“มติชน” เคลียร์ “บวรศักดิ์” ยันไม่ได้อคติ - ค่ายอื่นปูด “สื่อซ่อนเร้น” จวกไม่ทันการณ์ทำน้ำผึ้งหยดเดียว

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - มติชนอ่อนข้อ ยอมเจียดหน้าในลงคำชี้แจง อ้างที่ใส่อัญประกาศ “คนไทยไม่พร้อมเท่าเทียม” เป็นแนวคิด ไม่ใช่คำพูดบวรศักดิ์ กลับลำฝากพวกโซเชียลฯ ตัดต่อ บอกให้หยุดทันที ด้านคอลัมนิสต์ค่ายอื่นจวกเละ “สยามรัฐ” ห่วงรับผิดชอบไม่ทันการณ์ หวั่นทำน้ำผึ้งหยดเดียว “โพสต์ทูเดย์” ด่ายับ “สื่อซ่อนเร้น” แฉบางแห่งเกาะเศษกระดาษหากิน แหกโผโน้มน้าวทำลายกระบวนการตรวจสอบ อ้างเท่าเทียมท่าเดียว

วันนี้ (3 มี.ค.) หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 13 ได้ตีพิมพ์ข่าวหัวข้อ “มติชน” ชี้แจงกรณี “บวรศักดิ์” ระบุว่า “1. กรณีข้อเขียนในคอลัมน์โครงร่างตำนานคน เรื่อง “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ - ท้าทายความรู้เท่าทัน” ในมติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. 2558 ข้อความในอัญประกาศหรือเครื่องหมายคำพูด ที่ระบุถึงแนวคิดที่เห็นว่าประชาชนไทยยังไม่พร้อมที่จะมีสิทธิโดยเท่าเทียมกัน ฯลฯ นั้น ไม่ใช่คำพูดของนายบวรศักดิ์ แต่เป็นการหยิบยกเอาเนื้อหาของแนวคิดดังกล่าวมาอ้างอิงเป็นส่วนหนึ่งในข้อเขียน โดยไม่ได้มีเจตนาให้เข้าใจว่าเป็นคำพูดของนายบวรศักดิ์ และไม่ได้ระบุแต่อย่างใดว่าเป็นคำพูดของนายบวรศักดิ์

หากการที่ข้อความดังกล่าวมีเครื่องหมายคำพูด อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นคำพูดของนายบวรศักดิ์ ทางกองบรรณาธิการต้องขออภัยต่อนายบวรศักดิ์ มา ณ ที่นี้

กองบรรณาธิการไม่เห็นด้วยที่มีการนำเอาข้อความในเครื่องหมายคำพูด ไปตัดต่อใส่รูป นายบวรศักดิ์ เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นคำพูดของนายบวรศักดิ์ และ ขอเรียกร้องให้ผู้กระทำดังกล่าวยุติการกระทำทันที

2. กรณีพาดหัวข่าว การลาออกของ นางทิชา ณ นคร ในมติชนฉบับวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. เป็นการพาดหัวตามเนื้อหาข่าว ซึ่งเนื้อหาข่าวทำนองเดียวกันนี้ ปรากฏในหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ เมื่อนายบวรศักดิ์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มติชนก็ได้เสนอข่าวตามคำชี้แจงของนายบวรศักดิ์

ทั้งนี้ มติชนขอน้อมรับข้อวิพากษ์วิจารณ์ของนายบวรศักดิ์ และขอยืนยันว่า ทั้งกรณี 1 และ 2 เป็นการเสนอข้อคิดเห็นและข่าวตามบทบาทหน้าที่ ไม่ได้มีอคติหรือเจตนาร้ายต่อนายบวรศักดิ์แต่อย่างใด

กองบรรณาธิการมติชน”

ขณะเดียวกัน คอลัมน์ “เรียงคนมาเป็นข่าว” หน้า 4 โดยนามปากกา “กาแฟป่า” ระบุในตอนท้ายของบทความ ว่า “ข้อเขียนในคอลัมน์ “โครงร่างตำนานคน” มติชนฉบับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขียนถึง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ กับการร่างรัฐธรรมนูญ โดยที่บางตอนในข้อเขียนระบุข้อความทำนองว่า ประชาชนยังโง่เขลาเบาปัญญา ไม่พร้อมจะมีสิทธิมีเสียง ปรากฏว่าโลกออนไลน์นำไปแชร์ ยกให้เป็นคำพูดของ “บวรศักดิ์” ซึ่งที่จริงไม่ใช่คำพูดของ “บวรศักดิ์” แต่อย่างใด แต่เป็น “วาทกรรม” จากเวทีชุมนุมทางการเมืองที่แพร่หลายมานานแล้ว การจับไปเชื่อมต่อเช่นนั้น สร้างความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายแก่ประธาน กมธ. และ กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงขอทำความเข้าใจและขอได้โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย”

