อนุฯ ด้านสื่อและโทรคมนาคมฯ ยื่นหนังสือประธาน สนช.สอบ กสทช.ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการกำหนดค่าโทรศัพท์มือถือตามเวลาใช้งานจริง ขณะที่ องค์กรอิสระคุ้มครองผู้บิโภคฯ ยื่นให้สอบ กสทช.ไม่ตรจสอบ SLC ซื้อหุ้นเครือแกรมมี่-เนชั่น หวั่นขัดเจตนารมณ์ป้องกันการครอบงำกิจการ ขัดต่อประกาศ กสทช.
ที่รัฐสภา วันนี้ (11 มี.ค.) นางมณี จิระโชติมงคลกุล อนุกรรมการด้านสื่อและโทรคมนาคม องค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 ขอให้ตรวจสอบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีไม่ดำเนินการกำหนดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามระยะเวลาการใช้งานที่เป็นจริงโดยไม่ปัดเป็นเศษนาที
นางมณีกล่าวว่า แม้ กสทช.จะเชิญประชุมผู้ให้บริการโทรคมนาคม และเตรียมกำหนดรายการส่งเสริมการขายคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาที เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคภายในวันที่ 1 มี.ค. 2558 นั้น แต่คณะกรรมการฯ ยังไม่ถือว่าการดำเนินการดังกล่าวของ กสทช.เ ป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง เนื่องจากรายการส่งเสริมการขายที่ออกมาของแต่ละบริษัท มีการให้ข้อมูลที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จึงเห็นว่า กสทช.ควรมีมาตรการทางกฎหมายในการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามจริงไม่ปัดเศษวินาทีเป็นนาที เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
จากนั้น นางจิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ยื่นหนังสือต่อนายสุรชัยขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ กสทช. ตามมาตรา 27 (11) และ (17) แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยกล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้ติดตามกรณีที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1988) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เข้าซื้อหุ้นบริษัท เครือแกรมมี่ และบริษัทสื่อเครือเนชั่น โดยที่บริษัท SLC มีสถานะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นรานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ช่องสปริงนิวส์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินระบบดิจิตอล ประเภทหมวดหมู่ข่าวสาร
ต่อมาได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่เกินร้อยละ 10 ของบริษัทเครือเนชั่น ซึ่งมีสถานะเป็นผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล ประเภทหมวดหมู่ข่าวสารสาระเช่นกัน คณะกรรมการฯ และเครือข่ายผู้บริโภค จึงมีความกังวลว่าการเข้าถือหุ้นในกิจการสื่อเกิน 3 กลุ่มบริษัทอาจขัดต่อเจตนารมณ์ในการป้องกันการครอบงำกิจการ และอาจขัดต่อประกาศ กสทช. รวมถึงข้อกฎหมายเรื่องการป้องกันการผูกขาด จึงขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของกสทช.ต่อกรณีดังกล่าว
ด้านนายสุรชัยกล่าวว่า จะรับทั้งสองประเด็นส่งไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตรวจสอบให้ เพราะอยู่ในแนวทางการปฏิรูปอยู่แล้วซึ่ง กสทช.จะต้องรีบดำเนินการ