xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาปราบ"ขบวนการล้มเจ้า" รู้ทั้งรู้ "คนบงการ"แต่ไม่กล้าจับ

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

แม้จะมีการจับกุมตัวคนที่เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 ปลอม ได้อย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุเพียงไม่กี่วันตำรวจก็สามารถรวบตัว นายกฤษ บุตดีจีน อาชีพนักดนตรี และผู้ช่วยประธานนปช.จังหวัดเพชรบูรณ์ได้

แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะยังมีขบวนการใหญ่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ พอมองเห็นว่าเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าจับกุม

ทุกครั้งที่คนเสื้อแดงถูกดำเนินคดี แกนนำมักจะออกมาตัดหางปล่อยวัดว่าเป็น “แดงเทียม”หรือไม่ก็บอกว่า“ไม่เกี่ยวกับ นปช.” แต่น่าแปลกที่ “ขบวนการล้มเจ้า”ที่ถูกจับได้เป็น “คนเสื้อแดง”เกือบ 100 %

จึงมีคำถามว่า“คนล้มเจ้าบังเอิญเป็นเสื้อแดง”หรือ “เสื้อแดงคือคนล้มเจ้า”

หากมาไล่เรียงดูคดีที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันฯ จะพบว่าทวีความรุนแรงในช่วงปลายอำนาจของ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในขณะนั้นมีการใช้นักวิชาการ ออกมาขับเคลื่อนแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 และเริ่มเคลื่อนไหวรุนแรงมากยิ่งขึ้นหลังการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549

การปราศรัยโจมตีสถาบันฯ ของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด นปช. ที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อต่อต้านคมช.ในขณะนั้น ไม่มีหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดการ จนกระทั่ง สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำไปตีแผ่บนเวที จึงได้เกิดเป็นคดีความ ซึ่ง สนธิ ก็โดนฟ้องด้วย โดยคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

ส่วน ดา ตอร์ปิโด ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 15 ปี ไม่มีการฎีกา คดีจึงถึงที่สุด อยู่ในขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ ติดคุกตั้งแต่ปี 51 จนถึงปัจจุบัน ป่วยหนักโรคขากรรไกรอักเสบ ทำให้อ้าปากพูดแทบไม่ได้

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน ตัวพ่อของการหมิ่นสถาบันฯ ทำผิดต่างกรรมต่างวาระ หลายครั้ง ศาลตัดสินจำคุก 12 ปี 6 เดือน ขอพระราชทานอภัยโทษได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556

อำพล ตั้งนพคุณ หรือที่คนเสื้อแดงดราม่าเรียกว่า “อากง”ส่งเอสเอ็มเอสหมิ่นสถาบันฯ ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 20 ปี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งคาห้องขัง

ธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล หรือ หนุ่ม เร๊ด นนท์ โพสต์หมิ่นสถาบันฯ ศาลตัดสินจำคุก 13 ปี ได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวเมื่อวันที่ 5 ก.ค.56 เป็นเจ้าของจดหมายจากเรือนจำ ถ่ายทอดชีวิตในคุกที่เขาสรุปสถานะตัวเองว่า “เป็นเหยื่อทางการเมือง”

สมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 10 ปี ติดคุกตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน

ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ 1 พ.ค.57ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปัจจุบันอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 7 พ.ค.57 ศาลอาญาตัดสิน 3 ธันวาคม 2557 จำคุก 2 ปี ถูกคุมขังในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.57 จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังมีเสื้อแดงหมิ่นสถาบันฯในต่างประเทศ รวมไปถึงที่หลบหนีไปกบดานอยู่ต่างแดนอีกไม่น้อย เช่น เอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ที่ออกมาท้าทาย คสช.อยู่เนือง ๆ ปัจจุบันอยู่ดีมีสุขที่ประเทศนิวซีแลนด์

ถ้าไม่มีใครคอยให้น้ำเลี้ยง จะลอยหน้าลอยตาแสดงความผาสุขอยู่ได้อย่างไร

ที่ยังต้องตามไล่ล่าระดับลูกกะจ๊อกอยู่ทุกวันนี้ เป็นเพราะผู้มีอำนาจไม่กล้าที่จะจับตัวการใหญ่ใช่หรือไม่

จะเห็นได้ว่า ผู้ที่ถูกตัดสินในคดีหมิ่นสถาบันฯ และยังรับโทษคุมขังอยู่ในขณะนิ้ ไม่ได้มีแค่ ปลาซิว ปลาสร้อย แต่มีระดับหัวโจกรวมอยู่ด้วยหลายคน ซึ่งน่าจะเพียงพอที่จะบอกได้แล้วว่า เวทีเสื้อแดง ให้อะไรกับคนเสื้อแดงกันแน่ ที่สำคัญคือ ขบวนการเหล่านี้ยังคงเดินหน้าอย่างเป็นระบบโดยไม่เกรงกลัวต่ออาญาแผ่นดิน ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า ระดับหัวหน้าพ้นผิดหมด เพราะไม่โดนฟ้อง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกแจ้งความหมิ่นสถาบันฯ 3 คดี อัยการไม่ฟ้อง

จักรภพ เพ็ญแข บรรยายภาษาอังกฤษ เรื่องประชาธิปไตยกับระบบอุปถัมภ์ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2550 เข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯ อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี

จตุพร พรหมพันธ์ ปราศรัยเรื่อง “กระสุนพระราชทาน”ดีเอสไอ โดยธาริต เพ็งดิษฐ์ ยกฟ้อง โดยอ้างว่าฟังคำปราศรัยตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่พบว่าหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

การกวาดล้างขบวนการล้มเจ้าคงไม่สามารถทำได้อย่างสิ้นซาก เนื่องจากเป็นเรื่องของความคิด แต่การคลี่คลายปัญหาเพื่อให้บรรเทาเบาบางต้องจัดการที่ต้นตอ เพราะลำพังความคิดที่ก่อตัวภายในของแต่ละคนไม่มีพลังที่จะสั่นคลอนสถาบันหลักของชาติได้ แต่ที่เกิดความสั่นคลอนอยู่ทุกวันนี้เพราะมีทั้งทุนและอำนาจหนุนหลัง จึงทำให้เกิดเครือข่ายโยงใยแบ่งงานกันทำอย่างเป็นระบบ และแพร่กระจายในวงกว้าง

วิธีการที่ดีที่สุดคือ ตัดหัวทิ้งทำลายท่อน้ำเลี้ยง เพื่อย่อยสลายเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะได้รับการคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่กล้าจัดการพวกอัปรีย์ ปล่อยให้ทุนและอำนาจอุบาทว์ หนุนหลังเหมือนทุกวันนี้ ก็อย่าหวังว่าจะหยุดขบวนการล้มเจ้าได้ เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงแค่ “สั่นคลอน”แต่ต้องการ “โค่นล้มเพื่อเปลี่ยนแปลง”

ถามคนไทย “ยอมไหม ?”
กำลังโหลดความคิดเห็น