“ประยุทธ์” เตือนประชาชนระวังใช้สื่อโซเชี่ยลฯ หวั่นตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดี กำชับเจ้าหน้าที่กวดขันคดีความรุนแรง วอนทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตา แนะเกษตรกรรวมกลุ่มสร้างอำนาจต่อรอง ห่วงภัยแล้งหนักขึ้นทุกปี ระบุข้าวราคาตกหาพืชอื่นปลูกแทน สั่งพาณิชย์ลงพื้นที่เช็กราคาสินค้า รับอาหารปรุงสำเร็จแพงเกินไป ลั่นราคาก๊าซขึ้นตามกลไกตลาด หวังประชาชนเข้าใจ
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า เรื่องของอาชญากรรมและความรุนแรงต่างๆ ในสังคม ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยให้ความสนใจมีมาตรการที่เข้มข้นในการกวดขันคดีทุกคดี ให้เร่งดำเนินการสืบสวนหา คนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ มีผลกระทบต่อการบริหารราชการ หรือประเทศชาติในการพัฒนา ต้องเร่งดำเนินการให้ได้ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ด้วยมาตรฐานเดียวกัน ให้ความเป็นธรรม ไม่ปล่อยปละละเลย ประชาชนก็ขอให้ความร่วมมือด้วย เป็นผู้เฝ้าระวัง แจ้งความ เพราะว่าเป็นการดูแลพื้นที่ตัวเองให้ปลอดภัย การท่องเที่ยวจะได้ดีขึ้น ช่วยกันเป็นหูเป็นตาอย่าให้ใครเข้ามาสร้างสถานการณ์ จะทำให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปไม่ได้ คนเหล่านี้ไม่ดีเลย ไม่ทราบว่าคิดอะไรกันอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องคดีที่เกี่ยวกับสถาบันและการเมืองนั้น ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณด้วย ถ้าเป็นคดีที่มีความผิดเราก็ละเว้นไม่ได้ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย และขอความร่วมมือด้วย ทุกคนต้องช่วยกันลดความเกลียดชังกันลงไปด้วย ทั้งในสื่อ ในโซเชียลมีเดีย ช่วยกันลดลง วันนี้ก็มีการใช้โซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก มีการส่งข้อความถึงกันตลอดเวลา อาจจะมากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก หรือของอาเซียนเลยด้วยซ้ำไป วันนี้ต้องดูแลกันให้ดี รัฐบาลไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะเข้าไปแทรกแซง เข้าไปดูในส่วนที่เป็นความลับของท่าน เว้นแต่ว่าท่านช่วยกันดูแลเอง ว่าไม่แพร่กระจาย ไม่ช่วยกันแพร่ในส่วนที่ไม่เหมาะสมออกไป ถึงเวลาก็ถูกดำเนินคดี ก็หาว่าเป็นคดีการเมืองหรือการรังแกของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่เลย เรามองทุกคนเป็นประชาชนทั้งสิ้น บางคนก็รู้ก็ทำ บางคนก็อาจจะทำทั้งที่ไม่รู้ ก็ต้องสอบสวนกันออกมาให้ได้ข้อชัดเจน
“เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวัง ประชาชนอาจจะตกเป็นเหยื่อของคนไม่ดีเหล่านั้น ที่อาจจะมุ่งหวังจะทำลายชาติ ทำลายสถาบันฯ ทำลายความมั่นคงของรัฐในปัจจุบัน เรากำลังปฏิรูปอยู่ รัฐบาลสัญญาว่าจะทำอย่างเต็มที่ในการดำเนินคดีไม่ให้เกิดขึ้นอีก วันนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายข้าราชการพลเรือนต่าง ๆ ที่มีหน้าที่เหล่านี้ ต้องดูแลพื้นที่ของท่านให้ปลอดภัย ให้ประชาชนมีความสุข” นายกฯระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (กบข.) ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ให้การต้อนรับตนและคณะอย่างอบอุ่น ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ก็เพื่อติดตามความคืบหน้าและประเมินผลการดำเนินงานของรัฐบาลในเรื่องต่างๆ รวมทั้งรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเกษตร หรือปัญหาปากท้องทั่วไป ทำให้รัฐบาลจะได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่างๆ มากมาย โดยข้อมูลทั้งหมดนั้น รัฐบาลจะนำมาพิจารณา ดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ในการปรับปรุงมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในโอกาสต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราจำเป็นต้องเร่งดำเนินการวางรากฐาน ให้เป็นชุมชนเกษตรกรที่เข้มแข็ง ปัญหาในหลายๆพื้นที่นั้น เกิดขึ้นอาจจะมาจากการปลูกฝังอุดมการณ์ที่ผิด หลายท่านบอกว่า เงินที่รัฐบาลได้ดำเนินการให้การสนับสนุนไปนั้น ก็สามารถจะช่วยเหลือพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย นอกจากการแก้ไขปัญหาระยะสั้นเหมือนเช่นที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือ ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือให้ชาวเกษตรกรมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ ซึ่งที่ผ่านมานั้น เขาก็บอกว่าทุกรัฐบาลก็ยังไม่มีใครทำได้ เพราะฉะนั้นเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด โดยตนให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่มกันของสหกรณ์ เพราะสามารถช่วยให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลางได้ ช่วยในเรื่องการจัดหาตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งพี่น้องเกษตรกรก็จำเป็นต้องสร้างให้ชุมชนตนเองเข้มแข็งด้วย เป็นชุมชนที่พึ่งตนเองให้ได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับตัวอย่างชุมชนที่เข้มแข็ง ตนได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมการจัดการ “คลัสเตอร์มันโคราช” ซึ่งถือเป็นการทำการเกษตรแบบบูรณาการที่มีการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างภาครัฐในระดับจังหวัด กลุ่มเกษตรชุมชนและผู้ผลิตภาคเอกชนที่เข้มแข็ง มีการรวมตัวกันของกลุ่มสหกรณ์ภายในจังหวัด เพื่อบริหารจัดการผลผลิตมันสำปะหลัง และเป็นต้นทางในการจัดหาช่องทางการจัดจำหน่าย จัดการระบบการตลาด มีกลุ่มอุตสาหกรรมภาคเอกชนที่ร่วมกันรับซื้อผลิตผลมันสำปะหลังเพื่อนำไปแปรรูป จัดจำหน่ายเป็นกลุ่มปลายทาง ในขณะที่ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานเอกชนอีกหลายแห่งในจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้สนับสนุนในการค้นคว้าวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ เพื่อให้การผลิตและการแปรรูปมันสำปะหลังนั้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“การทำงานเป็นระบบและเป็นทีมอย่างนี้ ก็ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งรัฐ ทั้งเอกชน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ อันนี้ก็จะเป็นการช่วยกันร่วมมือกันในทุกภาคส่วน นอกจากนั้น ในกลุ่มเกษตรกร ก็มีการสร้างความสัมพันธ์ สร้างเครือข่าย มีกิจกรรมในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ในการลดต้นทุน มีการศึกษาดูงานและบูรณาการอย่างสม่ำเสมอ ผมอยากให้ชุมชน เกษตรกร และผู้ประกอบการในจังหวัดต่างๆ ทำงานร่วมกันเช่นนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในส่วนของการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปีนี้ก็จะมีปัญหามากกว่าปีที่ผ่านมา และในอนาคตอาจจะแห้งแล้งมากขึ้น เพราะสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีรายได้จากการทำการเกษตร โดยเฉพาะผู้ที่ปลูกข้าว หรือพืชอื่นๆ ที่ใช้น้ำ ตนได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สำรวจที่ตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรต่างๆในประเทศ เพื่อจะนำมา matching กับแผนที่ zoning เพื่อให้เกิดการทำพื้นที่การเกษตรที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา ใช้งบประมาณมาก แต่ปีนี้ก็มีงบประมาณจำนวนหนึ่งที่ต้องแก้ไขให้ได้โดยเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเร่งด่วนเรื่องแล้งซ้ำซาก หรือพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อการทำนาปรังอาจจะทำไม่ได้ เพราะว่าน้ำน้อยทำไปก็เสียหาย จึงอยากให้ชาวนาลองหาความร่วมมือในการที่จะปลูกพืชทางเลือกชนิดอื่นๆ เพิ่มเติม มีหลายอย่างที่มีราคาดีกว่าการปลูกข้าว เช่น พริกไทยดำ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และ ถั่วลิสง เป็นต้น เกษตรกรต้องดูราคาและความต้องการตลาดด้วย รวมความไปถึงในการประมง การเลี้ยงปศุสัตว์ ให้สามารถที่จะลดต้นทุนการผลิตได้ การเลี้ยงได้ก็จะทำให้เรามีรายได้มากขึ้น
นายกฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับในกรณีที่ราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีความผันผวนในช่วงนี้ ก็มีหลายฝ่ายร้องเรียนว่า ราคาสินค้าทั่วไปนั้นแพงขึ้น รัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ก็ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์แล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันลงตรวจพื้นที่ไม่ให้มีการขายสินค้าเกินราคา ซึ่งวันนี้ก็ได้รับข้อมูลว่า ราคาสินค้าส่วนประกอบนั้นไม่ค่อยขึ้นหรือขึ้นน้อย แต่เมื่อมาปรุงสำเร็จแล้วไปบวกราคากันมาก เพราะเกรงว่าจะขายได้น้อยลง รายได้ก็ลดลงก็ต้องไปเพิ่มราคาในแต่ละจาน แต่ละประเภทมากขึ้น อันนี้ก็ไม่เป็นธรรม ก็จะต้องขอร้องกัน พูดคุยกับพ่อค้าคนกลางหรือผู้ประกอบการ เกี่ยวกับร้านค้าอาหารจานเดียวสำเร็จรูปพวกนี้ด้วย จะต้องดูแลในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ก็เห็นใจกัน วันนี้ยามยากต้องช่วยกัน ถ้าทุกคนจะเอาตัวรอดกันหมดก็ไปไม่ได้ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจ
สำหรับสถานการณ์ราคาก๊าซในประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นการขึ้นตามท้องตลาดซึ่งก็คนละส่วนกับน้ำมัน เพราะเราแยกออกจากกัน ในขณะนี้ ก็จะดูแลคนที่มีรายได้น้อยเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็อย่าเรียกร้องให้มากจนเกินไป เราก็ให้ได้เท่าที่ทำได้ ถ้าเราปรับลงมามากก็เป็นปัญหาอีกในอนาคต จะกลับไปแบบที่เก่าไม่ได้ ก็ต้องใช้อย่างประหยัด ช่วงที่ผ่านนั้น มีการบิดเบือนโครงสร้างราคาพลังงานมานาน มีการชดเชยกันไปมา ตนก็อยากชดเชย เฉพาะในส่วนของผู้มีรายได้น้อยของแต่ละประเภทไปแล้วก็ต้องไม่มีปัญหาเรื่องของการที่จะต้องผลิตจากพืชทดแทนมาด้วยในอนาคต เราต้องแก้ไขให้ได้
“ราคาพลังงานต่างๆ เหล่านี้ต้องคำนึงถึงความเพียงพอ ความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคตด้วย และในท้องตลาดเขาว่ายังไงก็ควรจะเป็นไปอย่างนั้น ทุกประเทศในโลกก็เป็นอย่างนั้นอยู่ ก็จะดูแลเฉพาะผู้มีรายได้น้อย มากน้อย ไปตามงบประมาณที่มีอยู่ ขอให้พี่น้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ด้วย” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น วันนี้รัฐบาลก็มีการดำเนินการพูดคุยอย่างแน่นแฟ้นกับทุกประเทศ ตนถือว่าทุกคนเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน ไม่เป็นศัตรูกัน วันนี้อาจจะมีปัญหากันอยู่บ้าง วันหน้าก็ต้องดีกันอยู่แล้ว การค้าการลงทุนก็ยังลงทุนอยู่ หลายๆ ประเทศที่อยู่ในประเทศไทย คนไทยก็ลงทุนที่ต่างประเทศ การเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นการค้าการลงทุนหรือเศรษฐกิจนั้น ได้มีผลต่อประชาชนทุกประเทศ ความขัดแย้งทำให้ประชาชนอดอยากยากจน ก็ไม่น่าจะดี เพราะฉะนั้น เราต้องลดความกดดันในเรื่องนี้ให้ได้ ใจเย็นๆอดทนกัน ตนก็พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับทุกประเทศที่มีมาอย่างยาวนานหลายประเทศ
คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558
สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ช่วงนี้ปัญหาภัยหนาวก็ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกระยะเวลาหนึ่ง ก็เป็นห่วง อยากจะให้ทุกคนคอยดูแลสุขภาพด้วย และขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ฟืนไฟด้วย ทั้งประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว ก็ขอให้รับฟังคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดด้วย
สำหรับการแก้ไขปัญหาเดินหน้าประเทศในวันนี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนทุกผู้ทุกฝ่าย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพรับจ้าง และอื่นๆ ด้วย ต้องเข้าใจว่าปัญหาเราอยู่ที่ตรงไหน องค์กรของตนเองนั้นมีปัญหาอะไรอยู่บ้าง ทำอย่างไรจะคงอยู่ได้ โดยทุกคนต้องถือว่าหน่วยงานของตน หรือองค์กรของตน คืออู่ข้าวอู่น้ำ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ หากอ่อนแอไม่เข้มแข็ง มันต้องมีการปรับตัว ต้องยอมรับกันบ้าง ให้มีการปรับตัว ปรับวิธีการช่วยเหลือรัฐ รัฐก็ไม่สามารถจะไปอุ้มไปดูแลได้ทุกอย่าง เพราะถ้าหากว่าธุรกิจใดนั้นเกิดการขาดทุน ไม่ว่าจะเป็นของรัฐวิสาหกิจ หรือของบริษัททั่วไปก็ตามนั้นเลี้ยงตัวเองไม่ได้แล้ว เจ้าของบริษัท หรือรัฐนั้นต้องเอางบประมาณมาอุดหนุนตลอดเวลาต่อเนื่อง มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ
เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมกันคิดใหม่ ช่วยกันปรับตัวเองไปสู่อนาคต ยอมรับในการปรับปรุงแก้ไขบ้าง และใครมีส่วนตรงไหนก็ช่วยกันตรงนั้น รัฐพยายามจะทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ถ้ารัฐไม่แก้ไขอะไรเลย มันเป็นไปไม่ได้อยู่ดี อะไรที่ช่วยได้เราก็ช่วย อะไรที่ต้องช่วยกันทำคนละฝ่าย คนละไม้คนละมือก็ต้องช่วยกัน ถ้าทุกคนเรียกร้องเอาแต่สิทธิอย่างเดียว มันก็ล่มจมไม่ว่าจะเป็นบริษัท หรือจะเป็นรัฐวิสาหกิจก็เสียหายทั้งหมด เช่น รัฐวิสาหกิจบางอันที่ขาดทุน ไม่มีกำไร แต่มันจำเป็นต้องคงอยู่ไว้ เพราะเราจำเป็นต้องเพื่อการบริการอะไรด้วย เพื่อชื่อเสียงประเทศชาติ เราก็ต้องดูแลกัน ต้องหาวิธีการที่ทำอย่างไร จะแก้ไขให้ได้ไม่เกิดขึ้นอีก และเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ฉะนั้น สหภาพทุกสหภาพต้องช่วยกัน ทำความเข้าใจกันให้ดี เราคงไม่ไปเร่งรัดปลดพนักงานต่างๆเหล่านี้ มันคงเป็นขั้นเป็นตอน และหาวิธีการลดให้เหมาะสม และยอมรับการทุกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม ก็อย่าเคลื่อนไหว ขัดเเย้งอะไรกันทุกเรื่องเลย ไม่งั้นมันก็แก้อะไรไม่ได้สักอัน ต้องวางแผนระยะยาว และร่วมมือกันทำ ต้องลดตัวจนลงไปบ้าง ก็ขอให้อดทน ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน ในการฟื้นฟู เราต้องการทำให้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และเมื่อมันดีขึ้น ผลประโยชน์ก็ดีมากขึ้น ผลประโยชน์ของทุกคนก็จะได้รับมากขึ้น
ถ้าวันนี้ท่านยังยืนอยู่เหมือนเดิม แล้วก็ไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลยมันก็แย่ลงๆ และก็อยู่ไม่ได้ ถ้าท่านร่วมมือกับเรานั้น องค์กรก็จะดีขึ้นในอนาคต ถ้าร่วมมือมากๆ ก็จะเร็วขึ้น ถ้าเราปล่อยให้มันถอยหลังลงไปอีก มันก็เสียหาย ล้มละลาย แล้วพวกเราจะไปทำงานกันที่ไหน ก็ไม่มีที่อยู่ที่กินกันอีกต่อไป ก็คนหลายหมื่นคนนะครับ หลายรัฐวิสาหกิจก็เป็นแสนคน ฉะนั้นขอร้อง ในส่วนของสหภาพฯ ต่างๆ ทุกสหภาพฯ เลยนะ ต้องช่วยกันและเข้าใจ เรากำลังวางพื้นฐานประเทศใหม่ ถ้าให้มีรายได้มากขึ้น ท่านก็ได้ผลประโยชน์มากขึ้น ในส่วนของลูกจ้าง พนักงานต่างๆ
ในส่วนของภาคเกษตรกรรมนั้น ผมถือว่าเป็นโจทย์ เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ เรามีปัญหาในเชิงโครงสร้างในการบริหารจัดการที่ผิดพลาดในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาบางประการ การแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด เราไม่ค่อยได้สร้างความเข้มแข็ง ไม่ได้ใช้วิธีการใช้จ่ายงบประมาณรัฐไปอุดหนุนในทางที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการเจริญแบบไม่ยั่งยืน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของราคา เรื่องดีมานด์ ซัปพลายอะไรก็แล้วแต่ มันก็เหมือนกับคนเป็นไข้ เหมือนถูกเลี้ยงไข้มาโดยตลอด หรือไม่ก็ฉีดยา ฉีดยาผิดซอง โรคมันก็เป็นอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่หายซะที เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เกษตรกรก็ต้องปรับตัว รวมกลุ่มกันให้ได้ ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว สหกรณ์ยาง สหกรณ์ข้าว สหกรณ์ชาวนา สมาคมต่างๆ รวมกันให้เป็นภาค เป็นสหกรณ์ใหญ่ได้ไหม มันจะได้ติดต่อดูแลควบคุมกันได้บ้าง ต่างคนต่างตั้งกัน เรียกร้องกันรัฐดูแลไม่ไหว
เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องสร้างความเข้มแข็งของตนเอง รัฐบาลก็สร้างความเข้มแข็งในภาครัฐว่าจะทำยังไงจะสนับสนุนได้ ทำยังไงจะเป็นการยั่งยืนนะครับ ไม่ใช่พอรัฐบาลปัจจุบันออกมาตรการอะไรออกไปมันขัดแย้งกับของเดิม ซึ่งความมุ่งหวังเราต้องการให้มันดีกว่าเดิม เราก็ถูกต่อต้าน ก็จะเรียกร้องเหมือนเดิม ซึ่งมันก็ง่ายดีนะ ถ้ารัฐบาลให้ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ปัญหาคือเราก็จะสร้างปัญหาให้ลูกหลานเราต่อไปในอนาคตอีกด้วย
เพราะฉะนั้นจะขอร้องให้ผู้นำทำการเรียกร้องที่ผิดๆ ที่เข้าใจผิดๆ อยู่ให้ระมัดระวังด้วย มันเดือดร้อนต้องรับผิดชอบด้วย วันนี้เราก็มีกฎหมายหลายตัวอยู่เหมือนกัน ท่านก็ต้องมีความรู้ มีหลักเกณฑ์มีข้อมูลที่เพียงพอพิสูจน์ได้ จะราคาจะปริมาณจะอะไรก็แล้วแต่ถ้าฟังอย่างเดียว และมาคิดเองมันเป็นไปไม่ได้ ต้องฟังเหตุฟังผลซึ่งกันและกัน และไว้วางใจกันบ้าง วันนี้รัฐบาลขับเคลื่อนให้มันโปร่งใสขึ้นทุกประการ พยายามอย่างเต็มที่
เพราะฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ จะพยายามทุกอย่างที่ดูแลท่านให้ดีที่สุด และต้องใช้เวลาในการปรับตัว เปลี่ยนผ่าน การทำการเกษตรของเรานั้นไปสู่การเป็นเกษตรกรรมสมัยใหม่ หากเราเรียกร้องโดยไม่สนใจเรื่องความเข้มแข็ง ไม่สนใจเรื่องตลาดในนอกประเทศ ราคาอะไรอย่างไร เพราะว่ามันเป็นการค้าขายกับต่างประเทศทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นต้องดูข้อเท็จจริงว่า วันนี้กับวันที่ผ่านมามันต่างกันอย่างไร ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม ข้อผูกพันทางการค้าต่างๆ มากมาย ภาษีต่างๆ ก็มีปัญหา และทุกประเทศเขาก็ปลูกได้บ้างอะไรเองบ้าง ไปปลูกที่อื่นบ้างราคามันก็ลดลงหมด ทุกประเทศมันก็ลดลง และเราจะไปยืนพื้นราคาเราให้มากขึ้นอย่างไร และต้องมาแก้กันว่า ต้นทุนมันจะลดอย่างไร เมื่อต้นทุนเราลดได้ต่ำสุด หรือต่ำมากๆ กำไรมันจะมากขึ้น วันนี้ต้องใช้เวลาตรงนี้อีกเยอะเลยนะครับ และในระหว่างที่ราคาตกท่านต้องหาอาชีพเสริมอะไรไป เพื่อจะทำให้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ อาทิ เลี้ยงสัตว์ หรือปลูกพืชอื่นๆ เสริมไปในสวนยางบ้าง มีคำแนะนำมาหมด หลายพื้นที่แม้กระทั่งพื้นที่ในการปลูกข้าว หลายอำเภอได้มีการไปตรวจเยี่ยม และได้มีการนำเสนอว่า สามารถที่จะปรับพื้นที่การทำนาเป็นการปลูกพืชชนิดอื่น และเกษตรกรเขาเข้มแข็ง อย่างนี้รัฐจะได้ช่วยง่ายขึ้น เราพยายามทำทุกมิติ และทุกมาตรการ ท่านต้องร่วมมือกับเรา เข้าใจในโจทย์ เข้าใจในปัญหา เข้าใจในพิธีการ
เพราะฉะนั้นวันนี้ในประเทศเรามีคนเดือดร้อนเยอะ จากเศรษฐกิจ ทั้งในและนอกประเทศ เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรรมอย่างเดียว เราต้องแก้ปัญหาของเราให้ได้ หลายประเทศเขาก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้งประเทศจีน ผมคุยกับเขาเรื่องราคายาง เขาบอกราคาก็ตกเหมือนกัน ในขณะนี้เขาก็ไม่สามารถจะทำให้ราคาสูงขึ้นได้ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่หลายๆ ท่านก็ยังเข้าใจอยู่ว่า ถ้าเราคุยกัน 2 - 3 ประเทศแล้ว มันจะทำได้ ผมก็พูดกับทุกประเทศที่เคยทำมา เขาบอกว่าเขายังไม่ไหวเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นยังหาทางออกไม่ได้ในเรื่องนี้ เขาไปแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น แต่เขาก็ไม่มีการประท้วง ไม่มีการอะไรต่างๆ ของเราก็อย่าไปทำเลยนะครับ มันไม่เกิดประโยชน์นะ มันทำไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็พยายามจะทำให้เต็มที่ ก็เห็นทางกระทรวงเกษตรฯ เขาบอกมาว่า วันนี้เราก็พยายามผลักดันราคายางแผ่นให้ได้ 60 บาทขึ้นไป ก็ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ มันก็ช้าบ้าง เร็วบ้าง อะไรก็แล้วแต่ แต่ในส่วนของวันนี้ก็มีเรียกร้องเรื่องน้ำยางดิบมาอีกแล้ว จะขอ 80 มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ ยางแผ่นยังไม่ได้เลย แล้วน้ำยางดิบจะทำได้อย่างไร มีบางจังหวัด หรือบางพื้นที่ เขาก็ไปส่งเสริมในเรื่องของการทำน้ำยางให้เป็นยางแผ่น เพื่อให้ราคาได้สูงขึ้นเป็น 60 หรือ 60 กว่า อันนี้มันถึงจะน่ารัก น่าช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้นถ้าเรียกร้องไปเรื่อยๆ มันก็ช่วยไม่ไหว จะเอาเงินที่ไหนมาช่วย วันนี้หลายชาติเขาก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน เพราะเขาก็ต้องแก้ปัญหาประเทศของเขาเหมือนกัน เราจะไปบังคับเขาได้ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้เราถึงต้องเดินไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนไง สร้างความเข้มแข็งของเราเอง มีการใช้ผลผลิตในประเทศ ก็ต้องใช้เวลาโรงงาน สร้างระบบ ในการใช้วัตถุดิบในประเทศอีก เราต้องแก้ของเราให้ได้ก่อนด้วย เมื่อเราเข้มแข็งแล้ว เราจะได้นำในการปรับปรุงการแก้ไขในภาพรวมของอาเซียนต่อไป เราต้องสร้างความเข้มเเข็งของเราให้มีความยั่งยืน ลดต้นทุนการผลิตให้ได้ ราคาต้นทุนปลูกยาง ปลูกข้าวเราสูงกว่าประเทศรอบบ้านเราเลย แล้วราคามันก็แข่งเขาลำบาก การกำหนด Demand Supply ต้องเหมาะสม
ฉะนั้น การปลูกที่ผ่านมาสนับสนุนให้ประชาชนปลูกมากจนเกินไป คำว่ามากจนเกินไปมันก็ขายลำบาก และบางอันก็ปลูกในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ปลูกบนเขาบ้าง ปลูกบนพื้นที่ป่าบ้าง ออกมาเรียกร้องทั้งหมด ความจริงแล้วต้องถูกดำเนินการ ดำเนินคดีทั้งหมดเลยนะครับ เราก็ผ่อนผันอยู่ในขณะนี้ ก็ต้องเห็นใจ เข้ามาจดทะเบียนให้เรียบร้อย และหาทางออกในกฎหมายให้ได้ อย่าเรียกร้องกันอย่างเดียวเลย เห็นใจรัฐบาลบ้าง ผมก็ตั้งใจเต็มที่ อย่าลืมว่าประเทศไทยนั้น มีคนหลากหลายอาชีพที่เขาไม่มีรายได้สูงเหมือนกัน มีรายได้ลดลง เขาก็ต้องผ่อนรถผ่อนบ้านเหมือนกัน เช่น ผู้ประกอบการเกษตรอื่นๆ นอกจากข้าว และยางแล้ว การรับจ้าง อาชีพอิสระ รายได้ก็ลดลงหมดนะครับ เพราะเศรษฐกิจมันแย่ลง ฉะนั้นเราต้องช่วยกันทำอย่างไรให้มันดีขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนผ่าน อดทน ร่วมมือ หามาตรการมา แต่ถ้าจะให้มา Subsidize ให้กันมันก็ลำบาก
ฉะนั้น ทุกคนก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนเหมือนกัน ทำงานให้มากขึ้น ปรับตัวเองให้เข้มเเข็ง อย่าเรียกร้องอะไรกันให้มากมายจนเกินข้อเท็จจริงเป็นไปไม่ได้ ให้ความเป็นธรรมกับอาชีพอื่นๆเขาด้วย รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องดูแลเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าดูแลเฉพาะเสียงส่วนใหญ่ ดูแลเฉพาะชาวนาอย่างเดียว คนอื่นก็เป็นคนไทยนะครับ ถ้าเราไม่ดูแลเขา เอาเงินทั้งหมดมาทุ่มเทตรงนี้หมดเลย จนช่วยตัวเองไม่ได้ จะทำอย่างไร คนอื่นเขาจะทำอย่างไร วันนี้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณมากมาย และต้องดูแลในเรื่องหนี้สินอีก กำลังคิดอยู่ว่าจะดูแลหนี้สินประชาชนอย่างไร มีการประนอมหนี้ ชะลอหนี้อย่างไร จะขึ้นทะเบียนกันอย่างไร ราคาสินค้า การลงทุนต่างๆ มันมีปัญหาหมด
