xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ให้ไอซีทีเชื่อมโยงฐานข้อมูล ขอกลาโหมมาเลย์ให้รถยนต์ไทยข้ามฝั่ง-ลดภาษี ลงพื้นที่น่าน 17 ก.พ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รองโฆษกสำนักนายกฯ เผยนายกฯ สั่งตั้ง คกก. ขับเคลื่อนระดับกระทรวง หวังแก้ปัญหาการประสานงาน ให้ทุกหน่วยเชื่อมโยงข้อมูลเป็นฐานเดียวกัน มอบ “ไอซีที” เป็นเจ้าภาพ แนะ ก.เกษตรฯ หาทางลดพื้นที่ปลูกยางภายใน 7 ปี พร้อมหามาตรการเยียวยา สั่งลุยจุดที่บุกรุกป่าสงวน เผยคุย รมว.กลาโหม มาเลย์ ขอรถไทยข้ามฝั่งได้ - ลดภาษีนำเข้าสินค้า ถกปัญหาคนสองสัญชาติแก้ความรุนแรงในพื้นที่ เผยคิวลงพื้นที่ จ.น่าน 17 ก.พ. นี้

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในช่วงก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำข้อสั่งการเมื่อครั้งประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับกระทรวง ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนในส่วนของรัฐบาล และ คสช. ไปแล้ว เพื่อติดตามเร่งรัดงานของรัฐบาลและแก้ไขข้อติดขัด แต่ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดซึ่งเป็นระดับกระทรวง ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างคำสั่ง โดยนายกฯ กล่าวว่า คณะกรรมการต้องเป็นคนที่ไม่มีหน้าที่ประจำของแต่ละกระทรวง อาจจะเป็นผู้ตรวจราชการก็สุดแล้วแต่ และให้แต่ละกระทรวงตั้งคณะทำงานรองรับผู้แทนของแต่ละกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนในระดับกระทรวงเพื่อให้คณะกรรมการทั้งของรัฐบาล คสช. และระดับกระทรวงได้ติดต่อประสานงานกันได้ เพราะการหาปัญหาข้อขัดข้องในแต่ละกระทรวงบางทีก็หาจุดประสานงานไม่ถูก ฉะนั้นเมื่อมีคณะกรรมการระดับกระทรวงแล้วจะได้หาข้อขัดข้องนั้นเจอและสามารถติดต่อหน่วยงานได้ตรงกับปัญหาเพื่อบูรณาการทุกภาคส่วน

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกฯ ยังได้กำชับถึงเรื่องการจัดทำฐานข้อมูล ไม่ว่าจะกายภาพเรื่องน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ และความมั่นคง เพราะที่ผ่านมาฐานข้อมูลแต่ละกระทรวงมีฐานไม่ตรงกัน การเชื่อมโยงเพื่อน้ำข่อมูลมาใช้ล่าช้า จึงมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร (ไอซีที) และศูนย์ปฏิบัติของนายกฯ เป็นเจ้าภาพร่วมกันในการจัดทำฐานข้อมูลให้ทันสมัย เชื่อมโยงและดึงข้อมูลจากทุกส่วนราชการมาใช้งานได้ เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน

ในส่วนของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางนั้น พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เคยมีคำสั่งให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันนำเสนอพื้นสนามกีฬาที่ผ่านมาตรฐานในระดับนานาชาติ ที่ใช้เทคโนโลยีไม่ซับซ้อน จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้เวลา 2 สัปดาห์รวบรวมความต้องการของทุกกระทรวงทบวง กรม ที่มีแผนงาน กิจกรรม โครงการ ที่จำเป็นต้องใช้แผ่นยาง เพื่อรวบรวมความต้องการได้ว่าจะต้องดำเนินการจัดซื้อยางในปริมาณเท่าไร เพื่อรับรองโครงการแผนงานของแต่ละกระทรวง เพื่อเป็นการแก้ปัญหายางทั้งระบบ เพราะเมื่อเรารู้ว่าเราจะซื้อยางเท่าไรจะได้คำนวนต้นทุนและค่าใช้จ่าย ซึ่งแนวทางหนึ่งที่ช่วยยกระดับราคายาง

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกฯ ได้กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ในส่วนของการลดปริมาณการปลูกยาง ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเรียนข้อมูลที่มีแผนลดพื้นที่ปลูกยางพาราลง 7 แสนไร่ ภายในระยะเวลา 7 ปี จะทำให้ปริมาณการผลิตยางใกล้เคียงกับความต้องการของยางในตลาด ซึ่งนายกฯ ให้แนวทางไว้ว่า ถ้าเราจะลดพื้นที่ทั้งหมดพร้อมกันคงเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นความเคยชินหรือวัฒนธรรมของเกษตรกรแล้วก็ได้ จะขอให้ลดการปลูกคงเป็นไปได้ยาก นายกฯ จึงให้ความเร่งด่วนกับพื้นที่ปลูกที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน แต่ได้ปลูกไปบ้างแล้ว ส่วนนี้ให้ไปลดพื้นที่การปลูกตรงนี้ก่อน จึงมอบหมายให้หน่วยงานเข้าไปรับซื้อหรือตัดต้นยางเพื่อทำประโยชน์ด้านต่าง ขณะเดียวนายกฯ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการดูแลประชาชนว่า การที่ลดพื้นที่การปลูก ไม่ใช่การไล่เขาออกจากพื้นที่อย่างเดียว แต่ต้องดูความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นด้วย อาจจะต้องเยียวยาค่าเสียหาย หรือ รับซื้อต้นยางที่ปลูกไปแล้ว ก็ขอให้ไปหามาตรการที่ชัดเจน

