สนช.เผยการต่ออายุ ป.ป.ช.เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง อยู่ที่ คสช.จะพิจารณา ส่วนการสรรหาใหม่ทำได้ตาม กม.ป.ป.ช. แต่อาจเกิดปัญหาในอนาคตหาก รธน.ออกมาแล้วมีกติกาที่แตกต่างจากเดิม
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอต่ออายุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าหากพิจารณาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีที่กรรมการ ป.ป.ช.หมดวาระการดำรงตำแหน่ง กำหนดให้มีกรรมการสรรหาเลือกกรรมการ ป.ป.ช.แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยกรรมการสรรหา ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานรัฐสภา และผู้นำฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรรมการสรรหาเหลือเพียง 4 คน เนื่องจากไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน แต่กระบวนการสรรหาก็ยังดำเนินการได้ เพื่อให้ สนช.ให้การรับรอง ดังนั้นถ้ายึดตามกฎหมาย ป.ป.ช.คิดว่าสามารถสรรหาใหม่ได้ เพราะเรายังใช้กฎหมาย ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องถอดถอนได้เลย ซึ่งในกรณีนี้เป็นการพิจารณาตามกฎหมาย ป.ป.ช. หมายถึงการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ที่หมดวาระใหม่ทั้ง 5 คน ไม่ใช่การต่ออายุกรรมการป.ป.ช. แต่ถ้าพิจารณาจากเหตุผลความจำเป็นเรื่องความต่อเนื่องในการพิจารณาคดี โดยให้เป็นการต่ออายุกรรมการป.ป.ช. ตรงนี้สนช.ไม่มีอำนาจหน้าที่ คงเป็นเรื่องของทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะพิจารณา
นพ.เจตน์กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้กำลังมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ หากใช้กติกาเก่าเราก็ยังไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะออกมาแบบไหน หากมีการสรรรหากรรมการ ป.ป.ช.ในช่วงเวลานี้ เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ออกมาแล้วรายละเอียดมีความแตกต่างจากกติกาเดิมก็จะทำให้มีปัญหา ดังนั้นการเว้นวรรคการสรรหา เพื่อรอคอยรัฐธรรมนูญใหม่น่าจะเป็นวิธีการที่ถูกต้องและให้เป็นเรื่องที่ คสช.พิจารณา