“อุดมเดช” นำคณะเยือนมาเลเซีย กระชับสัมพันธ์กองทัพ พร้อมยกระดับการพัฒนางานด้านการข่าวระหว่างกองทัพบกสองประเทศ รับลูกนายกฯ สั่งกำลังพลเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ปัญหาหมอกควัน
ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (11 มี.ค.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมคณะเดินทางไปเยือน ผบ.ทบ.ประเทศมาเลเซีย ในฐานะที่มีความสัมพันธ์กว่า 58 ปี โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า เป็นการเดินทางไปเยียมเยือนเพื่อสานความสัมพันธ์ตามคำเชิญ ผบ.ทบ.มาเลเซียที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศซึ่งปัจจุบันความร่วมมือก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปในครั้งนี้ก็จะไปยกระดับและพัฒนางานด้านการข่าวระหว่างกองทัพบกไทยและกองทัพบกมาเลเซียประเด็นงานด้านความมั่นคง ตลอดจนถึงการปฏิบัติงานร่วมการตามแนวชายแดน การลาดตระเวนร่วมกันเพื่อให้มีการทำงานให้มากขึ้นในรอบปีนี้ ประกอบกับจะช่วยลดความกระทบกระทั่งตามแนวชายแดนอีกด้วย
นอกจากนี้จะไปดูโครงการที่เกี่ยวพันกัน อาทิ หมู่บ้านชายแดนคู่ขนาน ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 จำนวน 5 หมู่บ้าน โครงการปลูกป่าอาเซียน ตามนโยบายเดิมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจนการสานต่อโครงการรั้วชายแดน ที่ได้ดำเนินการเสร็จแล้วบางจุด แต่ยังขาดบางจุดที่ยังไม่เรียบร้อย จึงถือเป็นช่องทางลักลอบเข้าออกของผู้กระทำผิดกฎหมายด้วย
ส่วนแนวทางสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ทางมาเลเซียได้มอบหมายตำรวจสันติบาล และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ในส่วนกองทัพบกมาเลเซียจะสนับสนุนความเรียบร้อยตามแนวชายแดนที่เป็นส่วนช่วยในการดูแลกการเข้าออกของบุคคล ที่เป็นปัจจัยหนึ่งของปัญหาก่อเหตุรุนแรง เพราะฉะนั้นในส่วนนี้คิดว่าจะช่วยควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงได้
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปมาเลเซียในครั้งนี้จะไม่หยิบยกการพูดคุยสันติสุขมาหารือ เพราะเรื่องดังกล่าว ทาง พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะหัวหน้าชุดพูดคุยกำลังดำเนินการอยู่แล้ว
พล.อ.อุดมเดชยังกล่าวถึงงานเร่งด่วนในการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า ทางกองทัพบกพร้อมหน่วยงานราชการได้ช่วยเหลือบรรเทาผู้ประสบปัญหาภัยแล้งด้วยการแจกจ่ายน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคไปกว่า 7 ล้านลิตรแล้ว ทั้งนี้เบื้องต้นพบว่ามีผู้ประสบภัยแล้วกว่า 20 จังหวัดในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 บางส่วน อีก 17 จังหวัด นอกจากนี้ นายกฯ ได้สั่งการลงมาให้ทางกองทัพรีบไปช่วยเหลือประชาชน ด้วยการหารายได้เพิ่ม ตามโครงการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนจำนวน 3,057 ตำบลในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 กว่า 2,000 ตำบล อย่างไรก็ตาม ตนได้เน้นย้ำไปยัง พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้ติดตามโครงการให้บรรลุไปตามเป้าหมาย รวมกองทัพภาคอื่นๆ ด้วยที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาหมอกควัน ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเบื้องต้นทราบมาว่าแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นมาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือ ทั้งการใช้อากาศยาน รถยนต์ของทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
