คกก.ปฏิรูปพุทธศาสนาปิดจ็อบยุติบทบาท เหตุบรรลุเป้าหมายแล้ว รับได้ผลเกินคาด

“ไพบูลย์” แถลงยุติ คกก.ปฏิรูปพระพุทธศาสนา เหตุทำตามหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ได้ข้อมูลครบ ชงสรุปถึงประธาน สปช. รับพุทธศาสนิกชนตื่นตัวปกป้องศาสนา ได้ผลเกินคาด เผยประธานให้ลุยต่อแต่บรรลุเป้าหมายแล้วเลยหยุด หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย จึงปิดจ็อบ



วันนี้ (6 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงยุติบทบาทของคณะกรรมการฯ ว่าตามที่ประธาน สปช.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยให้มีหน้าที่วิเคราะห์ประเด็นปัญหาของพุทธศาสนา 4 ประการ 1. ศาสนสมบัติของวัดและของพระภิกษุสงฆ์ 2. ปัญหาของพระสงฆ์ที่ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย 3. การทำให้พระวินัยวิปริต 4. เรื่องของฝ่ายอาณาจักรที่ต้องเข้าไปสนับสนุนปกป้องกิจการของฝ่ายศาสนาจักร ขณะนี้คณะกรรมการได้ศึกษาปัญหาตามหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว โดยได้ทำการประชุมถึง 5 ครั้ง มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแล้ว จึงได้ทำหนังสือสรุปรายผลการศึกษาถึงนายเทียนฉาย กีรนันทน์ ประธาน สปช.ลงวันที่ 6 มี.ค.ได้รับทราบแล้ว ถือว่าภารกิจได้บรรลุเป้าหมายทุกประการที่เป็นปัญหาในสังคม ทำให้พุทธศาสนิกชนและพุทธบริษัทเกิดความตื่นตัว มีส่วนร่วมในการออกมาปกป้องพิทักษ์พุทธศาสนาแล้ว ถือว่าได้ผลเกินความคาดหมาย คณะกรรมการได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้วซึ่งจะเน้นไปที่การบังคับใช้กฎหมายและการปรับปรุงกฎหมายให้มีความถูกต้องมากขึ้น

เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดนี้ยุติการศึกษาแล้วใช้หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า “ปิดจ็อบแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมามีแรงทักท้วงมาก แม้ประธาน สปช.จะเห็นว่าให้เดินต่อไป แต่คณะกรรมการชุดนี้ก็เห็นว่าเมื่อทำงานบรรลุเป้าหมายก็ไม่ควรเดินหน้าต่อ เพราะผลประโยชน์ที่ได้รับจะน้อยกว่า และประธาน สปช.อาจถูกต่อว่าได้ แต่ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการก็จะให้การสนับสนุนทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบต่อไปในรูปแบบเครือข่ายของ สปช.ที่ทำหน้าที่ในส่วนของฆราวาส เบื้องต้นก็จะติดตามกรณียักยอกเงินสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น และการกลั่งแกล้งพระภิกษุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปกครองของสงฆ์”