สปช.เจ้าภาพจัดประชุมแม่น้ำ 5 สาย สโมสรกองทัพบก “บิ๊กตู่” ถกนอกรอบแกนนำ 5 สาย กำชับทุกฝ่ายต้องทำงานสอดคล้องกัน ทั้งแก้ปัญหาทุจริต วางอนาคตประเทศให้เข้มแข็ง รับเหตุรีดภาษีเพราะงบฯ ลงทุนไม่พอ ด้านสโมสรฯ ยอมลดราคาข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว จากจานละ 120 เหลือ 80 แถมเอาใจนักข่าว ข้าวราด 2 อย่าง 50 ถ้าราด 3 อย่าง 60 บาท
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (11 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมร่วม 5 ฝ่าย เพื่อติดตามการขับเคลื่อนการทำงานตรามโรดแมปครั้งที่ 3 ประกอบด้วย คสช. คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมครั้งนี้ สปช.เป็นเจ้าภาพ
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมประธานแม่น้ำ 5 สาย พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้หารือนอกรอบก่อนประชุมอย่างเป็นทางการ ที่ห้องรับรองชั้น 1 เป็นเวลา 30 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลังกัน ขณะที่เรื่องของอาหารสวัสดิการสโมสรทหารบกที่ก่อนนี้มีการเสนอข่าวว่าราคาอาหารแพง ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวราคา 120 บาท พบว่ามีการปรับราคาลงมาเหลือ 80 บาท และการประชุมครั้งนี้ทางสโมสรทหารบกได้จัดอาหารเป็นข้าวราดแกงจำหน่ายเฉพาะสื่อมวลชน เช่น ผัดกะเพราไก่ ผัดผักรวมมิตรใส่หมู ไข่ดาว โดยข้าวราดสองอย่างราคา 50 บาท และราด 3 อย่าง ราคา 60 บาท ขณะที่การประชุม 5 ฝ่ายมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิก คสช.เข้าร่วมการประชุมด้วย
จากนั้น เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวก่อนเข้าสู่วาระการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อประสานสอดคล้องให้การทำงานเดินหน้าไปได้ ทุกคนทราบถึงสถานการณ์ในปัจจุบันดีว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาทำงานร่วมกัน ด้วยเหตุผลความจำเป็นที่ต้องมีแม่น้ำ 5 สาย ที่ทุกสายต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน สิ่งสำคัญทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่าวันนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริตคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใส จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ ปัญหาต่างๆ ก่อนหน้านี้มีมายาวนานจำเป็นต้องมีการปฏิรูปและกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทุกครั้งเท่าที่ติดตามมาไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นทุกอย่างต้องทำงานให้สอดคล้องเพื่อวางอนาคตสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศ และอยากให้สื่อสารกับประชาชนด้วยว่าการบริหารราชการแผ่นดินในวันนี้ งบประมาณด้านการลงทุนไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องหาเงินมา จึงมีเรื่องการจัดเก็บภาษีมาพิจารณา