เปิดประวัติครอบครัว “บิ๊กเสือ” - พิจิตร กุลละวณิชย์ หลังถูกลูกชายร้องเรียน มีแค่ชื่อ “พันเอกหญิง คุณหญิงวิมล กุลละวณิชย์” - “นายพิชาญ กุลละวณิชย์” ที่สืบตระกูลจาก พล.อ.พิจิตร หลังน้องชาย “พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์” ออกมาตอบโต้หลานชายว่าถูกตัดขาดจากตระกูล “กุลละวณิชย์” ไปแล้ว
จู่ๆ ก็มีข่าว นายพิเชฏฐ์ กุลละวณิชย์ อายุ 55 ปี ที่ระบุว่า เป็นบุตรชายของ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี นำหลักฐานเอกสารไปร้องเรียนกับสื่อมวลชน เกี่ยวกับปัญหาภายในครอบครัว “กุลละวณิชย์” โดยระบุว่า ถูกกีดกันไม่ให้พบบิดา และถูกยื่นฟ้องในข้อหาละเมิดห้ามเข้าไปในบ้าน, โรงพยาบาล, ทำเนียบองคมนตรี หรือสถานที่ที่บิดาปฏิบัติหน้าที่ โดยขณะนี้ พล.อ.พิจิตร ถูกนำตัวพาตัวหนีหายไปออกไปจากบ้านพัก
เรื่องนี้ทำเอา พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ออกมายืนยันว่า พล.อ.พิจิตร ได้ตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับนายพิเชฏฐ์ไปแล้ว ตั้งแต่นายพิเชฏฐ์ไปอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้มีการติดต่อกันนานกว่า 40 ปี
การที่นายพิเชฏฐ์ให้ข่าวกับสื่อมวลชนเช่นนี้ ทำให้ พล.อ.พิจิตร และครอบครัว “กุลละวณิชย์” ได้รับความเสียหาย และทำให้เรื่องต่างๆ เกิดความยุ่งยากมากขึ้น การกลับมาประเทศไทยครั้งนี้ ตนถามว่าจะเข้ามาทำประโยชน์อะไรให้กับคนรอบข้าง สำหรับ พล.อ.พิจิตร ในขณะนี้สบายดี แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าพักอยู่ที่ไหน
“40 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยกลับมาดูแลพ่อ เขาถูกตัดขาดจากตระกูล “กุลละวณิชย์” ไปแล้ว ส่วนที่พูดถึงเรื่องเงินในบัญชีธนาคารของ พล.อ.พิจิตร นั้น ผมถามว่า เขารู้ได้อย่างไรว่าพ่อมีเงินเท่าไหร่ ทำไมสนใจเรื่องเงินมากกว่าชีวิตของพ่อ จะกลับมาทำไม หรือจะมาเอาสมบัติพ่อ” พล.อ.จรัล กล่าว
ด้าน พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นเรื่องในครอบครัว แต่หากมีการมาร้องขอหรือขอความร่วมมือกับตำรวจ ก็ต้องเข้าไปช่วย แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เท่าที่รับรายงาน เป็นเรื่องความขัดแย้งในครอบครัว ขณะนี้ยังไม่มีใครแจ้งความ หากมาแจ้งก็จะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เหมาะสมต่อไป
จากข้อมูลของเว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรม “พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีในรัชกาลปัจจุบัน เกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2475 (82 ปี) ที่อำเภอแปดริ้ว (ปัจจุบันคือ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา) ประเทศไทย มีคู่สมรส คือ พันเอกหญิง คุณหญิงวิมล กุลละวณิชย์ ในเว็บไซต์ดังกล่าวไม่ระบุถึงตัวชื่อบุตร - ธิดา
ขณะที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาหน้า 1 เล่มที่ 117 ตอนที่ 9 ข พระราชกิจานุเบกษา วันที่ 4 พ.ค. 2543 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ระบุเพียงชื่อ “นายพิชาญ กุลละวณิชย์” สืบตระกูลจากพล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตติยจุลจอมเกล้า
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 ทำเนียบองคมนตรีได้ปฏิเสธกระแสข่าวพลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เสียชีวิตจากอาการปอดติดเชื้อ
รณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เสียชีวิตจากอาการปอดติดเชื้อที่ รพ.รามาธิบดี นั้น ล่าสุด พ.ท.หญิง กรรณิการ์ เพชรรุ่ง นายทหารประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และเลขานุการส่วนตัว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 สัปดาห์ พล.อ.พิจิตร มีอาการป่วยเป็นหวัด และติดเชื้อ จึงนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เข้ารักษาตัวที่ห้องปลอดเชื้อ ชั้น 3 ตึกสมเด็จย่า เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งอาการโดยทั่วไปดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถพูดคุยตอบโต้ได้ตามปกติ โดยมี พ.อ.หญิง คุณหญิงวิมล กุลละวณิชย์ ภริยา และบรรดาลูกน้องใกล้ชิดคอยดูแล และต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์อีกระยะหนึ่ง ขอยืนยันว่าท่านไม่ได้เสียชีวิตตามข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไป
ด้านทำเนียบองคมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวเช่นกัน พร้อมระบุว่า หากมีข่าวเช่นนี้ทางทำเนียบองคมนตรี จะเป็นคนแจ้งให้ทราบ แต่กรณีนี้ไม่มีการแจ้งข่าวใดๆ
สำหรับ “บิ๊กเสือ” พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม 6 จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เข้าเรียนเตรียมนายร้อยเมื่อปี 2490 และเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร. เมื่อปี 2492 เป็นนักเรียนนายร้อย จปร. รุ่นที่ 2 ตาม หลักสูตรเวสต์ปอยต์ เป็นรุ่นน้อง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ “บิ๊กจิ๋ว” หนึ่งรุ่น ขณะที่เรียนอยู่ปีที่ 2 ได้คัดเลือกไปเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.วิจิตร สุขมาก
ประวัติสูงสุดในการรับราชการ คือ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 2529 - 2533, รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด 2533 - 2535, รองปลัดกระทรวงกลาโหม 2534 -2535 ซึ่งขณะนั้นมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และหลังเกษียณราชการ ได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นองคมนตรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2536 และยังเป็นกรรมการบริหารมูลนิธิอานันทมหิดลและที่ปรึกษาพิเศษขององค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ปัจจุบัน นายกสภาวิทยาลัยสันตพลอุดรธานี นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และนายกสภามหาวิทยาลัยเกริก (จากข้อมูลของเว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรม)
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2557 พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ได้มอบอำนาจให้ พ.ต.ท.สุรโชคมพล วิเศรษฐฐิติพันธ์ ยื่นร้องศาลแพ่งฟ้องนายพิเชฏฐ์ กุลละวณิชย์ ซึ่งเป็นลูกชายในข้อหาละเมิด คดีหมายเลขดำที่ 5485/2557 ระบุว่า นายพิเชฏฐ์ กุลละวณิชย์ ซึ่งย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา กับ นางอรุณี กุลละวณิชย์ อดีตภรรยาของ พล.อ.พิจิตร ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จึงไม่มีความผูกพันกับ พล.อ.พิจิตร อีกทั้งปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกา และพยายามบุกรุกเข้าไปในบ้านพักส่วนตัวของ พล.อ.พิจิตร โดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อำนาจข่มขู่เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยภายในบ้าน ทำให้ พล.อ.พิจิตร ซึ่งมีอายุ 82 ปี และมีอาการป่วยอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ต้องอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียง และต้องหลบหนีออกจากบ้านพักไป
ทั้งนี้ พล.อ.พิจิตร ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยเข้าไปยังสถานที่บ้านพักของ พล.อ.พิจิตร ทำเนียบองคมนตรี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในวันที่โจทก์เข้ารับการรักษาตัว และสถานที่ที่ พล.อ.พิจิตร ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะองคมนตรี หรือไปร่วมงาน โดยศาลนัดกำหนดแนวทางการดำเนินคดี หรือสืบพยานโจทก์ในวันที่ 16 ก.พ. นี้