เลขาฯ ปปง. อธิบดีดีเอสไอ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าพบรองนายกฯ คุยคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น “วิษณุ” เผยข้อเท็จจริงโจทก์และจำเลยตรงกัน เงินเอี่ยววัดพระธรรมกาย 684 ล้านบาท คาด 16 มี.ค. ชัดคืนเงินยังไง เผยวัดเตรียมตั้งกองทุนหาเงินบริจาคคืนเงินแทนพระที่รับเงินไป รับฟังพนักงานสอบสวนแล้วไว้ใจ เชื่อกระแสเบาลงหลังชุดปฏิรูปยุบตัว
วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัวแทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ารายงานความคืบหน้าคดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น โดยใช้เวลา 3 ชั่งโมง จากนั้น นายวิษณุ กล่าวภายหลังรับทราบความคืบหน้าว่า พอใจการทำงานของแต่ละหน่วยงาน ขณะนี้ที่ดำเนินการกันอยู่ เป็นคดีอาญาของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ และพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐานยักยอกทรัพย์ 3 คดี ซึ่งอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องต่อศาล ส่วนคดีทางแพ่งที่สหกรณ์ฯ ฟ้องเรียกเงินกับนายศุภชัย และพวกอีก 3 คดี โดยศาลนัดพิจารณาคดีในช่วงปลายเดือน เม.ย.
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับกรณีสหกรณ์ฯ ดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย และพระที่มีส่วนเกี่ยวข้องถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีอีกหลายคดี ขณะนี้ทั้งโจทก์และจำเลยตกลงรับข้อเท็จจริงว่า เงินที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ทั้งให้กับพระและวัดได้ประโยชน์ หรือที่วัดได้รับประโยชน์โดยตรงมีทั้งสิ้น 684 ล้านบาท โดยในวันที่ 16 มี.ค. ผู้ที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปศาลแพ่งเพื่อตกลงกันต่อหน้าศาลว่าจะทำอย่างไรต่อไป ส่วนต้องคืนเงินอย่างไรหรือไม่นั้นจะมีความชัดเจนในวันดังกล่าว นอกจากนี้ กรณีที่มีพระรับเงินไปแต่ไม่เกี่ยวข้องกับวัดให้ไปเรียกจากพระองค์นั้นเอง ทั้งนี้ ตนทราบมาว่าทางวัดพระธรรมกายจะมีการจัดตั้งกองทุนรับบริจาคเพื่อหาเงินมาคืนสหกรณ์ฯ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดคดีจึงมีความล่าช้าและยังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ นายวิษณุ กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า ขณะนี้ นายศุภชัย ยังไม่ตกเป็นจำเลยในคดีอาญา อาจเป็นเพียงผู้ต้องหาอยู่ และได้รับการประกันตัว จากนี้จึงต้องว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งจากการรับฟังการชี้แจงในวันนี้ตนรู้สึกไว้ใจพนักงานสอบสวนในการดำเนินการ จึงขอให้ไว้ใจเขา
เมื่อถามถึงการนัดหมายชุมนุมของพระสงฆ์ทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 12 มี.ค. นี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้รับรายงานมาเป็นระยะ แต่ไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ และเชื่อว่านาทีนี้คงมีการทำความเข้าใจกันได้แล้ว เนื่องจากทุกฝ่ายเริ่มเห็นข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจในการยุบคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางมาตรการการป้องกันพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมการดังกล่าวได้ยุบตัวเองลงไปแล้ว กระแสจึงเบาลงไป