ผบ.ตร.สั่งทีมสืบสวนคดีระเบิดหน้าพารากอนรูดซิบปาก หวั่นกระทบคดี กำชับสันติบาลบูรณาการทุกหน่วยหาข่าวเชิงรุก เพิ่มความเข้มตรวจตรา ดูแลสถานที่สำคัญ
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดบริเวณทางเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยามเมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรไชยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.เป็นผู้ให้ข่าวเรื่องนี้เพียงคนเดียว ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะทีมคลี่คลายคดีนี้ให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะประเด็นที่เจาะหลึกถึงพยานหลักฐานโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการสืบสวนสอบสวน และการดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ 0001 (ศปก.ตร.)/23 ลงวันที่ 1 ก.พ. 2558 สั่งการถึง ผบช.น., ภ.1-9, ศชต., ก., ส., สกพ., ตชด., สพฐ. และศปก.ตร. กำชับให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการด้านการข่าวเชิงรุก โดยให้ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคล กลุ่มบุคคล ที่มีพฤติการณ์หรือความประพฤติไม่เรียบร้อย และหรือมีประวัติเคยมีหรือใช้อาวุธสงคราม วัตถุระเบิดก่อเหตุร้าย ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งบุคคลพ้นโทษ หรือได้รับการปล่อยชั่วคราวในคดีดังกล่าว โดยให้ บช.ส.เป็นเจ้าภาพบูรณาการด้านการข่าวกับทุกหน่วยงานในพื้นที่
นอกจากนี้ยังสั่งให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มและความถี่ ในการตรวจตราสถานที่สำคัญที่อาจตกเป็นเป้าหมายสร้างสถานการณ์ สร้างความวุ่นวายหรือก่อเหตุร้ายในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นิยมไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานีโดยสารสาธารณะทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ
โดยให้ประสานกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยสถานที่เพื่อกำชับเวรรักษาความปลอดภัยตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิด ตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัย และวางระบบการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันได้ตลอดเวลา และให้เพิ่มจุดตรวจเข้มแข็ง เพื่อตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด เพื่อเป็นการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยและมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน และให้รอง ผบ.ตร. ที่ปรึกษา (สบ 10) ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.) (มค.) กวดขันหน่วยงานในความรับผิดชอบ และให้ศปก.ตร.ติดตามข้อมูลข่าวสารและการปฏิบัติของทุกหน่วยผ่าน ศปก.บช.ภ. และศปก.ภ.จว.อย่างใกล้ชิด
ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ไปร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุด้วย แต่จะไม่ขอเปิดเผยถึงรายละเอียด เนื่องจากเป็นคดีละเอียดอ่อน โดย พล.ต.อ.สมยศกำชับให้ บช.น. สันติบาล และตำรวจกองปราบปรามร่วมกันคลี่คลายคดีเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก