“วิษณุ” รับสำนักพุทธฯ แจงมติมหาเถรสมาคม แค่รับทราบกรณีที่ไปแจง สปช. ไม่ได้พูดเรื่องธัมมชโย หวังคืนเงินสหกรณ์ยูเนี่ยน บอกเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่าที่สังคมรับรู้ ต้องทำอย่างระวัง โอดไม่สนุกเหมือนดูละคร เตือนพูดมากๆ มีสิทธิ์เป็นสงครามศาสนจักร ย้ำคนมีหน้าที่จำเป็นต้องยุ่งเพื่อความโปร่งใส
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งที่เกิดจากมติของมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า ต้องรอการชี้แจงจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อีกครั้ง หลังจาการที่ตนได้มอบหมายให้ค้นข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ทาง พศ.ได้ชี้แจงว่ามติวันที่ 20 ก.พ.เป็นเพียงการรับทราบกรณีที่ พศ.ชี้แจงต่อคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ และการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยไม่มีการพูดถึงเรื่องพระธัมมชโยจะปาราชิกหรือไม่ ทั้งนี้ในการประชุมครั้งต่อไปของมหาเถรสมาคมก็จะมีการรับรองมติวันที่ 20 ก.พ.และเผยแพร่ต่อประชาชนต่อไป
เมื่อถามถึงการตรวจสอบกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ยูเนี่ยน นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบโดยตรง แต่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่ ตนเพียงดูแลการทำงานของแต่ละหน่วยงานไม่ใช้ซ้ำซ้อนกัน และเสนอรัฐบาลต่อไป เมื่อถามต่อว่า กรณีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณา กรมสอบสวนคดีพิเศษ และการฟ้องร้องในศาลแพ่งใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า วันนี้อยากให้มีการคืนเงินให้ได้เสียก่อน และเรื่องนี้พูดมากไม่ได้เพราะจะเสียรูปคดี และถ้าต้องการให้มีการคืนเงินทอง ก็ต้องว่ากันไปทีละลำดับโดยเอาสหกรณ์ฯ เป็นตัวตั้งว่าเงินไปอยู่ที่ไหนบ้าง ต้องไปดูตรงนั้นทุกที ไม่ใช่เอาวัดพระธรรมกายเป็นตัวตั้งแล้วมาโยงสหกรณ์ อีกทั้งเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนเกินกว่าที่สังคมรับรู้ นักข่าวสนใจสิ่งที่เป็นข่าว แต่ในแง่รัฐบาลเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย มีอะไรอยู่ใต้ข่าวอีกเยอะที่ยังไม่เป็นข่าว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังมาก เมื่อถามย้ำว่า ผลคดีทั้งแพ่งและอาญาเมื่อออกมาแล้วสามารถนำผลไปร้องต่อมหาเถรสมาคมได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของมหาเถรสมาคมก็คงต้องส่งให้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ปวดหัวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คงไม่สนุกเหมือนดูละคร ส่วนจะกลายเป็นสงครามศาสนจักรหรือไม่นั้น ถ้าพูดมากๆ มันก็เป็น เมื่อถามต่อถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่อยากยุ่งเรื่องดังกล่าวเพราะเกรงว่าลูกศิษย์ของแต่ละฝ่ายจะลุกขึ้นมา นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ก็คงไม่มีใครอยากยุ่ง แต่ยุ่งที่ว่าคือการเข้าไปสอดแทรก วิ่งเต้น กลบเกลื่อนหรือถือหาง แต่หากคำว่ายุ่งหมายถึงหน้าที่ก็ต้องเข้าไปทำให้ชัดเจน โปร่งใส และถูกต้องแก่พระศาสนา เป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้อง ยิ่งมีเรื่องสหกรณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องการคืนเงิน คืนทองก็เป็นส่วนหนึ่งของคำว่าเป็นธรรม คนที่มีหน้าที่จำเป็นต้องยุ่ง
