พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวก่อนออกเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคมนี้ ว่า การเยือนครั้งนี้เป็นการเดินทางไปตามคำเชิญของผู้บัญชาการทหารบกมาเลเซีย ซึ่งจะมีการพูดคุยเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ รวมถึงจะมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ โดยเฉพาะการยกระดับด้านการข่าว ที่จะแลกเปลี่ยนปัญหาด้านความมั่นคง การปฏิบัติร่วม การรักษาแนวชายแดน เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการจัดลาดตระเวนร่วมกัน โดยจะเพิ่มความถี่ให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะมีการสานต่อโครงการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ทั้งในเรื่องหมู่บ้านชายแดนคู่ขนาน โครงการปลูกป่าอาเซียน และรั้วชายแดน ซึ่งบางจุดที่ยังไม่เรียบร้อยจะต้องมีการป้องกันการลักลอบเข้า-ออก และการขนสิ่งของผิดกฎหมาย
ส่วนความร่วมมือในการทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นนั้น ทางการมาเลเซียได้มอบหมายให้สันติบาล และสำนักข่าวกรอง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีทหารบกมาเลเซียดูแลด้านความมั่นคง โดยเฉพาะจุดผ่านแดน ทั้งนี้ ไทยจะขอความร่วมมือให้เพิ่มการตรวจบุคคลเข้า-ออก ที่อาจจะเข้ามาสร้างความรุนแรง และควบคุมการก่อเหตุ
ขณะที่การพูดคุยสันติภาพ จะมีการสนับสนุนให้กระบวนการพูดคุยเกิดขึ้น
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวอีกว่า ในส่วนงานเร่งด่วนที่กองทัพจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งกองทัพบกได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหามาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะการใช้อากาศยานหรือรถเพื่อทำสเปรย์น้ำ รวมทั้งทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อป้องกันการเผาทำลายจนเกิดไฟไหม้ ซึ่งจะเพิ่มความเข้มงวดในการให้ความช่วยเหลือประชาชนมากยิ่งขึ้น
ส่วนการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ในวันนี้ กองทัพจะมีการชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินงานด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และการให้ความช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ จะมีการสานต่อโครงการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ทั้งในเรื่องหมู่บ้านชายแดนคู่ขนาน โครงการปลูกป่าอาเซียน และรั้วชายแดน ซึ่งบางจุดที่ยังไม่เรียบร้อยจะต้องมีการป้องกันการลักลอบเข้า-ออก และการขนสิ่งของผิดกฎหมาย
ส่วนความร่วมมือในการทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นนั้น ทางการมาเลเซียได้มอบหมายให้สันติบาล และสำนักข่าวกรอง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีทหารบกมาเลเซียดูแลด้านความมั่นคง โดยเฉพาะจุดผ่านแดน ทั้งนี้ ไทยจะขอความร่วมมือให้เพิ่มการตรวจบุคคลเข้า-ออก ที่อาจจะเข้ามาสร้างความรุนแรง และควบคุมการก่อเหตุ
ขณะที่การพูดคุยสันติภาพ จะมีการสนับสนุนให้กระบวนการพูดคุยเกิดขึ้น
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวอีกว่า ในส่วนงานเร่งด่วนที่กองทัพจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งกองทัพบกได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหามาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะการใช้อากาศยานหรือรถเพื่อทำสเปรย์น้ำ รวมทั้งทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อป้องกันการเผาทำลายจนเกิดไฟไหม้ ซึ่งจะเพิ่มความเข้มงวดในการให้ความช่วยเหลือประชาชนมากยิ่งขึ้น
ส่วนการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ในวันนี้ กองทัพจะมีการชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินงานด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และการให้ความช่วยเหลือประชาชน