เพราะฉะนั้นคนเดือดร้อนหมดไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรอย่างเดียว รัฐต้องใช้งบประมาณเหล่านี้ไปดูแลด้วย สำหรับในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในวันนี้นั้นมีปัญหาอยู่มาก งบประมาณประจำปีที่ตั้งไว้มันอย่างที่เรียนไปแล้ว มันไม่ได้ใช้ได้เต็มจำนวน มันต้องหักส่วนหนึ่งมาใช้หนี้สาธารณะ จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เงินยืม เงินที่มาช่วยเหลือเกษตรกร และใช้ในการพัฒนาประเทศ บางส่วนก็ต้องไปกู้เขามาด้วย มันทำให้เงินก้อนใหญ่ประจำปี รายได้เหลือไม่มากนักที่จะลงไปใช้งาน ส่วนใหญ่เป็นงบรายจ่ายประจำที่ราชการเขาวางแผนงานว่า จะต้องทำอะไรบ้าง ในส่วนที่งบลงทุน เช่นใหม่ๆ การที่จะทำให้ประเทศเข้มแข็ง ประชาชนมีรายได้ก็ต้องมีการลงทุน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก มีการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำถนนหนทาง รถไฟ รถไฟฟ้า ท่าเรือ ท่าอากาศอื่นๆ อีกมาก หลายอย่างก็มีปัญหา รัฐบาลต้องไปอุดหนุนไปดูแลอยู่ เพื่อให้อยู่ได้ เพราะว่าไม่อย่างนั้นมันหยุดนิ่งไปทั้งหมด อย่างที่เรียนไปแล้วว่า เป็นแหล่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนจำนวนมาก ถ้ามันหยุดทั้งหมด ถ้ามันล้มละลายทั้งหมดแล้วใครมันจะไปทำอย่างไร ประชาชนก็เดือดร้อน
เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนคำนึงถึงประเทศชาติโดยรวมด้วยนะครับ และทำอะไรก็ตามให้นึกถึงคนส่วนใหญ่ของทั้งประเทศด้วย ฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยกันทำความเข้าใจด้วย ใครที่ไม่ได้ทำอาชีพเกษตร หรือทำยางฯ ทำอะไรต่างๆ ปลูกข้าวก็ช่วยกันคุย ทุกคนพ่อแม่พี่น้องคงไม่ได้ทำทั้งหมด เพราะฉะนั้นคนอื่นที่รู้จักช่วยกันเบาๆ ลงบ้าง รัฐบาลเร่งทุกอย่างเลย แต่มันไม่ทันใจหรอก มันเป็นไปไม่ได้ เพราะปัญหาเหล่านี้มันหมักหมม มันซับซ้อนมาหลายปี หลายสิบปีแล้วด้วยซ้ำไป มาแทนที่วันนี้มันควรจะมาพูดกันด้วยว่า เราจะปรับปรุงข้าวให้มีคุณภาพอย่างไร อย่างเดียว อันนี้มันต้องมาไล่ตั้งแต่ผลิตเลย ตั้งแต่ผลิต ตั้งแต่ตลาด ตั้งแต่พันธุ์ข้าว ตั้งแต่ราคาต้นทุนการผลิต มันไม่ใช่นะผมว่า และวันนี้จะเอาเร็วๆ ไวๆ มันลำบาก
เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ผ่านมา สำหรับในเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ยาเสพติด อาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ทุกเรื่องรัฐบาลพยายามเร่งรัดคดีที่มีผลเสียหายร้ายแรงต้องเข้าใจว่า อะไรที่จะมีผลเสียหายร้ายแรงต่อประเทศชาติ กระทบต่อชื่อเสียง ต้องให้ชัดเจนขึ้น ให้เกิดความสงบสุขของประชาชน และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างโปร่งใสเป็นธรรม ตามกระบวนการยุติธรรม คดีความอื่นๆ ในระยะต่อไปคงจะถูกเข้าสู่กระบวนการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีใดๆ ที่มีความร้ายแรง หรือรุนแรง ผลกระทบต่อสังคมเหล่านี้ แต่ผมไม่ได้ไปใช้อำนาจเข้าไปก้าวก่ายในกระบวนการพิจารณาคดี เป็นเรื่องของศาล อัยการ ผู้พิพากษาก็ว่าไป เพราะทุกคนสามารถต่อสู้คดีได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว มีทนายมีอะไรต่างๆ ก็ว่ามา อันนี้ขอให้เป็นไปตามหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ทุกคดีถ้าพิสูจน์ได้ไม่มีการบิดเบือน มันดำเนินคดีได้หมด เพียงแต่ว่าต้องเข้าใจกัน ต้องยอมรับในกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกาของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมเลย แล้วจะทำอย่างไรประเทศชาติต้องอยู่ด้วยกฎหมาย ท่านจะบอกว่า เรื่องนี้ไม่น่าเชื่อถือ เชื่อมั่นมันเป็นไปไม่ได้
เพราะฉะนั้นมันจะทำให้อยู่กันยากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามาพูดอะไรต่างๆ ที่มันเกิดผลกระทบกับกระบวนการยุติธรรมของเรา และประเทศชาติของเรา ผมคงไม่คิดว่า จะมีใครที่อยากจะให้ใช้อำนาจของนอกประเทศ หรือคนอื่นๆ มาดำเนินการกับคนไทยของเรา ในประเทศของเรา ถ้าอย่างนั้นผมว่าไม่ใช่คนไทย เพราะฉะนั้นผมคิดว่า เจ้าหน้าที่รัฐในวันนี้ทั้งทุกฝ่ายต้องดำเนินการด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกข้างใดข้างหนึ่ง ผมยืนยันว่าไม่มีข้างนะ ผู้ที่ตัดสิน ก็คือมีแค่ถูกกับผิด โดยศาล โดยกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น
ในเรื่องของการประท้วงของเกษตรกร ผมเข้าใจดีนะ ทราบถึงความเดือดร้อน แล้วอีกอันหนึ่งก็คือการพูดของอดีตนักการเมือง ที่มีคดีบ้าง หรืออยู่ในพรรคการเมืองบ้าง ก็ขู่ว่าจะใช้การชุมนุม ขู่กับรัฐบาล ข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐ ว่าจะใช้ความรุนแรง ว่าจะปรองดองไม่ได้ หรือว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเหมือนภาคใต้ อันนี้อันตรายนะ ผมถือว่าเป็นการพูดในเชิง เหมือนกับการก่อการร้ายเลย ถ้าพูดแบบนี้นะ
เพราะฉะนั้นพวกนี้ถูกบันทึกไว้หมดแล้วนะ จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที อันนี้ไม่ใช่การปิดกั้นเสรีภาพนะ เป็นการพูดที่ทำให้เกิดผลกระทบทางด้านความมั่นคง มันถูกมั้ยล่ะครับ พูดแบบนี้ กฎหมายเขามีไว้ เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องทำงาน แล้วมาพูดข่มขู่เจ้าหน้าที่อย่างนี้ ประเทศไทยเขาก็รับไม่ได้ แล้วก็อ้างว่าเป็นเรื่องของการเมือง มันไม่ใช่เลยนะ เพราะท่านพูดผิด ท่านทำผิดกฎหมาย แล้วท่านมาบอกการเมืองได้ยังไง เพราะผมไม่ใช่การเมืองนะ ผมแก้ปัญหาของประเทศชาติอยู่ในขณะนี้นะ อันนี้ผมได้สั่งการไปแล้วนะ สำหรับบุคคลเหล่านั้น ทุกคนทราบดีว่าใครพูดอะไร ยังไง ก็จะให้ คสช.ได้ประเมินและดำเนินการอย่างระมัดระวังโดยทันที กับผู้ที่มีการกระทำดังกล่าว ก็ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนนะ โดยเฉพาะครอบครัว ลูก-เมีย ต้องเดือดร้อนทุกคน เสร็จแล้วก็โวยวายว่า เอ๊ะ มันเป็นเรื่องของการเมือง เรื่องของการต้องการทำลายใคร ผมจะต้องการทำลายใคร ถ้าท่านไม่พูดอะไรผิด หรือทำอะไรที่มันผิดกฎหมาย แล้วใครจะทำอะไรท่านได้ล่ะ แสดงว่าท่านผิดนี่นา เมื่อท่านผิดเขาก็ต้องดำเนินการ หรือจะปล่อยให้เป็นแบบที่ผ่านมา คือไม่ต้องดำเนินการอะไร ใครจะยิงกัน ใครจะผิด ใครจะเอาอาวุธสงครามออกมา ก็ไม่ต้องไปดำเนินการจับกุมดำเนินคดี หรือแม้กระทั่งเราไปทำเป็นเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง ไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนได้รับฟังข้อเท็จจริง รักประเทศชาติกันบ้างเถอะครับ นะ ทุกคนก็มีความยากลำบาก รายได้น้อยเหมือนกัน ทุกคนก็อยากจะมีความสุข ไม่ใช่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเดือดร้อนแต่กลุ่มเดียว ไม่ใช่มันเดือดร้อนทุกคน ผมเองก็เดือดร้อน ผมไม่ได้มีความสุขมากนักอยู่แล้วในการทำงานในวันนี้
ในเรื่องของการเพิ่มวันหยุดราชการก็มีมาตรการ คือ เราต้องขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา ในเรื่องธุรกิจการให้บริการ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม การท่องเที่ยว มันก็แย่ไปหมด เราก็จำเป็นต้องมีการปรับบ้างนะครับ ก็เป็นมาตรการเฉพาะปีนี้ ก็วันหยุดมันพอดีกัน ต้องการให้มีการใช้จ่าย งบประมาณการท่องเที่ยวในประเทศ และคนที่ได้เงินคือใครก็คนไทย แล้วทำไมจะต้องต่อต้าน อันนี้ก็เป็นเรื่องของส่วนราชการ เขาไม่ได้ไปขับเคลื่อน และก็ช่วยกันดูแลทำให้ทุกภาคได้มีความเคลื่อนไหวในเรื่องของการใช้จ่าย ถ้าเราเร่งรัดเรื่องพวกนี้มันก็ไปไม่ได้ คนก็บ่นแต่ไม่มีรายได้ พอผมจะทำให้มีรายได้ก็ค้านอีก ก็ทุกคนก็จะได้มีรายได้มากขึ้น ถ้าทุกคนทำอะไรก็ไม่พอใจๆ ผมก็ไม่ต้องทำอะไรดีกว่า ก็ให้ทุกอย่างมันหยุดชะงักไป อยากจะเรียกร้องก็เรียกไป ใช้กฎหมายบังคับใช้อย่างเดียว แล้วมันจะเป็นยังไง มันก็กลับไปที่เดิม ก็พูดหลายครั้งแล้วนะ ถ้าไม่ทำ ไม่ดูแล ไม่แก้ไขก็บอกเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องดูแลทุกเรื่อง อันนี้ก็ไม่คิดเอาแล้วกัน