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อเขียนหนังสือพิมพ์รายวันฉบับต่างๆ ที่วิจารณ์ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ถูกบิดเบือนคำพูดบนหน้าหนังสือพิมพ์นั้น พบว่ามีเนื้อหาที่น่าสนใจ ได้แก่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ คอลัมน์ “สังคมสยามรัฐ” โดยนามปากกา “ศรพระราม” ระบุในตอนหนึ่งว่า ปรากฏว่ามีการแชร์ข้อความพร้อมรูปภาพของ “บวรศักดิ์” ในสังคมออนไลน์ นำมาจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ข้อความดูถูกประชาชนคนไทยโง่เขลาเบาปัญญายังไม่พร้อมที่จะมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน เพราะคนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความคิด และจิตสำนึกประชาธิปไตยที่แท้จริง

“ศรพระราม ได้รับไลน์ข้อความและภาพดังกล่าว เบื้องแรกอ่านก็ยังเข้าใจว่า “บวรศักดิ์” ทำไมถึงพูดจาดูถูกคนไทย และเหมือนจงใจ “เรียกแขก” เช่นนี้ ทว่าต่อมา “บวรศักดิ์” ก็ออกมาแถลงชี้แจงว่าถูกบิดเบือน และเรียกร้องให้สื่อที่นำเสนอข้อความดังกล่าว แสดงความรับผิดชอบแล้วก็ไม่รู้จะทันการณ์ไหม เพราะภาพและข้อความในคอลัมน์ถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายจุดชนวนให้คนไม่พอใจอย่างกว้างขวางก็น่าเห็นใจ และเป็นห่วงว่าจะกลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว”” ข้อเขียนดังกล่าว ระบุ

ขณะที่ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ คอลัมน์ “เหนี่ยวไก” โดย ขำ เคืองใจ หัวข้อ “สื่อซ่อนเร้น” ระบุในตอนหนึ่ง ว่า สำหรับคนทำงานสื่อต่างรับรู้ถึงความเป็นไปของพรรคพวกในวงการ ใครดีใครชั่ว แม้กระทั่งพวก 18 มงกุฎ ที่ดำรงตนเกาะเศษกระดาษหากิน อยู่ที่ว่าจะสาวไส้ให้กากินหรือไม่ ประชาชนคนทั่วไปสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของสื่อที่เกิดขึ้นมากมายนับตั้งแต่ปี 2549 และคงตั้งคำถามในใจเหมือนกัน ทำไมสื่อบางที่บางแห่งถึงเป็นไปได้มากมายขนาดนั้น

“บ่อยครั้งมักพบสื่อบางแห่งนำเสนอประเด็นโน้มน้าวให้ผู้คนพิทักษ์ปกป้องกลุ่มคณะการเมืองที่สร้างความระยำตำบอนให้บ้านเมืองจนหลงลืมว่า สาเหตุที่บ้านเมืองเกิดความแตกแยกก็มาจากกลุ่มคณะการเมืองเหล่านี้ แปลกแต่จริง เมื่อผู้คนส่วนใหญ่เห็นความผิดปกติวงการสงฆ์ ปรารถนาให้มีการตรวจสอบเข้มข้นก็มีสื่อบางแห่งแหกโผออกมาโน้มน้าวให้ทำลายกระบวนการตรวจสอบ น่าขันกว่านั้น มีความพยายามอ้างเอ่ย กำลังทำหน้าที่รักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย คำนึงถึงความเท่าเทียม ซึ่งดูเป็นประโยคสวยหรู แต่แท้จริงเหมือนมีไว้บดบังพฤติกรรมซ่อนเร้นอะไรบางอย่างมากกว่า” ข้อเขียนดังกล่าว ระบุ

ส่วน หนังสือพิมพ์คมชัดลึก คอลัมน์ “ที่นี่ กม. 4.5” โดย นายเด็ดดวง ระบุในตอนหนึ่ง ว่า งานนี้ต้องบอกก่อนว่า เห็นใจ “ท่านบวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องรับหน้าเสื่อ โดนถล่มแหลก แถมล่าสุดยังโดนโลกโซเชียลลากออกมาก่นด่า ทำเอาตั้งตัวไม่ติด ...ด้วยเหตุ เพราะมีคอลัมน์ฮิตในหนังสือพิมพ์ดัง อ้างคำพูดของบวรศักดิ์ ทำให้คนเข้าใจผิดว่า “เขาเป็นคนที่มีแนวคิดเหยียดหยามประชาชนส่วนใหญ่ว่าโง่เขลาเบาปัญญา” จนถูกนำไปขยายผลในเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง “เรื่องที่เกิดขึ้น” จะเป็นเรื่องจงใจ หรือเข้าใจผิด กันอย่างไรก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างฯ อย่างบวรศักดิ์ ได้ออกมาปฏิเสธข้อเขียนดังกล่าวแล้ว แถมยังพิจารณาด้วยว่า จะฟ้องร้องหรือไม่ ก็คงต้องรอดูกันว่า เมื่อบรรณาธิการสื่อใหญ่ชี้แจงแล้ว จะจบหรือไม่... แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ “อิทธิพลของโลกโซเชียล” ที่วันนี้ “สามารถชี้เป็นชี้ตายได้เลยทีเดียว”