กมธ.ยกร่างฯ ยัน “ทิชา” โวย กมธ.ไม่เอาด้วยกับสัดส่วนสตรี 1 ใน 3 เข้าเป็นผู้บริหารท้องถิ่นจนต้องลาออก ไม่กระทบการยกร่าง รธน. ยัน กมธ.รังฟังความเห็นทุกฝ่าย “อลงกรณ์” เผยใช้เสียงข้างมากตัดสิน และยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เชื่อไม่เป็นชนวนคว่ำร่าง รธน.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่นางทิชา ณ นคร อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้แถลงสาเหตุการลาออกจากตำแหน่งว่า ถือเป็นเรื่องดีและเป็นการพูดออกมาจากใจ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญต่อจากนี้ เพราะแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น มีมุมมองของตัวเอง เป็นเรื่องปกติและทำหน้าที่ด้วยความสุจริตอยู่แล้ว
ส่วนกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เห็นต่างจากนางทิชาเรื่องการกำหนดสัดส่วนสตรี จำนวน 1 ใน 3 เข้าไปเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ก็มีเหตุผลของตัวเอง ซึ่งก็ต้องรับฟังด้วย พร้อมระบุส่วนตัวเห็นด้วยกับนางทิชา เพราะส่วนท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกับประชาชน หากมีสัดส่วนของสตรีเข้าไปก็จะเป็นประโยชน์ แต่ไม่เห็นด้วย หากจะกำหนดสัดส่วนเพศในการทำหน้าที่ระดับชาติ และยืนยันด้วยว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย ซึ่งบทบัญญัติส่วนใหญ่ที่ยกร่างไปแล้วนั้น มาจากข้อเสนอและการรับฟังความเห็นของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช.
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิก สปช.เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นมุมมองของแต่ละคน การยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญมากกว่ากฎหมายอื่นย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันและเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย อยู่ที่ว่าคณะกรรมาธิการยกร่างจะจัดการความแตกต่างเช่นนี้อย่างไร ที่ปกติใช้เสียงข้างมากในการตัดสิน
“เป็นไปไม่ได้ที่กรรมาธิการยกร่างฯ จะไม่รับฟังความเห็นของบุคคลภายนอก เพราะที่ผ่านมา ได้รายงานให้ที่ประชุม สปช.รับทราบตลอดว่าทุกครั้งจะนำความเห็นของ สนช. สปช. และประชาชนมาพิจารณาประกอบการยกร่างเสมอ และเชื่อว่าประเด็นดังกล่าว จะไม่เป็นชนวนเหตุให้คนไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะการยกร่างฯ ขณะนี้เป็นเพียงด่านแรก ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงและทบทวนอีกครั้งก่อนที่จะส่งให้ สปช.พิจารณาในวันที่ 17 เม.ย. 2558 นี้”