xs
xsm
sm
md
lg

5 ปี ระเบิดการเมือง “จักรทิพย์ - ศรีวราห์” โคจรมาเจอกันอีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

คืบหน้าไปพอสมควรกับการสืบหามือระเบิด “ไปป์บอมบ์” หน้าสยามพารากอน ศูนย์กลางธุรกิจ และชอปปิ้งระดับโลก เมื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับชายต้องสงสัยที่ปรากฏในภาพวงจรปิดทั้ง 2 คนแล้ว และรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างติดตามจับกุม เชื่อว่าคนร้ายมีมากกว่า 2 คนอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุตำรวจพุ่งเป้าไปยังประเด็นการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมาการลอบวางระเบิดส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นการสร้างสถานการณ์ โฟกัสมาทางการเมืองทั้งสิ้น กรณีที่คนร้ายเลือกห้างสรรพสินค้าพารากอน เป็นสถานที่จุดระเบิด เชื่อว่า หวังผลหลายอย่าง รวมทั้งการท้าทายเจ้าหน้าที่ด้วยชัดเจน ไม่มีกั๊ก ทั้งกลุ่มคนร้ายที่มั่นใจว่ามีมากกว่า 2 คน โดยมือวางตำรวจทราบว่าเป็นใครแล้วกำลังตามจับ ประเด็นสำคัญ “บิ๊กแป๊ะ” ยืดอก “ฟันธง” เลยว่าสาเหตุมาจากเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน แต่เป็นการเมืองข้างไหน รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ไม่ยอมบอก

หากจับทิศทางที่ได้เปิดไว้แต่วันแรก ก็สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นกลุ่มไหน เพราะเหตุการณ์ระเบิดที่สยามเมตตาแมนชั่น บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อปี 2553 ผู้เกี่ยวข้องก็คือฮาร์ดคอร์สายคนเสื้อแดงล้วนๆ ส่วนคดี “ไปป์บอมบ์” ย่านมีนบุรี ชานเมืองกรุงเทพฯ ตัวละครที่เกี่ยวข้องก็คือมวลชนคนเสื้อแดง
 
แนวทางสืบสวนสอบสวนของตำรวจจึงหนีไม่พ้นที่จะมุ่งไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีประวัติน่าสงสัย ส่วนจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม เป็นสตอรี่ระทึกขวัญที่มีผู้เขียนบท “ล็อก” ตัวแสดงขึ้นมาหรือไม่ คงต้องรอคำตอบที่งวดเข้ามาทุกขณะ

เมื่อกล่าวถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ขอโฟกัสประวัติย้อนหลังสักเล็กน้อยเพื่อให้เห็นภาพอื่นๆ ซ้อนขึ้นมาอีกมิติหนึ่ง นายตำรวจผู้นี้เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 36 เส้นทางความก้าวหน้าเติบโตมาอย่างรวดเร็ว และจุดที่พลิกผันจนขึ้นมาเป็นตัวเต็งว่าที่ ผบ.ตร. ก็คือ ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจ” โดยเมื่อปี 2551 ขึ้นเป็นผู้บัญชาการประจำปี 2553 ก้าวมาเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” ภายใต้ยุครัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อันเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นรัฐบาลก่อตั้งในรั้วทหาร และมีทหารเป็นพี่เลี้ยงระมัดระวังภัยคุกคามจากความร้อนแรงของมวลชนคนเสื้อแดง

และในปี 2553 นั่นเองมีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองหลายครั้ง รวมทั้งคดีระเบิดสยามเมตตาแมนชั่น บางบัวทอง จ.นนทบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย บาดเจ็บอีกนับสิบหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต คือ นายสมัย วงศ์สุวรรณ อดีต นปช. สายฮาร์ดคอร์จากเชียงใหม่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นในซากปรักหักพังของห้องคนตายพบซีดีเขียนด้วยปากกาเคมี “รัฐไทยใหม่” จำนวนมากจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานที่ปรากฏ รวมทั้งประวัติของนายสมัย ที่เป็นคนเสื้อแดง แม้ตำรวจจะมีแนวโน้มว่าเป็นอุบัติเหตุเกิดความผิดพลาดจนวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ที่กลุ่มคนร้ายได้ตระเตรียมไว้เกิดระเบิดขึ้นก่อน แต่ยังมีข้อหักล้าง หรือข้อสงสัยจากกลุ่มคนเสื้อแดง และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งว่าเป็นการจัดฉากเพื่อดิสเครดิตคนเสื้อแดง

อีกทั้งเป็นมาตรการตามเก็บบรรดาเสื้อแดงหัวรุนแรง รวมทั้งประเด็นซีดีรัฐไทยใหม่กว่า 100 แผ่นที่กระจัดกระจายในห้องพักนายสมัย ไม่น่าเชื่อว่าการดำเนินงานลักษณะ “ใต้ดิน” จะทิ้งหลักฐาน เขียนข้อความประเจิดประเจ้อตามที่เจ้าหน้าที่รัฐให้ข่าว

และเป็นเรื่องน่าบังเอิญอย่างเหลือเชื่อเมื่อขณะนั้นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุคือ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาการ ผบช.ภ.1 ในขณะนั้นอย่างพอดิบพอดี

ระเบิดไปป์บอมบ์หน้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2558 หรืออีก 5 ปีต่อมา จึงเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง กับ “บิ๊กปู” พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. อย่างมิได้นัดหมาย

โดยฝ่าย “บิ๊กแป๊ะ” มีขุมกำลังจาก นรต. 36 เป็นเครือข่ายตามล่าหามือระเบิด ประกอบด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.สันติบาล พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ และ พล.ต.ต.สุวัจน์ แจ้งยอดสุข นักสืบมือปราบ จากกองบัญชาการยุทธศาสตร์ตำรวจ เป็นต้น

ส่วนเครือข่ายของ “บิ๊กปู” อาศัยเพื่อนร่วมรุ่น นรต.35 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บชน. เป็นกำลังหลัก

ผลงานจะเป็นอย่างไร “แป๊ะ - ปู” จะลืมเรื่องความขัดแย้งแล้วจับมือกันเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรตำรวจหรือไม่โปรดติดตามห้ามกะพริบตา
กำลังโหลดความคิดเห็น