สำหรับความคิดเห็นของผู้แทนมิตรประเทศต่างๆนั้นผมคิดว่า ผมฟังได้หมดทุกคน แต่ผมจะให้ความสำคัญแค่เรื่องใด เป็นเรื่องที่ผมจะต้องใคร่ครวญของผมเอง ผมไม่เคยไปขัดแย้งกับใคร รัฐบาลเข้ามาอย่างไรผมไม่เคยปฏิเสธ ที่ไปที่มา ผมต้องการให้ทุกคนเข้าใจ ว่าทำเพื่อดูแลประเทศของเรา ประเทศไทยเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา ประชาชนคนไทยของเรานี้ ไม่ให้เกิดปัญหา ไม่ให้มีการบาดเจ็บล้มตาย แล้วไม่เป็นภาระกับมิตรประเทศ ที่ถ้าหากว่าวันนี้เราดูแลกันไม่ได้ แก้ปัญหากันไม่ได้ ก็ต้องให้คนอื่นเขามาดูแลประเทศเราเหรอครับ เราเป็นอิสระ ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครมากี่ร้อยปีแล้ว วันนี้ทำไมเราจะต้องให้คนอื่นเขามาเที่ยวไปฟ้องร้องใครต่อใครคนนู้นคนนี้ให้แก้ปัญหาให้เรา ผมว่าน่าอับอายนะ
ทำไมเราจะต้องดึงประเทศเราให้ไปเหมือนหลายๆประเทศที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาคิดอย่างไร ผมก็ให้โอกาสทุกคนเสมอมา เราก็ร่วมมือกันทุกประเทศในการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ Peacekeeping มาโดยตลอด ในระยะเวลาหลายสิบปีมาแล้ว หลายร้อยภารกิจ ใช้กำลังทหาร พลเรือนหลายหมื่นคน ไปทั่วโลก ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆ นี้ก็พึ่งกลับมา ทางเรือก็มี ทางบกก็มี เป็นผลดีทั้งสิ้น วันนี้ผมก็บอกทุกคนในสังคมโลก ว่า ผมขอเวลารัฐบาลนี้ ผมตัวผมเองขอเวลาทำให้กับคนไทยบ้างได้ไหม ทำให้ประเทศไทยของเราซึ่งมันมีปัญหาอยู่เมื่อเราไปทำที่อื่นมาเยอะแยะแล้ว วันนี้เราก็ไม่อยากให้ใครต้องมาช่วยเรา เข้มเเข็งเถอะ แล้วเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด โดยใช้กฎกติกาต่างๆเหมือนปกติ เหมือนสากล ไม่ได้ใช้อำนาจอะไรมากมาย จำเป็นต้องมีบ้างเท่านั้นเอง
ใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่าผมไม่ไปทะเลาะเบาะแว้งด้วย ก็ขอให้ถามคนไทยทั่วประเทศด้วยแล้วกัน ว่าเขาต้องการอะไร ไม่ใช่ถามกลุ่มนี้กลุ่มนั้นมาแล้วมาสรุปเอาเอง ก็ให้ความเป็นธรรมกับคนไทย ประเทศไทย ให้ความเป็นธรรมกับผมบ้างนะ ซึ่งในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลเข้ามาด้วยการที่ แม้กระทั่งตัวผมเองผมก็ไม่มีความสบายใจ แต่มันจำเป็น ผมปล่อยไว้ไม่ได้ วันนี้ก็เห็นอยู่ ยังไม่หยุดเลย ยังจะต่อสู้อะไรนักหนา ผมไม่รู้ ไม่แน่ใจ ทุกเรื่องมีปัญหาไปหมด จะปฏิรูปออกกฎใหม่ก็ไม่ได้ ทั้งที่มันยังไม่เกิดขึ้น ผมไม่เข้าใจว่ามันจะเดือดร้อนอะไรนักหนา เดือดร้อนแต่เพียงว่า วันหน้าจะเข้ามาใช้อำนาจไม่ได้ ใช้ไม่สะดวก โกงกินไม่ได้หรือเปล่า อันนี้ผมไม่อยากจะเปิดศึกนะ แต่มันต้องพูดแล้ว ไม่งั้นผมถูกพูดอยู่ข้างเดียว ผมเป็นสุภาพบุรุษไง ไม่อยากจะไปกล่าวว่าใคร ไม่อยากพูดให้ประเทศไทยเสียหายอย่างไรมา ไปโทษคนนู้นคนนี้ ท่านไม่อายเขาหรือไง เที่ยวไปร้องแรกแหกกระเชอ ไม่ว่าคนจากต่างประเทศ ทั่วไปหมด ผมว่าต้องเลิกแล้วนะ
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่ ดูแลให้ถูกต้องและดูด้วยว่า รัฐบาลนั้นมาด้วยระบบที่โปร่งใสหรือเปล่า มีธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ เสียงส่วนน้อยเขาว่ากันอย่างไร ถ้าเสียงส่วนน้อยเขาคัดค้าน ไม่เห็นด้วย ก็ต้องยอมรับสภาพ ว่า ตัวเองจะทำถูกทั้งหมด ผิดทั้งหมด ก็อธิบายสิครับ แก้ปัญหาให้ได้ ไม่งั้นความขัดแย้งมันก็เกิดขึ้น มันก็บานปลายไปสู่ความรุนแรง ความขัดแย้ง แล้วเมื่อมีการใช้อาวุธสงคราม ซึ่งทุกประเทศในโลกเขาไม่มีแบบนี้ แล้วประชาชนมาสู้กันเองมันไม่มี มันไม่ใช่แบบนี้
ฉะนั้น รัฐบาลเลือกตั้งบริหารประเทศก็ไม่ได้ แล้วการใช้อาวุธสงครามก็หาตัวไม่ได้ รัฐบาลเลือกตั้งเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร ประเทศชาติความสงบสุขของประชาชนจะอยู่ที่ไหนครับ และนี่คือเหตุผลอย่างหนึ่งที่ผมเข้ามาก็เท่านั้นเองนะ แล้วก็อยากให้ทำต่อไปให้ดีที่สุด ท่านต้องช่วยกัน ต้องมีความหวัง อยากให้ทุกคนมีความหวังกับอนาคตของประเทศไทย เหมือนที่ผมมีความหวังกับอนาคตของประเทศไทย และความหวังทั้ง 2 ความหวังของรัฐบาลและประชาชน มันต้องไปด้วยความฝันอันเดียวกันนะ ว่าหวังจะมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล หวังให้รัฐบาลมีความสุขสงบ หวังเรื่องของเศรษฐกิจเข้มเเข็ง หวังที่จะมีการทำมาค้าขายการลงทุนมากขึ้น แล้วทำให้อาเซียนเข้มเเข็งขึ้น วันหน้าเรามีเงินทุนในการพัฒนาประเทศมากขึ้น ลูกหลานเราสำคัญที่สุด ไม่ใช่การต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียว เราต้องต่อสู้การเมืองเพื่อทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมอยากจะฝากนักการเมืองในอดีตและในอนาคตไว้ด้วย ต้องตั้งใจ และแถลงให้ได้ว่าเข้ามาแล้วจะทำอะไร ให้ละเอียด ชัดเจน ถ้าจะให้ตกลงอย่างเดียว ก็ต้องตอบให้ได้ว่าแบบไหนล่ะ ในเมื่อวันนี้รายได้ประเทศก็มีอยู่เท่านี้ ผมไม่เห็นว่ามันจะมากขึ้นกว่าเดิมเท่าไรเลย เพราะมันไม่มีช่องทางไง การส่งออกก็แย่ลงๆ ทำยังไง วันนี้เรากำลังสร้างตรงนี้ให้ท่านอยู่ พอท่านมาขัดแย้งเราวันนี้ วันหน้าท่านเข้ามา ท่านก็เป็นแบบนี้ แย่กว่าเดิมอีก เพราะว่ากลายเป็นรับมือไม่ได้อีก เพราะหลายพวกหลายฝ่ายเหลือเกิน ต้องแก้ให้ได้นะครับ ทุกคน ขอความร่วมมือนะ ผมไม่ใช่ศัตรูกับใครทั้งสิ้น
สัปดาห์นี้มีความคืบหน้าหลายประการในการดำเนินงานของรัฐบาล จะชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบ เรื่องของการป้องกันแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้ง ผมถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ปีนี้ 58 จากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประเมินไว้แล้วว่าปีนี้จะแล้งกว่าทุกๆ ปี มันอาจจะเป็นด้วยโลกเปลี่ยนแปลง สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง อะไรก็แล้วแต่ รัฐบาลก็ได้สั่งการให้วางแผนและเตรียมมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกัน ที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ได้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันเร็ววันนี้ วันนี้ก็เห็นเรียกร้องน้ำสำหรับปลูกข้าวในพื้นที่ที่ห้ามปลูก แล้วจะไปเอาน้ำที่ไหน ก็เรียกร้องให้กรมชลประทานเปิดน้ำเพื่อจะมาเลี้ยงข้าว แล้วบอกว่าไม่รู้จะทำยังไง ทำอาชีพอื่นไม่เป็น ก็ต้องไปหาเจ้าหน้าที่ ไปหาเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ข้าราชการ ศูนย์ดำรงธรรมก็ได้ ไปบอก ไม่มีรายได้ จะให้ทำอะไร ผมคิดว่าเขาคงไม่ไปทรมานทรกรรมใช้แรงงานคุณมากมายหรอกนะ ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ เด็ก คนชรา อะไรก็แล้วแต่ เขาต้องหาทางหาเงินให้จนได้นะ เราก็ได้อนุมัติงบประมาณไปจำนวนมากพอสมควรในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ถ้าโต้แย้งทุกวันไม่ได้ แล้วเอาน้ำไปให้ แล้วน้ำประปามันก็ลดลง น้ำที่จะผลักดันน้ำทะเลมันก็ลดลง และจะทำยังไง จะอยู่กันยังไง ก็เสียหายพังพินาศกันไปทั้งหมด ทั้งขาดน้ำ ทั้งน้ำเค็มเข้า มันเยอะแยะไปหมด วันนี้ต้องแก้ทุกๆ วัน ทั้งระบบนะครับ ก็ได้สั่งการไปแล้วในเรื่องน้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยติดตามสถานการณ์ วางแผนป้องกัน แก้ไข เตรียมมาตรการแก้ไขให้ได้ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้น การเกษตรก็ต้องไปหาอาชีพเสริมจะทำยังไง มันทำไม่ได้ก็ไม่ได้ ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำบริโภค รถน้ำจะส่งกันยังไง โครงการราชรัฐร่วมใจสู่ภัยแล้ง ทหาร ตำรวจ พลเรือน รถน้ำจะช่วยกันยังไง เดี๋ยวเกิดมีวาตภัยเข้ามาอีก พายุเข้ามา หมอกควัน ไฟป่าเข้าไปอีก การระบาดของแมลงวันนี้ก็มีหลายที่ ตัวเพลี้ยตัวอะไรก็ลงอีกแล้ว สวนยางก็มีศัตรูพืชมากมาย แล้วก็รวมไปถึงการระบาดของโรคติดต่อในปศุสัตว์ พอมันแล้งเข้าอะไรเข้า หรืออากาศชื่นมันก็มีโรคทั้งนั้น และทำยังไง วันนี้อย่ามาตั้งหลักตั้งท่าเรียกร้องกันมากมาย ก็ไปดูแลแก้ไขเตรียมการแก้ปัญหา ปรึกษาเจ้าหน้าที่ วันนี้เราต้องมีการจัดทำฐานข้อมูลสภาพอากาศ น้ำ พื้นที่เสี่ยงภัยนะครับ ให้ใช้ในการวิเคราะห์ของส่วนราชการในการประเมินสถานการณ์ จัดทำแผนป้องกัน ซักซ้อมกำหนดงานรับผิดชอบเร่งให้การช่วยเหลือโดยทันที วันนี้เราได้สั่งการให้มีการสนับสนุนในเรื่องของเครื่องสูบน้ำ 44 เครื่องใน 7 จังหวัด รถบรรทุกน้ำ 48 คันใน 11 จังหวัด รวมปริมาณน้ำไปแล้ว 200,000 ลูกบาศก์เมตร การปฏิบัติการฝนหลวงก็ทำอยู่ การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่นาปรัง พื้นที่เขตชลประทาน ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลอง การช่วยเหลือการจ้างแรงงานเกษตรกรขุดลอดคูคลอง พัฒนาระบบชลประทาน พัฒนาแหล่งน้ำ การขุดสระเก็บน้ำของ ส.