xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ชง จม.เปิดผนึกถึงแม่น้ำ 5 สาย ค้านลดอำนาจ เข้าทางนักการเมือง ขัดหลักสากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คณะกรรมการเลือกตั้ง(แฟ้มภาพ)
จดหมายเปิดผนึก กกต.ถึงแม่น้ำ 5 สาย ใช้ประกอบการยกร่างฯ ชี้แยกผู้คุม-จัดเลือกตั้ง จากกันเป็นตามหลักสากล ขรก.ดูแลส่อขาดความอิสระ ขอคงอำนาจให้ใบแดง แจงศาลกว่าจะแจกนาน เปิดช่องทำเสียหาย ขู่พยาน ผู้สมัครทุนหนาได้เปรียบไม่กลัว เหตุเลือกตั้งใหม่กี่รอบก็ไม่หวั่น ติงตัดอำนาจประสานราชการให้ความรู้ประชาธิปไตยแก่ ปชช. ยกเป็นหน้าที่ กกต.ทั่วโลก

วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และสื่อมวลชน รวม 3 ประเด็น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อกรณีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมีมติลดทอนอำนาจของ กกต. ประกอบด้วย 1 การให้มีคณะกรรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) ทำหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งแทน เห็นว่า การจัดการเลือกตั้งจนถึงการประกาศผลการเลือกตั้งควรมีหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเพียงหน่วยงานเดียว การแยกผู้ควบคุมการเลือกตั้งกับผู้จัดการเลือกตั้งออกจากกันไม่ใช่หลักสากลที่นานาอารยประเทศยอมรับ กว่าร้อยละ 90 ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำหนดให้ กกต.เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งทั้งระบบ การให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรับ ที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของฝ่ายการเมืองที่สามารถให้คุณให้โทษแก่ข้าราชการประจำได้มาทำหน้าที่เป็นกจต.อาจส่งผลให้ขาดความเป็นอิสระ เกิดความสงสัยในความเป็นกลางทางการเมืองของผู้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งขณะปฏิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้งยังต้องรับภาระงานประจำ ยากจะจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบริสุทธิ์ยุติธรรม

2. กรณีให้ กกต.มีอำนาจเพียงสั่งเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) เฉพาะในช่วงก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง โดยให้การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัคร (ใบแดง) เป็นอำนาจของศาล เห็นว่าควรคงอำนาจใบเหลืองและใบแดง ก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งไว้ที่ กกต. เนื่องจากการพิจารณาให้ใบแดงของศาลต้องใช้เวลา ทำให้เกิดช่องว่างทำให้ผู้กระทำผิด สามารถเข้าไปทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ หรือด้านบริหาร ได้ก่อนที่ศาลจะวินิจฉัย เช่นการเข้าไปเลือกผู้นำประเทศ การตรากฎหมาย สร้างความเสียหายแก่ประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดช่องให้ผู้กระทำผิดกลายเป็นผู้มีอำนาจทางการเมือง สามารถใช้อิทธิพลข่มขู่พยานเพื่อประโยชน์ของตนในการชนะคดีเลือกตั้ง การให้ กกต.มีอำนาจเพียงสั่งเลือกตั้งใหม่ ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งทำให้ผู้สมัครที่มีทุนมากกว่าได้เปรียบเพราะพร้อมที่จะแข่งขันในการเลือกตั้งใหม่โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม จึงไม่เป็นการส่งเสริมให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม แม้ปัจจุบัน กกต.มีอำนาจในการสั่งเลือกตั้งใหม่ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่การทุจริตก็ยังคงอยู่ ดังนั้นหากยกเลิกอำนาจดังกล่าวของ กกต. จะทำให้นักการเมืองไม่ยำเกรงกฎหมาย กล้าทำทุจริตฝ่าฝืนกฎหมายมากขึ้น เทียบได้จากสมัยรัฐธรรมนูญ 40 กกต.มีอำนาจสั่งเลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งทั้งก่อนและหลังประกาศผลการเลือกตั้ง นักการเมืองมีความเกรงกลัวที่กระทำผิดมากกว่าปัจจุบัน

3. การตัดอำนาจหน้าที่ของ กกต.ในการส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานกับหน่วยราชการ ในการให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน เห็นว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากกระบวนการส่งเสริมและให้การศึกษา ถือเป็นกระบวนการต้นน้ำสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตยและความเข้มแข็งของสังคม โดยปัญหาทางการเมืองของไทยส่วนหนึ่งมาจากการซื้อสิทธิขายเสียง จำเป็นต้องมีการให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องซึ่งก็เป็นบทบาทหนึ่งของ กกต.ทุกประเทศทั่วโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น