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบทั้งหมดแล้ว แต่จะต้องดูว่าจะเรียกค่าเสียหายคนละเท่าไหร่ โดยตามกฎหมายกำหนดให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาสอบข้อเท็จจริงและพิจารณากำหนดค่าเสียหาย กรรมการชุดดังกล่าวยังไม่มีการกำหนดตัวบุคคล แต่เป็นข้าราชการประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอาญาการ โดยไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถ้าจะจำคุกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมีทางแพ่งและอาญา
เมื่อถามว่าจะโยงกับถึงกรณีโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตรงนี้เฉพาะตามที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องมา ตามมาตรา 73 มีเพียงคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง ส่วนคดีของคนอื่นทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้ส่งเรื่องมา เรื่องดังกล่าวจะผิดไม่ผิดก็อยู่ที่ศาล ศาลอาจจะฟังจากคดีอาญาแล้วบอกว่าคดีแพ่งเป็นอย่างไรก็ได้ แต่ขั้นตอนในคดีนี้ยังอีกยาว ทั้งนี้ในวันที่ 19 มีนาคม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจะชี้ว่าจะรับฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ และขณะนี้ศาลได้ตั้งคณะผู้พิพากษา 9 คนครบแล้ว
“วันที่ 19 มีนาคมจะมีคำสั่งว่าจะรับหรือไม่รับ ถ้ารับคุณยิ่งลักษณ์ก็จะมีฐานะเป็นจำเลย ก็จะสู้คดีอาญาไป แต่คดีทางแพ่งยังไม่เริ่มกระบวนการ โดยต้องเริ่มจากกรรมการชุดที่ 1 ทำงานไปประมาณ 4 เดือน จากนั้นกรรมการชุดที่ 2 คือกรรมการรับผิดทางแพ่ง โดยอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงลงมือฟ้อง คดีทางแพ่งอายุความ 2 ปี หมดอายุความกุมภาพันธ์ 2560” นายวิษณุกล่าว
นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายระบุว่ากรณีนี้เป็นคดีการเมืองนั้น ต้องว่ากันในกระบวนการของศาล รัฐบาลไม่สามารถสั่งหยุดดำเนินการได้ แต่เชื่อว่าในทางแพ่งศาลจะดูการพิจารณาทางอาญาประกอบด้วย แต่ในบางครั้งคดีอาญาผิดแต่ทางแพ่งไม่ผิดก็มี ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ส่งหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานต่างๆ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลว่า ขณะนี้ก็สามารถแก้ไขได้ทั้งหลักการและในรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายนจะมีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญโดย สปช.และ สนช.แล้วส่งต่อมายังรัฐบาล ซึ่งในเวลานั้นสามารถแก้ไขได้ แม้แต่ในหลักการใหญ่ก็ตาม
“ตอนนี้เขาทำมาเองแล้วไม่มีใครไปบอกให้เขาแก้ เขาก็ไม่รู้จะไปแก้ไขได้อย่างไร ไม่รู้จะไปเอาใจใคร แต่ตอนที่ส่งเข้ามาเป็นทางการ อันนั้นปรับแก้ไขได้ ตัดทิ้งเป็นโหมดๆก็ได้ เพิ่มเป็นโหมดๆ ก็ได้ เมื่อแม่น้ำ 5 สายอยากแก้อะไรก็บอกได้” นายวิษณุ กล่าว