เกาะกระแส
00 ผลการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาลและ คสช.เมื่อวันอังคารที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และแถลงผลการประชุมโดย นายกฯและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าให้เลื่อนการพิจารณาการยื่นสิทธิ์ขอเปิดสัมปทานและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 21 ออกไปอย่างน้อย 3 เดือน ระหว่างนี้ให้ สนช.พิจารณแก้ไขกม.ที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นเสียก่อน โดยให้คณะกรรมการที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นหลังจากตั้งเวทีเพื่อระดมความเห็นจากภายนอกที่ทำเนียบรัฐบาลไปเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ผลที่ออกมาแบบนี้อย่างน้อยในเบื้องต้นก็ถือว่า "น่าชื่นใจ"ได้ระดับหนึ่ง เป็นการแสดงให้เห็นว่าได้รับความเห็นต่างอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ดันทุรังตั้งธงเอาไว้ล่วงหน้า
00 การชะลอเปิดสัมปทานปิโตรเลียมโดยให้มีการพิจารณาแก้ไขกม.ที่เกี่ยวข้องใน 3 เดือน ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็ต้องขอบคุณฝ่ายภาคประชาชนที่ช่วยกันทำการบ้านเสาะหาข้อมูล มีการรณรงค์ให้ความรู้กับสังคมได้ศึกษากันหลายมุมจนเกิดพลัง ต้องขอบคุณ อดีต รมว.คลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่นำเสนอข้อมูลอย่างมีน้ำหนักมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งบนเวทีและนอกเวทีถือว่าทำได้เต็มที่และน่ายกย่อง รสนา โตสิตระกูล สปช.ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิ์ชาวบ้านมานานตั้งแต่เรื่องท่อก๊าซปตท. มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี รวมทั้ง ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หรือแม้กระทั่งคนอื่นที่เอ่ยชื่อกันไม่ได้หมด ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน แม้ว่าการชะลอการเปิดสัมปทาน เพื่อรอแก้ไขกม.เสียก่อน จะยังไม่รู้ว่าบทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไรกันแน่ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ยังถือว่ามีแนวโน้มในทางบวกมากขึ้นกว่าเดิมก็แล้วกัน !!
00 ขณะเดียวกันหากพิจารณากันในข้อเท็จจริงอีกมุมหนึ่ง ก็อาจมองได้เหมือนกันว่า "กระแสต้าน"จากพลังทางสังคมนั้น"แรงขึ้น"เรื่อยๆ จนฝ่ายอำนาจรัฐ"ไม่กล้าหัก"กันตรงๆ เพราะกลุ่มนี้มองได้ชัดไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องผลประโยชน์ของคนไทย และระยะหลังเริ่มมี"ความรู้สึกร่วม"กันมากขึ้นทุกวัน จนไม่อาจมองข้ามกันอีกต่อไป อีกทั้งโจทย์ใหญ่ก็คือเวลานี้รัฐบาลและ คสช.กำลังเผชิญหน้ากับพวก"ทักษิณ ชินวัตร"ที่กำลังสุมหัวกันเตรียมป่วน คงไม่อยากเปิดศึกหลายด้าน อย่างน้อยการแตะมือยื่นไมตรีกับกลุ่มภาคประชาชนปฏิรูปพลังงานก็น่าจะดีกว่า และที่สำคัญกลุ่มหลังนี่แหละ"น่ากลัว"กว่า !!
00 อีกเรื่องที่ถือว่าอยู่ในความสนใจของมหาชนชาวไทยก็เห็นจะเป็นเรื่องที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมคิด เลิศไพฑูรย์ เซ็นคำสั่งไล่ออก "สมศักดิ์เจียม" สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฐานทำให้มหาวิทยาลัยและราชการเสียหายจากการหนีราชการเกิน 15 วันโดยไม่มีเหตุอันควร โดยคำสั่งไล่ออกดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.57 เป็นต้นไป งานนี้ถือว่าน่าจับตาว่าจะมีผลต่อเนื่องกลับมาอย่างไรบ้าง นักวิชาการแดงคนนี้นอกจากกำลังถูกดำเนินคดีตาม ม.112 แล้วยังถือว่าเป็นแนวร่วม"เฉพาะกิจ"ของเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร มาอย่างต่อเนื่องด้วย คนพวกนี้จะนำไปขยายผลหรือไม่ น่าติดตาม !!