อัยการศาลทหารปล่อยตัวชั่วคราว 4 แนวร่วมต้านรัฐบาล คสช. จัดกิจกรรมอยากเลือกตั้งหน้าหอศิลป์ ปทุมวัน นัดรายงานตัว 27 มี.ค. อีกด้านหนึ่งกลุ่มมวลชนชู 3 นิ้ว ใช้ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เคลื่อนไหว “พลเรือนต้องไม่ขึ้นศาลทหาร” ก่อนไปโวยวายหน้าศาลทหาร “พ่อเฌอ” ปากกล้าร้อง “ประยุทธ์” จ้างนักสร้างภาพลักษณ์ทำงานให้ดีกว่า
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 14.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ยื่นเรื่องส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ เฌอ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายชุมนุมปี 2553 และ นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ หรือ กึ๋ย อาชีพขับรถแท็กซี่ และ นายสิริวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ต่ออัยการศาลทหารฯ เพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อตุลาการศาลทหารฯ เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการจัดการชุมนุมเกินกว่า 5 คน และความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีจัดกิจกรรมเลือกตั้งที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ต่อมาเวลา 18.30 น. ทางอัยการศาลทหารฯ ได้พิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีเงื่อนไข และนัดรายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 27 มี.ค. นี้
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 15.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มมวลชนที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ภาคบัณฑิต), นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ และนายรังสิมันต์ โรม นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนนักศึกษาจากหลายสถาบัน นัดรวมตัวกันแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการตั้งโต๊ะลงชื่อคัดค้าน “พลเรือนต้องไม่ขึ้นศาลทหาร?!” และขึ้นป้ายโจมตีทหารบริเวณลาน 60 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เยื้องประตูทางเข้าหอประชุมใหญ่ จากนั้นแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาว่า ศาลทหารต้องให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และทางกลุ่ม ศนปท. จะปักหลักรอคำสั่งศาลทหารฯ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะไม่เคลื่อนย้ายไปชุมนุมที่หน้าศาลทหาร แต่หากทั้ง 4 คนไม่ได้ประกันตัว ทางกลุ่ม ศนปท. จะปรึกษาหารือเพื่อหามาตรการกดดันต่อไป จากนั้นนายปิยรัฐได้นำนักศึกษาทำสัญลักษณ์ทางการเมืองด้วยการชู 3 นิ้ว
ต่อมาเวลา 17.30 น. กลุ่ม ศนปท. ได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่งและเดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มายังบริเวณหน้าศาลทหาร กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม เพื่อให้กำลังใจผู้ต้องหาที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. และกฎอัยการศึกทั้ง 4 คน ที่พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำตัวมาส่งฟ้องต่ออัยการศาลทหารฯ ในวันนี้ ขณะเดียวกันกลุ่มดังกล่าวยังได้ใช้โทรโข่งขยายเสียง กล่าวโจมตีการทำงานของศาลทหารฯ โดยระบุว่า ไม่เป็นไปตามหลักของกระบวนการยุติธรรม รวมถึงเรียกร้องให้พลเรือนไม่ต้องขึ้นศาลทหารฯ อีกด้วย พร้อมท้าทายให้เจ้าหน้าที่รัฐจับกุม อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มดังกล่าวมาถึงหน้าศาลทหารฯ ทางเจ้าหน้าที่ทหารประจำศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประตูทางเข้า-ออกทันที และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยจัดกำลัง สารวัตรทหารจากกระทรวงกลาโหมมาเพิ่มเติมในศาลทหารจำนวน 1 ชุด ขณะที่ในช่วงเวลาดังกล่าวศาลทหารฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีด้วย
ต่อมาเวลา 18.35 น. นายอานนท์ กล่าวว่า ขอขอบคุณอัยการศาลทหารที่ให้โอกาสเราออกมาสู้คดี เราจะยืนยันตามหลักเกณฑ์ของเราเหมือนเดิม โดยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สำหรับการเคลื่อนไหวต่อไปตนและเครือข่ายยังไม่ได้คิด ถ้าจะมีการจัดกิจกรรมต้องไม่เกิดความวุ่นวาย หรืออาจจะไม่มีก็ได้ เราจะพิจารณาเป็นเรื่องๆ ตนยืนยันตอนนี้ว่าจะตั้งหน้าตั้งตาสู้คดีในศาลทหารฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ศาลทหารฯ ได้นัดมารายงานตัวอีกครั้งวันที่ 27 มี.ค. นี้
ด้าน นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นอดีตพนักงานภาคเอกชนในบริษัทยักษ์ใหญ่ ขอเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เลิกเชื่อทหารที่อยู่รอบข้างได้แล้ว ขอให้ไปจ้างนักสร้างภาพลักษณ์จากเอกชนฝีมือดีมาทำงานให้ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่อัยการศาลทหารมีคำสั่งปล่อยตัวทั้ง 4 คน ทางกลุ่ม ศนปท. ได้แสดงความพอใจและรวมตัวกันเดินทางกลับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทันที โดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น
