การแต่งตั้ง พ.ต.อ.สรรักษ์ มา “รักษาการ ผบก.ปอศ.” ก็จะหนีไม่พ้นถูกข้อครหาทำเพื่อพวกพ้อง หาใช่เพื่อประโยชน์องค์กร แต่เป็นการทำเพื่อส่วนตัว เพราะ พ.ต.อ.สรรักษ์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 31 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร. สมยศ และอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตราชการที่จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ไม่มีเสียงคัดค้าน หรือมีคำถามถึงความ “เหมาะสม” ต่อคำสั่งเด้ง “ตำรวจ” พ้นจากเก้าอี้ ไปปฏิบัติราชการกองบัญชาการ หรือกองบังคับการ ล็อตใหญ่ เป็นรายวัน
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุมิตรนันสถิตย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี
หรือ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มเย้ม ผบก.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วารินทร์ ทองตรา รอง ผบก.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ ผกก.สภ.ธัญญบุรี พ.ต.ท.นุกูล อุ่นทรัพย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วศินชัย ชุมแสง สว.ป.รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สภ.ธัญญบุรี พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอนกศรี สว.ป.สภ.ธัญญบุรี และ พ.ต.ท.พีรศักดิ์ สวยสม สว.สส.สภ.ธัญญบุรี รวมทั้ง พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี จว.นครปฐม
เพราะ “ตำรวจ” แต่ละรายที่โดนคำสั่งเด้งเข้ากรุ ล้วนมีชนักติดหลัง เรื่องความบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปล่อยปละละเลยค้ากามในพื้นที่ ทัศนคติการปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดเพี้ยน หรือ การทำงานย่อหย่อน ซึ่ง “เหมาะสม” แล้วที่ผู้บังคับบัญชา สั่งลงโทษทางปกครอง เพื่อให้มีเวลาได้ทบทวนการทำงานกันใหม่
แต่ในเรื่องการแต่งตั้ง “ตำรวจ” ยุค “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่งกุมบังเหียนแม่ทัพใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูจะยังคงถูกตั้งคำถามตัวโตๆ หลายๆ ครั้ง จากสังคม ถึงความ “เหมาะสม” ในการเลือกคนลงตำแหน่งต่างๆ ใช้หลักการพิจารณายึดประโยชน์ของหน่วยงาน ประโยชน์ของประชาชน ประโยชน์ของส่วนรวม หรือประโยชน์ของพวกพ้อง กันแน่
หลังจากมีเสียงทวงถามถึงความ “เหมาะสม” ในการแต่งตั้ง พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ อดีต ผกก.สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ซึ่งถูกคำสั่งช่วยราชการ มาเป็น ผกก.สน.บวรมงคล โรงพักทำเลทองแห่งใหม่ ย่านฝั่งธนบุรี ทั้งๆ ที่เคยมีชื่อถูกนำไปโยงกับคดีความการก่อเหตุคนเสื้อแดง แม้ทางกฎหมายจะยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่ในด้านความ “เหมาะสม” ก็ถูกตั้งคำถาม
เช่นเดียวกรณีล่าสุด ผบ.ตร. สมยศ มีคำสั่ง ตร.ที่ 52/2558 ลงวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ โดยระบุ “จากที่เคยมีคำสั่ง ตร. 5/2558 ที่ให้ พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) รักษาการแทนในตำแหน่ง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) นั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้ พล.ต.ต.ชวลิต กลับปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม โดยให้ พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท รอง ผบก.ปอศ. รักษาการแทน ผบก.ปอศ. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
เกิดคำถามสวนกลับถึงการแต่งตั้งให้ “พ.ต.อ.สรรักษ์” ไป “รักษาการ ผบก.ปอศ.” ของ ผบ.ตร.สมยศ “เหมาะสม” แล้วหรือ???
ตามกฎ ตามกติกา ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.สรรักษ์ ไป รักษาการ ผบก.ปอศ. หรือ สศก. ตำรวจที่ดูแลคดีความผิดเกี่ยวกับคดีเศรษฐกิจ ไม่ได้มีอะไรผิดหรือไม่ถูกต้อง แต่ในเรื่องความเหมาะสมยังเป็นข้อกังขาที่ ผบ.สมยศ ต้องสร้างความกระจ่างให้สังคมภายนอก และสร้างความเข้าใจให้กับคนสีกากีด้วยกันเอง
ประการแรก พ.ต.อ.สรรักษ์ เพิ่งโยกย้ายจากตำแหน่ง รองผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน มาเป็น รอง ผบก.ปอศ. ในการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ สารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ซึ่งมีผลไปเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2558 หรือเพียง 10 วัน นับจากคำสั่งที่ พล.ต.อ.สมยศ เซ็นมอบหมายหน้าที่ให้ไป รักษาการ ผบก.ปอศ. เท่านั้น
คำถามที่เกิดขึ้น คือ พ.ต.อ.สรรักษ์ เพิ่งมาอยู่ในสังกัด ปอศ. ได้เพียงไม่กี่วัน ได้เรียนรู้หรือปรับตัวเข้าไปกับหน่วยงานใหม่ ถึงขนาดได้รับมอบหมายให้มากุมหัวเรือทำหน้าที่ “ผู้นำ” ได้ทันทีทันใดเชียวหรือ แล้ว “รอง ผบก.ปอศ.” รายอื่น ที่เคยอยู่มาเก่าก่อน รู้จัก เข้าใจงาน ปอศ. ไม่เหมาะสมตรงไหน ถึงถูกมองข้ามหัว
ถึง พ.ต.อ.สรรักษ์ อาจจะเป็นรองผู้การฯอาวุโส แต่ก็อาวุโสมาจากนอกหน่วย ความชำนาญจะต้องน้อยกว่าคนเก่าคนแก่ในหน่วยงานแน่
อีกประการ คือ เรื่องคดีความ ที่ พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือชื่อเดิม “สมชาย” จูสนิท อดีต ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เคยตกเป็นผู้ต้องหา ตกเป็นจำเลย ในคดีร่วมกันอุ้มฆ่า นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ร่วมกับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล อดีต ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง
แม้ศาลจะมีคำพิพากษา “ยกฟ้อง” พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ดูเหมือนญาติของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ และอุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ก็ยังแสดงความข้องใจอยู่ แล้วการที่ ผบ.ตร. สมยศ นำ พ.ต.อ.สรรักษ์ มาโปรโมต มาคุมกองบังคับการที่เกี่ยวโยงกับเรื่องเศรษฐกิจ “เหมาะสม” หรือไม่ ยังเป็นคำถามที่ต้องรอการอธิบาย
ไม่เช่นนั้นการแต่งตั้ง พ.ต.อ.สรรักษ์ มา “รักษาการ ผบก.ปอศ.” ก็จะหนีไม่พ้นถูกข้อครหาทำเพื่อพวกพ้อง หาใช่เพื่อประโยชน์องค์กร แต่เป็นการทำเพื่อส่วนตัว เพราะพ.ต.อ.สรรักษ์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 31 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร. สมยศ และอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตราชการที่จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
หรือ “สำนักปทุมวัน” ในยุค “พล.ต.อ.สมยศ” กุมบังเหียน อยากจะถูกจารึกว่า เป็นยุคที่พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจแบบ “ค่าของคน อยู่ที่คนของข้า” ไม่ใช่ผลงาน ความเหมาะสม ก็คงไม่มีอะไรต้องอธิบาย