ป.ก.ซึ่งดำเนินการไปแล้วประมาณ 52 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำในไร่นา เล็กน้อยๆ ขุดเถอะครับ ขุดไปให้หมดทุกที่ ทำไงมันจะมีที่่เก็บน้ำ วันนี้ไม่มีน้ำ วันหน้าเดี๋ยวฝนตก ฤดูกาลหน้าก็มี นี้ไง ถ้าเราไม่ช่วยกันเตรียมการ ประชาชนไม่เตรียมกันเอง รัฐไปช่วยกันก็ไม่ทั่วถึง ถ้าต่างคนต่างช่วยกันทำมันก็โอเค ปีหน้ามันก็ทันใช้ เราอาจจะรอรับการช่วยเหลือของรัฐกันมากเกินไป จนช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น วันนี้ต้องช่วยกัน และอยากฝากข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ลงไปช่วยเขาเถอะครับ น่าสงสาร บางครั้งเขาก็นึกอะไรไม่ออก ชาวไร่ชาวนามีรายได้น้อย ต้องช่วยเขา คิดถึงแววตาที่ต้องตากแดดตากฝน ผมเห็นใจนะ เหี่ยวย่นไปทุกคนเลย เขาไม่มีความสุข เราต้องดูแลเขากี่ปีกี่เดือนเป็นชาติมาแล้ว ที่ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องแก้ไข นี่มีตั้งกี่ปีมาแล้วแก้ไม่ได้สักที แก้ให้ชัดเจนตรงไหนมันมีได้ ตรงไหนมีไม่ได้ เขตชลประทานทำแค่ไหน ปริมาณน้ำต้นทุนมีเท่าไร ตรงนี้จะให้ทำอะไร มันควรจะเกิดมาตั้งหลายรัฐบาลแล้ว ทำไมไม่เกิดมาเกิดตอนนี้จะต้องมาให้ผมทำตอนนี้ พอทำตอนนี้ก็ไม่ทันใจ และจะทำอย่างไร และจะรอให้ใครมาทำอีก
เพราะฉะนั้นก็ฝากไว้แล้วกัน คิดช่วยคิดด้วย วันนี้ได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำในไร่นา นอกเขตชลประทานของกรมพัฒนาที่ดินดำเนินการไปแล้ว 1,514 บ่อ และที่ผ่านมามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการไปแล้วจำนวน 27,134 ราย ประมาณ 61% ของกลุ่มเป้าหมายที่เราจัดงบประมาณลงไป และมีการอบรมอาชีพเสริมด้านการเกษตร จำนวน 13,340 ราย งบประมาณ 75% ของกลุ่มเป้าหมาย มีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืช ตระกูลถั่วและอื่นๆ อันนี้คงได้เฉพาะพื้นที่ๆ ภัยแล้ง พื้นที่ๆ มีปัญหาเรื่องเพาะปลูกนาปรังอะไรไม่ได้ทำนองนี้ ปลูกข้าวไม่ได้ เราต้องให้ปลูกพืชทดแทนเพื่อมีรายได้ แต่ตรงไหนที่มันปลูกได้อยู่แล้ว เช่น สวนยางฯ อะไรก็เลี้ยงสัตว์เพิ่มไป ปลูกพืชที่มันกินได้ ปลูกผักปลูกหญ้าอะไรไป มันมีพืชที่มันอยู่กันได้หมด ถ้าเราไม่สนใจมันก็ไม่ได้ มันต้องรอรับการช่วยเหลืออยู่แบบนี้ หลายๆ จังหวัด หลายๆ อำเภอ มีความก้าวหน้าในทางที่ดี ผมเห็นรวมกลุ่มกัน ปลูกพืชออร์แกนิกบ้าง ปลูกพืชทดแทนบ้าง และหาอาชีพเสริมบ้าง สหกรณ์เข้มแข็ง เงินกู้ เงินอะไรต่างๆ ที่มี เขาบริหารเป็นระบบ แต่ถ้าตรงไหนที่ยากจน ผมให้ไปสำรวจ และปรากฏว่า ไม่มีการใช้จ่ายงบประมาณที่มี ที่รัฐสนับสนุนไปอย่างเป็นระบบเลย เอาไปใช้ในสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ไปซื้อโทรศัพท์มือถืออะไรอย่างนี้ไม่ได้ แล้วเงินหมุนเวียนมันก็ไม่เกิด ให้กี่ล้านๆ ก็หมดแบบนี้ นี่ต้องไปดูนะ
เพราะฉะนั้นท่านต้องยอมรับในความผิดพลาด ยอมรับในการแก้ไขของท่านด้วย ถ้ารัฐจะต้องดูแลทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่อย่างนี้ ถ้าเราเข้มแข็งบ้างอะไรบ้าง รัฐมีกำลังใจในการที่จะไปช่วย การจัดตั้งกลุ่มอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพประมง อาชีพปศุสัตว์ต่างๆ ต้องเพิ่มเติม วันหน้าถ้ามีบ่อน้ำ มีอ่างเก็บน้ำที่เราขุดเพิ่มเติมในปีนี้ได้ อยากจะให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงปลาเอาไว้กินบ้างอะไรบ้าง ขายบ้าง ก็ช่วยกันไป วันหน้าเมื่อไรก็ตามที่เดือดร้อนก็ต้องช่วยกัน เผื่อแผ่แบ่งปันกันนะครับ
ในสัปดาห์นี้นั้น คณะรัฐมนตรีได้มีอนุมัติโครงการสร้างรายได้ และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งอีกโครงการหนึ่ง ในพื้นที่แล้งซ้ำซาก 3,052 ตำบล ใน 58 จังหวัด คือพื้นที่ๆ มันสร้างอะไรไม่ได้ ก็แล้งมันทุกปีๆ มีการประกันราคามาตลอด ความเสียหายก็เสียหายทุกปี มันต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแล้ว จะทำอย่างไร แต่ช่วงนี้มันเดือดร้อน จะพิจารณาให้ตำบลละ 1 ล้านบาท ก็ 3 พันกว่าล้านแล้วนะครับ ที่ผ่านมาด้านการเกษตรหลายหมื่นล้าน เป็นแสนล้าน ผมคิดว่าที่ให้ๆ ไป ผมได้กำชับให้กระทรวงเกษตรฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีกระทรวงมหาดไทยด้วย และ คสช. ทหารทุกหน่วย ทุกกองทัพภาคต้องเข้าไปดู การปรับดูแลให้โครงการทุกโครงการเป็นไปตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ให้ถึงครอบครัวผู้ยากไร้ จะคนแก่จะเด็กอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ บางครอบครัวทำไร่ทำนาก็เหลือแต่พ่อแต่แม่ อายุ 60 70 แล้ว ถ้ามาทำแรงงานจะให้เขาทำอะไรที่มันเบาๆ แต่เขาก็ได้เงินเหมือนกัน เขาได้เบี้ยเลี้ยงครอบครัวใช้จ่าย อันนี้ขอให้ คสช.ไปช่วยเต็มที่เลย ดูด้วยว่าใครทุจริต ใครไม่จริงไม่จังอะไรต่างๆ เร่งรัดให้ออกให้เร็วด้วย บางทีมันก็ช้า มันช้าขั้นตอนมันเยอะ
นี่ไงเราต้องซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน รัฐต้องซื่อสัตย์ ข้าราชการก็ต้องซื่อสัตย์ ประชาชนก็ต้องซื่อสัตย์ขึ้นชื่อ ขึ้นทะเบียน ให้มันชัดเจนขึ้น ไม่ใช่รีรอ ถึงเวลาพอจะจ่ายก็จ่ายไม่ได้ และมาเร่งรัดว่าทำไมรัฐบาลจ่ายช้า ก็มันไม่เรียบร้อย ต้องขึ้นให้เรียบร้อยสิครับ ทุกคน
เพราะฉะนั้นขอให้ทุกกระทรวงเคลียร์เรื่องข้อมูลต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนการเพาะปลูกฤดูกาลหน้า ต่อไปอาจจะไม่ให้มีการเพิ่มรายชื่ออีกแล้ว หรือถ้าไม่รวมกลุ่มเป็นกลุ่มแปลงนาขนาดใหญ่มา ไม่รวมกลุ่มเกษตรกรมา การช่วยเหลือจะที่หลัง หรือจะให้ไม่ได้ก็ไม่รู้ มันต้องมีมาตรการถ้าท่านเรียกร้องจากเราอย่างเดียว มันคงไม่ใช่ มันคงต้องตั้งกติกากันใหม่บ้างว่า ต้องรวมกันให้ได้ จะได้ไปช่วยกันให้ถูก นี่คิดว่าจะทำอย่างไร จะหาเครื่องมืออุปกรณ์ไปช่วยเหลือได้ ถ้าให้ไปทุกคนแก่ครัวเรือนทุกครัวเรือนมันทำไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าให้เป็นกลุ่มให้เป็นสหกรณ์ หรือไปปรับราคากับ Outsource ต่างๆ ที่มาไถมาอะไรต่างๆ ให้มันลดราคาลง ทำได้ ถ้าแปลงนามันใหญ่ขึ้น แต่ถ้าดิวเป็นครอบครัว เป็น 50 ไร่ เขาต้องคิดราคาเต็ม แล้วจะให้ผมไปทำตรงไหนบ้าง
เรื่องปุ๋ยเหมือนกันก็เร่งรัดปุ๋ยอินทรีย์ให้มากที่สุด วันนี้ก็ผลิตได้เยอะแยะก็เอาไปใช้สิครับ เอาไปตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช ธนาคารปุ๋ย เบิกปุ๋ยไปใช้เป็นข้าวก็ได้ เบิกข้าวไปใช้เป็นยางก็ได้ อะไรอย่างนี้ ไม่ใช่ต้องเป็นไปตามตัวอักษรทั้งหมด เบิกอะไรต้องใช้อันนั้น ไม่ใช่ ก็สลับกันไป บริหารจัดการให้ดีแล้วกันในส่วนของการเพาะปลูก เร็วๆ นี้ก็จะเข้ามาอีกแล้วนะ ก็ขอให้รีบดำเนินการ ในส่วนของการช่วยเหลือ มาตรการต่างๆ ใช้เงินของรัฐลงไป ก็ขอให้มีความโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน เลิกเสียเถอะ ตอนนี้ อย่าเพิ่งเลย เพราะเรากำลังเร่งรัดเรื่องนี้อยู่ด้วย ประชาชนเดือดร้อน การทุจริตก็มากมาย วันนี้ก็ลดลงมาจำนวนหนึ่ง ยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจมากนัก ตัวเลขมันลดลงมาน้อย จากการประเมิน หรือจากโพลต่างๆ ก็ตาม แต่ก็ถือว่าดีขึ้นนะ ก็ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนด้วยนะ ถ้าหากว่าพบเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดมีการทุจริต ก็ให้แจ้งเบาะแสมาที่รัฐบาลด้วย ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น จะได้รู้ จะได้เคลียร์ตัวเองกันซะที