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกฯ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดูเรื่องงานวิจัยที่ออกมาเป็นนวัตกรรมและผลผลิตในประเทศ เพราะที่ผ่านมา ครม. เคยมีมติให้รัฐบาลสนับสนุนให้ใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นยังไม่ได้การรับรองคุณภาพและมีมาตรฐาน จึงมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าไปติดตามดูทุกเรื่องที่เป็นนวัตกรรมและผลผลิตในประเทศทั้งของรัฐและบริษัทเอกชน เพื่อหาดัชนีและข้อกำหนดเพื่อวางมาตรฐาน ถึงจะผ่านเกณฑ์ เมื่อนำไปใช้แล้วให้ได้คุณภาพ เพื่อให้รัฐช่วยเหลือสนับสนุนนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ให้มาใช้ได้

รองโฆษกฯ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ดูแลทหารผ่านศึก เนื่องจากวันนี้เป็นวันทหารผ่านศึก โดยนายกฯ กล่าวว่าที่ผ่านมารัฐคงมีมาตรการดูแลทหารผ่านศึกแล้ว แต่เราดูแลครบถ้วนแล้วหรือยัง เพราะที่ผ่านมามีการจัดรายการดำเนินกิจกรรมมากมาย เช่น การจัดรายการทีวี ไปขอรับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน ซึ่งนายกฯ ดูแล้วว่าทหารผ่านศึกเป็นคนเสียสละในปกป้องดูแลอธิปไตยและความมั่นคง จึงให้กระทรวงคลังไปดูว่ามีมาตรการทางรัฐช่วยเหลือเขาครบถ้วนแล้วหรือยัง อย่าปล่อยให้เขาดิ้นรนด้วยตัวเองเพียงลำพัง และนอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงครูที่ปัจจุบันมีหนี้สินจำนวนมาก ที่เคยสั่งการไปแล้ว จึงมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปดูอีกครั้ง และรีบกลับมารายงานว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องหนี้สินของครูอย่างไร เพราะได้รับการร้องเรียนว่าเดือดร้อนมาก

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ได้เล่าพูดถึงเรื่องการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาเลเซีย ที่เดินทางมาเยือนไทยว่า ในการพูดคุยมีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ นายกฯ ย้ำว่าขอให้ยึดหลักการเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทน หมายความว่าในปัจจุบันรถยนต์จากฝั่งมาเลเซียข้ามมาฝั่งไทยได้ แต่รถฝั่งไทยไม่สามารถข้ามไปฝั่งมาเลเซียได้ สาเหตุเพราะรถฝั่งของไทยเป็นการดำเนินการในลักษณะของตัวบุคคล จึงทำให้เกิดปัญหาข้อขัดข้องในการติดต่อประสานงาน จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดูว่าเราจะทำได้อย่างไรเพื่อที่จะผ่านเข้าไปฝั่งมาเลเซียได้เช่นกัน รวมไปถึงเรื่องบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยร้องขอให้เขาพิจารณาเรื่องนี้ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการแก้ปัญหาการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เขารับปากจะสนับสนุนซึ่งหมายความว่าจะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจว่าให้บุคคลผู้นั้นเลือกเพียงสัญชาติเดียวเท่านั้น ที่จะต้องมีการหารือในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ นายกฯยังกล่าวถึงเรื่องของภาษีในภาคธุรกิจ ที่นายกฯเห็นว่าบางรายสินค้าทางมาเลเซียได้เพิ่มภาษีในการส่งออกและนำเข้าจำนวนมาก แต่ละเองกลับพยายามลดภาษีในการนำเข้าสินค้าจากมาเลเซีย ซึ่งทำให้เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงขอให้ยึดหลักการผลประโยน์ต่างตอบแทน ก็ต้องดูรายละเอียดตรงนี้ โดยให้กระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศไปพิจารณาร่วมกันว่า ต้องลดภาษีในอัตราที่ใกล้เคียงกันรวมถึงจำนวนชนิดของสินค้าที่ใกล้คียงกันด้วย

นอกจากนี้ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย เพื่อเร่งขับเคลื่อนโรดแมป คสช. และรัฐบาล และเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในวันที่ 4 ก.พ. แล้ว ในวันที่ 24 ก.พ. นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานการประชุม ครม. ร่วมกับ คสช. ขณะที่วันที่ 17 ก.พ. นายกฯ จะเดินทางลงพื้นที่ จ.น่าน เยี่ยมชมโครงการหลวงในการปลูกป่าอนุรักษ์และพบปะกับกลุ่มเกษตรกร โดยจะเลื่อนการประชุม ครม. ไปเป็นวันที่ 18 ก.พ. แทน


กำลังโหลดความคิดเห็น