รมว.กลาโหมจีนเยี่ยมคาราวะนายกฯ โฆษกเผยถกกระชับสัมพันธ์ ยกระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ จีนเสนอความร่วมมือมั่นคงใกล้ชิด หลังร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ รับ นายกฯ ชมวิสัยทัศน์ผู้นำจีนแนวคิดเส้นสายไหมและร่วมมือรถไฟ-เกษตร แต่ยังไม่ลงรายละเอียดซื้อข้าว-ยาง ปัดแจงสถานการณ์การเมือง-อัยการศึก เหตุจีนเข้าใจ หนุนปฏิรูป คงเส้นคงวามาตลอด
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.00 น. พล.อ.ฉาง ว่าน ฉวน รมว.กลาโหม สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
โดยภายหลังการหารือ รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า การเข้าพบของ รมว.กลาโหมจีนเพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน ยกระดับความสัมพันธ์ในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน โดยไทยยืนยันนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมืออย่างใกล้ชิด สำหรับความร่วมมือทางด้านความมั่นคง ทาง รมว.กลาโหมจีนแสดงความประสงค์ให้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และเห็นพ้องให้การฝึกร่วมของเหล่าทัพมีความเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ไทย-จีนได้เคยฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ในปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก และปีนี้ก็จะฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ในลักษณะเดียวกัน ในส่วนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ไทยอยากให้จีนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา รวมถึงด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเหล่าทัพที่เป็นรูปธรรม โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ชื่นชมและสนับสนุนวิสัยทัศน์ของผู้นำจีน ในแนวคิดเส้นทางสายไหมทางทะเลและเส้นทางการค้าการลงทุนต่างๆ ซึ่งไทยมีความประสงค์จะร่วมด้วย นอกจากนี้ไทยและจีนได้มีความร่วมมือทางด้านรถไฟและสินค้าทางการเกษตรที่จะเดินหน้าผลักดันต่อไป อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย โดยในเทศกาลตรุษจีนของไทยจะเชิญชวนฝ่ายจีนมาร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จีนจะซื้อข้าวและยางพาราจากไทยมีความคืบหน้าอย่างไร รอ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า เป็นเรื่องความร่วมมือที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรจากไทยทั้งข้าวและยางพารา แต่ยังไม่มีการลงในรายละเอียดว่าจะเป็นเมื่อไหร่อย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพราะฝ่ายจีนมีความเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี และพร้อมจะร่วมมือกับไทยสนับสนุนเรื่องการปฏิรูป ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายจีนได้สนับสนุนไทยในการไปศึกษาดูงานเรื่องการปฏิรูป ระบบกฎหมาย และเรื่องความมั่นคง อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึกแต่อย่างใด เมื่อถามว่า การที่ไทยมีความใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีนมีมายาวนาน ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไร จีนก็มีความคงเส้นคงว่ามาโดยตลอด มีการสนับสนุนกันในเวทีต่างๆ ทั้งสองฝ่ายก็มีความชื่นชม และคิดว่าเป็นการดำเนินความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องไม่มีอะไรที่ผิดปกติ