ในเรื่องของการปฏิรูปบริหารราชการด้วยความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ในเรื่องนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในสัปดาห์นี้ได้มีการรับหลักการ เป็นแนวทางที่เหมาะสมในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ซึ่งแนวทางนี้ทาง คนร.ก็ได้มีการศึกษาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กับผู้รู้ทั้งหมด ทั้งด็อกเตอร์ นักวิชาการ ทั้งด้านการเงิน การธนาคาร การบริหารต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งสิ้น เพื่อจะกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจของไทย ท่านทราบอยู่แล้ว 50 กว่าแห่ง มันเป็นยังไง แล้วการบริหารราชการที่ผ่านมามีกำไร ขาดทุน อย่างไร รัฐต้องมาดูแลอย่างไร เพราะฉะนั้นมันต้องมาดูว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน
เพราะฉะนั้นปัญหาแรกคือ การกำกับดูแลจะทำยังไงไม่ให้ใครเข้ามาแสวงหาประโยชน์ได้ ไม่ใช่คนของคนนั้น คนนี้มาอยู่รัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ เป็นอย่างนั้นต่อไปไม่ได้แล้ว มันก็รั่วไหล มันก็เสียหาย มันต้องเอามาอุดหนุนกัน นี่ต้องไปโปะโน่น แทนที่จะมีงบประมาณที่กลับเข้าสู่รัฐมากมายในการพัฒนาประเทศ มันก็ไม่มีไง มันต้องกำกับดูแลจะทำยังไง จะยอมรับกันหรือเปล่า การบริหารราชการในลักษณะรัฐวิสาหกิจโดยข้าราชการ มันพอเพียงมั้ย มันจำเป็นมั้ย หรือจะต้องมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจเข้ามาด้วย หรือจะมีมืออาชีพเข้ามาบริหาร ก็คุยกันทั้งหมดนะ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนต่างๆ อย่าเพิ่งมาขัดแย้งอะไรกันเลย แต่วันนี้มันต้องเดินหน้าไปด้วย หมายความว่าจะแก้ก็แก้ โครงสร้างใหม่ทำ กฎหมายก็ไปเข้า สนช. เตรียมการ ในส่วนของการบริหารราชการวันนี้ต้องทำให้มันโปร่งใส แล้วเดี๋ยววันหน้ารัฐบาลเลือกตั้งเข้ามาแล้วจะทำยังไง ไม่ใช่ไปป้องกันเขา ป้องกันให้มาใช้ในทางที่ผิด เพียงแต่ให้เขาใช้ประโยชน์ดูแลประชาชน เพราะอาสาเข้ามาดูแลประชาชน ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพเท่านั้นเอง มีการบริหารทรัพย์สินของชาติให้เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุด เดี๋ยวก็ขัดแย้งกันอีก ไม่ไว้ใจกัน ไม่เชื่อมั่นกัน ก็ขัดแย้งเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจก็จำเป็นต้องกำหนดบทบาท และทิศทางการกำกับดูแลให้ชัดเจน มีการแบ่งโครงสร้างเป็น 3 ส่วน
อันแรกคือกระทรวงต้นสังกัดจะเป็นผู้กำหนดแนวนโยบายในการดำเนินงาน (Policy) อันนี้กระทรวง รัฐมนตรีก็รับไป หน่วยงานกำกับดูแลก็จะแยกออกมาอีกส่วนหนึ่ง (Regulator) เป็นผู้ควบคุมดูแลการบริหารงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มันต้องจัดตั้งองค์กรเจ้าของขึ้นมา เพื่อจะทำหน้าที่ในการดูแลความยั่งยืนในภาพรวม จะจัดยังไง เอาใครมาตรงนี้ ตรงนั้น เดี๋ยวไปหารือกัน ตอนนี้กำลังให้กลับไปทำขึ้นมาใหม่ ใน 3 ส่วนนี้จะทำงานประสานสอดคล้องกันยังไง เกื้อกูลกันยังไง จะแก้กฎหมายกันยังไง ตรงไหนบ้าง นี่คือการเปลี่ยนแปลงนะ เราต้องยอมรับในการเปลี่ยนแปลง ในระหว่างนี้มันจำเป็น เพราะฉะนั้นวันนี้กำลังศึกษาขั้นตอนอยู่ จะตั้งยังไง เรียกร้องเกินไป เดี๋ยวก็ไม่ไว้ใจอีก วันนี้อยากให้ไว้ใจเรา เพราะเราไม่ได้คิดเพื่อผลประโยชน์อะไรเลย คิดแต่เพียงว่าจะฟื้นฟูกันยังไง แล้ววันหน้าจะเดินหน้าไปยังไง แล้วการบริการประชาชนกันได้ยังไง เกิดความโปร่งใสยังไง ไม่งั้นก็จะโทษกันไปโทษกันมาอยู่แบบนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้ความโปร่งใส ใช้ระบบบริษัทภิบาลที่ดี แล้วก็ไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองต่อไปในอนาคตด้วย การทำงานต้องมีประสิทธิภาพ และมีความคล่องตัว ไม่ใช่ว่าปิดกั้นหรือควบคุมจนกระทั่งทำงานไม่ได้ เดี๋ยวก็มีปัญหาอีก มันต้องสมดุลกัน สิ่งเหล่านี้มันเป็นการวางรากฐานในการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ให้มีรัฐวิสาหกิจตลอดไป เพราะเป็นหน่วยงานที่มีรายได้ให้กับรัฐจำนวนมาก ถ้าทำดีๆ นะ
ในเรื่องของการช่วยเหลือแรงงาน กระทรวงแรงงานก็ได้เปิดศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ที่เรียกว่าสมาร์ทจ๊อบเซ็นเตอร์ (Smart Job Center) ภายใต้คอนเซปต์วันสต๊อปเซอร์วิส (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ไม่มีงานทำ และอยู่ระหว่างหางานทำ จะไปหาได้ที่ไหน วันนี้เราก็อำนวยความสะดวกตรงนี้ หรือใครต้องการเปลี่ยนงาน ก็จะมีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย อำนวยความสะดวกพี่น้อง บริการเป็นจอทัชสกรีนเข้าไปเลย ลดขั้นตอน มีการรับขึ้นทะเบียน รายงานตัวผู้ประกันตน
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับการบริการจากเจ้าหน้าที่ หรือจะบริการด้วยตัวเองก็ได้ มีจุดบริการสำหรับคนพิการต่างหาก บริการสัมภาษณ์งานผ่านระบบสไกป์ มีห้องสัมภาษณ์สด และบริการถ่ายคลิปวิดีโอแนะนำตัวเองด้วย เพื่อจะให้นายจ้างได้พิจารณาบุคลิกภาพ มุมบริการศึกษาค้นคว้าข้อมูลอาชีพ ห้องแนะแนวอาชีพ ให้การปรึกษาเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ ก็ถือว่าครบวงจรนะ วันนี้ก็อยากให้ประชาชนที่สนใจไปใช้ประโยชน์จากบริการนี้ ต้องรับรู้ได้ทุกอัน บอกกันต่อๆ ไปด้วย วันนี้ตั้งอยู่ในกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพฯ ช่วยกันเข้าไปดูซิว่ามันไปถึงไหน ยังไง ถ้าดูแล้วมันไม่ดีก็บอกมาในส่วนของการท่องเที่ยวนั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ปีนี้เป็นการท่องเที่ยววิถีไทย ก็จะนำเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาเป็นจุดขาย เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวให้มากขึ้น ควบคู่กับการส่งเสริมให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในบ้านเราเองด้วย ที่ผมเคยใช้คำว่า ไทยเที่ยว แล้วก็เที่ยวไทย มันก็ง่ายดี เพื่อจะสัมผัสวิถีไทยต่างๆ อันนี้ก็จะมีผลให้คนไทยมีความรักในวัฒนธรรมไทย ดูแลกัน เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นชนชาติไทยของเรา
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็รับนโยบายไปว่า จะมีแผนการจัดงานใหญ่ ที่ผมต้องการให้เน้นการแสดงออกวิถีไทยครบทั้ง 12 เดือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะกระจายรายได้ไปทุกภูมิภาคของประเทศ ที่ผ่านมาในเดือนมกราคมนี้ ก็ได้เปิดตัวไปแล้ว ในภาพรวม เทศกาลเที่ยวเมืองไทยที่สวนลุมฯ มีการย่อเมืองไทยไว้ที่นั่น ในใจกลางกรุงเทพมหานคร มีการตอบรับอย่างดีมาก นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาร่วมงานกว่า 600,000 คน หมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เป็นการเปิดการสร้างความเข้าใจ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ก็เน้นที่การฉลองตรุษจีนนะครับที่เยาวราช ก็จะเป็นตรุษจีนพิเศษ มีการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสครบรอบ 60 พรรษา ก็ทราบกันอยู่แล้วว่าพระองค์ท่านทรงเป็นพระมิ่งขวัญ ไม่เฉพาะชาวไทยเท่านั้น ยังทรงเป็นที่รักและชื่นชมของต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนด้วย
