xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.สำนักพุทธฯ แบไต๋ต้องพิสูจน์พระลิขิตให้ “ธัมมชโย” ปาราชิก ของจริงหรือปลอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พนม ศรศิลป์ (แฟ้มภาพ)
ส่อยื้อ “ธัมมชโย” ปาราชิก ผอ.สำนักพุทธฯ อ้างเพื่อความเป็นธรรม ต้องพิสูจน์พระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นของจริงหรือของปลอม ชี้พิพากษาพระปาราชิกเหมือนประหารชีวิต ต้องรอบคอบ เผยมีข่าวมวลชน 2-3 คันรถมารอฟัง การประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคมวันนี้ แต่ไม่ถือเป็นความกดดัน

นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการมหาเถรสมาคม เตรียมประชุมเพื่อพิจารณาพระลิขิต สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ให้พระเทพญาณมหามุนี หรือธัมมชโย ปาราชิก เมื่อปี 2542 ว่าในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาได้กำชับให้มีการตรวจสอบเพื่อชี้แจงพุทธศาสนิกชนได้รับทราบ ทางสำนักพระพุทธศานาจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร พร้อมระบุว่าไม่มีความกังวลใดๆ ต่อเรื่องนี้แม้จะกระทบต่อศรัทธาประชาชนส่วนหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ

ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า ในการประชุมของคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการนำเอาเรื่องพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อปี 2542 มากางและถกในที่ประชุมอีกครั้ง พร้อมระบุว่าที่ผ่านมามีการนำประเด็นนี้มาหารือกันก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2542 ขณะที่ตนเองเพิ่งมารับตำแหน่งแต่ก็จะขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งซึ่งเอกสารส่วนหนึ่งอยู่ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ดังนั้นต้องขอเอกสารเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนหน่วยงานและผู้บริหารศาสนาจากกรมศาสนามาเป็นสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อปี 2545 ทำให้เอกสารบางส่วนไม่ได้ส่งมายังสำนักพระพุทธศาสนา

นายพนมระบุว่า เมื่อคณะกรรมการมหาเถรสมาคมมีมติว่าต้องปาราชิกก็จะมีคำสั่งออกมาอย่างเป็นทางการเพื่อให้ดำเนินการ แต่เรื่องนี้มีข้อโต้แย้งจากหลายส่วน ทั้งองค์การพุทธศาสนา และเกิดปัญหาภายในวัดบวรฯ เมื่อปี 2547 ซึ่งมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระลิขิตดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางสำนักพุทธฯ กำลังมองว่าพระลิขิตที่ออกมานั้นเป็นการทำปลอมขึ้นมาใช่หรือไม่ นายพนมกล่าวว่า เราไม่แน่ใจ แต่ก็สงสัยว่าทำไมมันห่างกันมาขนาดนั้นคือตั้งแต่ปี 2542 ดังนั้นเราก็ต้องมาค้นหาหลักฐานและต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

“ขณะนี้ต้องถือว่าพระธัมมชโยยังเป็นพระอยู่ เพราะถ้าท่านปาราชิกทำไมถึงมีการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพญาณมหามุนี เมื่อปี 2554 เราก็งง ผมคิดว่าถ้าเราจะไปพิพากษาคน มันเหมือนการประหารชีวิตเลยนะ ดังนั้นเรื่องทั้งหมดจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง” นายพนมกล่าว

นายพนมเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคมวันนี้ ทราบข่าวว่าจะมีมวลชนกลุ่มหนึ่งประมาณ 2-3 คันรถเดินทางไปรับฟังผลการประชุมด้วยซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มต่อต้านหรือสนับสนุนและไม่คิดว่าเป็นการกดดัน


กำลังโหลดความคิดเห็น