“อำนวย ปะติเส” ตั้งทีมไล่ล่าแก๊งสวมสิทธิ์โครงการรับซื้อน้ำยางสดภาคใต้ หลังได้กลิ่นอาจมีการเวียนเทียน โดยเอกชนนำยางมาขายในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง เหตุไม่มีระเบียบห้าม เผยได้รับแจ้งมาจากในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่ามีความเคลื่อนไหวกระทำการเช่นนี้ สั่งจับตา “โรงรมควันเอกชน”
วันนี้ (10 ก.พ.) มีรายงานว่า นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาจำนวน 2 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบตรวจสอบความโปร่งใสในโครงการรับซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกร มีนายนำชัย พรหมมีชัย ผู้ตรวจราชการฯ และนางอารีย์ โสมวดี ผู้ตรวจราชการฯ เป็นประธาน โดยจะรายงานเข้ามาและสรุปผลการตรวจสอบภายในปลายสัปดาห์นี้
คณะกรรมการฯ ที่ตรวจสอบมีวัตถุประสงเพื่อเข้าตรวจสอบความล่าช้า และอาจไม่ถึงมือเกษตรกรตัวจริง จึงทำให้การแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำของรัฐบาลไม่คืบหน้า
นายชวลิตระบุว่า อาจเกิดความไม่ชอบมาพากล ในขบวนการรับซื้อที่ไม่สามารถช่วยเกษตรกร โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเน้นหนักในเรื่องของขบวนการการรับซื้อน้ำยางสด และขบวนการดำเนินการแก้ปัญหาราคายางพาราในระดับพื้นที่ว่าสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือเกษตรได้จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามาตรการที่กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการยังไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เต็มที่
สำหรับมาตรการการเข้าไปรับซื้อน้ำยางสด ที่กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหม่เพราะจากเดิมวางมาตรากรเข้าไปรับซื้อในส่วนยางแผ่น จึงวางมาตรการใหม่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ตรงเป้าหมายมากขึ้นและปรับปรุงวิธีการรับซื้อให้รัดกุมเพื่อความโปร่งใสมากที่สุด
ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า คณะกรรมการจะลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อยางในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีทั้งยางแผ่นดิบ และน้ำยางสด ที่ก่อนหน้านี้อาจมีการเวียนเทียน โดยเอกชนนำยางมาขายในโครงการมูลภัณฑ์กันชนหรือโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง เพราะไม่มีระเบียบห้ามเอาไว้ ว่าต้องรับซื้อยางจากเกษตรกรเท่านั้น
“เพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงต้องเข้าไปตรวจสอบ ส่วนจะปรับเปลี่ยน แนวทางการช่วยเหลืออย่างไรให้ถึงมือเกษตรกรสวนยาง ต้องหารือกันอีกครั้งหลังผลสรุปคณะกรรมการ ออกมาก่อน” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรระบุ
“อำนวย ปะติเส” เซ็นตั้งเองทีมไล่ล่า
รายงานระบุว่า นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแลยางพาราของประเทศ ออกมาระบุว่า มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้น เพราะในรัฐบาลที่ผ่านมาในโครงการรักษาเสถียรภาพ หรือแทรกแซงราคายางเช่าคลังเอกชนจัดเก็บสินค้าก็เคยเกิดปัญหาหนักกว่านี้
ทั้งนี้ รัฐบาลทราบปัญหานี้มาล่วงหน้า และได้เฝ้าติดตามมาโดยตลอด ล่าสุดได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อติดตามตรวจสอบโดยมีแกนนำเกษตรกร สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง องค์การสวนยาง และส่วนราชการที่ใกล้ชิดกับพื้นที่ร่วมเป็นคณะกรรมการ
“ได้รับแจ้งมาจากในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่ามีความเคลื่อนไหวกระทำการเช่นนี้” นายอำนวยระบุ
มีรายงานอีกว่า เทียบแล้วเชื่อการเวียนเทียนจะน้อยกว่าในรัฐบาลที่ผ่านมาที่แทรกแซงยางมาในราคาสูง 100 บาท/กิโลกรัม เห็นได้จากสินค้าในสต๊อกเก่าของรัฐบาลต่ำกว่ามาตรฐานเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ซื้อจากจีน ยังไม่ได้รับมอบสินค้าในเวลานี้ เพราะส่วนหนึ่งติดปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้าที่ต้องปรับปรุง
ทั้งนี้ โครงการมูลภัณฑ์กันชนของรัฐบาลนอกจากช่วยดันราคายางในตลาดแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรและสหกรณ์ชาวสวนยางได้ปรับปรุงคุณภาพยางให้ได้มาตรฐานก่อนเข้าสู่ตลาด
มีรายงานว่า แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางเคยส่งเรื่องให้รัฐบาล คสช.และกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบเงินกองทุนมูลภัณฑ์กันชนเพื่อเข้าซื้อยางในตลาดกลางยางพาราในราคาชี้นำตลาด โดยเฉพาะโรงรมควันเอกชนที่ได้นำยางแผ่นรมควันคุณภาพดีของรัฐบาลไปเวียนเทียนประมูลขายในตลาดกลาง และนำของด้อยคุณภาพไปใส่ไว้แทน ถือเป็นการโกงภาษีประชาชน และผิดกฎหมาย