ในเดือนมีนาคมนั้นก็จะมีงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ และมวยไทย ศิลปะไทย มรกดไทย มรดกโลก และไหว้ครูมวยไทยโลก ณ อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา มวยไทยนี่มีชื่อเสียงมานานแล้วทั่วโลกก็มาฝึกมาหัด แข่งขันกันอยู่นี่ ได้รับการยอมรับความสนใจจากนานาประเทศ ชาวต่างชาติก็บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียน มาศึกษาศิลปะมวยไทย ดังนั้นก็คาดว่าจะมีผู้ที่ชื่นชอบอีกมากมาย ในช่วงดังกล่าวจากต่างประเทศ ก็อาจจะเข้ามาร่วมในพิธีไหว้ครูที่สวยงามนี้ด้วยอีกเป็นจำนวนมาก ก็จะขอเชิญชวนสนับสนุนให้คนไทย เยาวชนไทยให้มาสนใจและมาช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรม สร้างร่างกายให้เข้มเข็ง และวันนี้ก็คนไทยไม่ค่อยออกกำลัง ไม่ค่อยสนใจกีฬาอะไรต่างๆ ที่มันเป็นใช้แรงมากๆ ต้องผู้ชาย ต้องฝึก ผู้หญิงก็ฝึกกันเยอะแยะเลย มวยไทย ในประเพณีมวยไทยนี่มีหลายอย่าง มวยคาดเชือกก็มี ใครก็ไม่เหมือนประเทศไทย เกิดมาก็ชกมวยไทยได้เลย ต่างประเทศเขาต้องหัดกันตั้งหลายปีกว่าจะเตะ กว่าจะใช้ศอกได้ สนใจซะบ้าง
ในเดือนเมษายนก็จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ ในงานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ หลายประเทศก็พยายามจะเอาไปเป็นแบบอย่าง ก็เราเป็นต้นตำรับอยู่แล้ว เราก็อย่าทอดทิ้งของเราเอง ให้เป็นประเพณีที่ดีงาม ไม่ใช่มีปัญหา ผิดกฎหมายอะไรกันเยอะแยะไปหมด เราจะจัดที่ถนนราชดำเนิน ทั่วประเทศด้วย แต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป ช่วงสงกรานต์ของทุกปี ชาวต่างชาติก็มาเที่ยวเมืองไทยอยู่แล้ว คนไทยหลายคนอาจจะไปเที่ยวต่างประเทศ ผมก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว เป็นสิทธิเสรีของท่าน แล้วก็เป็นวันหยุดยาวด้วย ปีนี้ผมก็อยากให้ทุกคนลองเที่ยวในเมืองไทยดูไหมครับ เพราะต่างประเทศหลายประเทศก็มีความวุ่นวาย สภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลง เที่ยวเมืองไทยกันสักทีเถอะนะ มีทั้งหลายที่หลายทาง หลายจังหวัด บางคนก็เดินทางกลับภูมิลำเนา ก็รดน้ำดำหัวผู้มีพระคุณ ใช้เวลาไปมาหาสู่กัน รับพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ อันนี้ก็เปิดโอกาสให้ทุกคนกลับมาสู่ประเพณีไทย อยากให้มีความสนุกสนาน แล้วมีการเล่นสงกรานต์กันแบบไทยๆด้วยในช่วงหยุดหลายวันช่วงสงกรานต์ เงินทองก็ไม่รั่วไหลไปต่างประเทศ คนไทยก็มีความสุข การค้าการบริการมันก็ได้เงินกันทั้งหมด ใช้จ่ายกันในประเทศก็เรือล่มในหนองทองจะไปไหน
ฉะนั้นในเดือนพฤษภาคมจะมีเทศกาลไทยแลนด์ มิวสิค เฟสติวัล อีกนะ ชายหาดชะอำ เพชรบุรี และในเดือนมิถุนายนจะมีมหกรรมไทยแลนด์แกรนด์เซลส์ สำหรับครึ่งปีหลังก็จะมีทั้งมหกรรมสานศิลป์แห่งแผ่นดินอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ มหกรรมผ้าไหมไทย ร่วมเทิดไท้ราชินี กรุงเทพมหานคร มหกรรมอาหารนานาชาติ ที่ จ.ภูเก็ต สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทงในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศ เทศกาลมหกรรมแห่งความสุขวันที่ 5 ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพ่อแห่งชาติ มีท่องเที่ยวทั้งปีเลย
ผมพูดจนเหนื่อยเลย แสดงว่าประเทศไทยมีหลากหลาย น่าจะภูมิใจนะครับ ทั้งนี้ รัฐบาลก็ส่งเสริมการทอ่งเที่ยวอีก มีกองทุนช่วยเหลือเยียวยา นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 200 ล้านบาท มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ธันวาคม 2557 ให้การคุ้มครองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาท่องเทียวในประเทศไทย ทั้งในภาวะปกติ ภาวะวิกฤต ในการประกาศกฎอัยการศึก และทำให้เกิดการสูญเสีย ความเสียหายใดๆ จากการจลาจล การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ การหยุดชะงักของการเดินทาง อาชญากรรมหรือภัยอื่น โดยที่ไม่ได้เกิดจากความประมาทหรือเจตนา หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายของนักท่องเที่ยวเอง ซึ่งหลักเกณฑ์เงื่อนไข และอัตราการช่วยเหลือนี้เป็นไปตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ การขอรับการช่วยเหลือก็สามารถติดต่อสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา ในทุกจังหวัดหรือสายด่วน ตำรวจท่องเที่ยว 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง
รัฐบาลต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นบริษัททัวร์ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยว โรงแรม รถโดยสาร เรือ เจ็ตสกี เกสท์เฮาส์ สถานประกอบการทั่วไป แหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ มัคคุเทศก์ เจ้าหน้าที่ แท็กซี่ พ่อค้าแม่ค้า ช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีได้ไหม อย่าทำเรื่องผิดกฎหมาย ไปฉ้อโกงเขา ไปโก่งราคาเขา หรือของปลอมอะไรเหล่านี้ มันเสียชื่อไปหมด แล้วจะบ่นว่า คนเขาไม่มา ก็ไม่มาเพราะไปโกงเขา ไม่ได้ ต้องปรับปรุงทั้งหมดนะครับ ให้ช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับแขก ช่วยกันประชาสัมพันธ์ สิ่งดีๆให้กับนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ไปโฆษณาสิ่งไม่ดีให้เขามาเที่ยว เพราะฉะนั้นก็ขอให้เขามั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย การดูแลเขา น้ำใจไมตรีรอยยิ้มของคนไทย ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในเมืองไทย เขาก็จะจำได้ ปีต่อไปเขาก็มาอีกๆ ไม่ใช่มาครั้งเดียวแล้วเลิก เพราะเข็ด ไม่ใช่ ต้องแก้ไขนะ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ไปพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2557 ในการมอบรางวัลนี้เพื่อถวายเป็นพระราชอนุสรณ์ และเผยแพร่เกียรติคุณแห่งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก องค์บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และการสาธารณสุขของไทย สำหรับปี 2557 ก็มีผู้ได้รับรางวัล 2 ท่าน คือ ศ.อากิระ เอนโด จากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ค้นพบสารที่สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ นำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพของยาลดไขมัน สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ทั่วโลก ท่านที่สองคือ ศ. น.พ.โดนัลด์ เอ. เฮนเดอร์สัน จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำของโครงการที่ทำการกวาดล้างโรคไข้ทรพิษ หรือฝีดาษ ได้สำเร็จ ผมในนามรัฐบาลไทย ขอแสดงความยินดีต่อท่านทั้งสองด้วย แล้วก็ขอแสดงความยินดี ชื่นชม น.ส.ณัชชา เจริญทองมั่นคง น.ส.ปวีณา อาชาคีรี และ ด.ช.วทัญญู เจริญทองมั่นคง ซึ่งเป็นเยาวชนชาวไทยเชื้อสายม้ง จากโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 4 จ.ตาก ที่สามารถคว้าแชมป์โต้วาทีภาษาอังกฤษระดับประเทศ ภายใต้โครงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่งของความพยายามที่จะพัฒนาตนเอง และขอขอบคุณนายเหมันต์ ยะอุทัย และ น.ส.วินทร์อร เมืองงำ อาจารย์ภาษาอังกฤษ ที่เป็นผู้ฝึกสอนด้วย
วันอังคารหน้าตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เป็นวันทหารผ่านศึก ผมขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมรำลึกถึงคุณงามความดี และวีรกรรมของทหารผู้เสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินและเอกราชของชาติไทย ด้วยการประดับดอกป๊อปปี้สีแดง อันเป็นสัญลักษณ์แทนทหารผ่านศึก ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมอุดหนุนดอกป๊อปปี้ หรือบริจาคทุนทรัพย์ ร่วมให้การสงเคราะห์แก่ทหารที่ผ่านการปฏิบัติการรบ และครอบครัว โดยรายได้นำไปเป็นสวัสดิการดูแลในเรื่องที่อยู่อาศัย การศึกษา อวัยวะเทียม การส่งเสริมวิชาชีพ และกองทุนสงเคราะห์กู้ยืมไปประกอบอาชีพ นอกเหนือไปจากสวัสดิการที่รัฐบาลดูแลให้อยู่แล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูแลอีก เพราะฉะนั้นก็เชิญชวนพี่น้องได้ช่วยกันตอบแทนน้ำใจแด่ผู้เสียสละผ่านทางช่องทางต่างๆ ด้วย การที่จะสร้างประเทศไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน มีความร่มเย็นน่าอยู่ น่าอาศัย เป็นที่รักของประชาชน ของคนทั้งโลก คนไทยต้องรักกัน สามัคคีกัน และเข้าใจกัน เผื่อแผ่แบ่งปันกันให้ได้นะครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