“ประยุทธ์” ซัดพวกปล่อยแถลงการณ์พระราชวังปลอมจิตใจแย่ คนไทยรับไม่ได้ เฉ่งมือบึ้มกลางกรุงคนไทยหรือเปล่า กำลังล่าตัว พร้อมเฝ้าระวังเต็มที่ ซัดพวกกล่าวหา คสช.จัดฉากเองสมองเสีย ยันจัดการหากเป็นฝีมือทหาร-ตร.เก่า เชื่อ ตปท.เข้าใจ ขออย่ายุ่งมะกันประกาศเตือน ติงขยายข่าวความรุนแรงยิ่งกระทบ ปัดกังวล ก่วงแต่การบังคับใช้ กม.
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามขบวนการปล่อยเอกสารแถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมว่า ต้องหาผู้ทำเอกสารปลอมดังกล่าว การปลอมแปลงเอกสารมาทางโซเชียลมีเดียต้องใช้เวลาในการติดตาม แต่คิดว่าผู้ที่ปล่อยบ่อยครั้งมีจิตใจที่แย่ ใช้ไม่ได้ และคิดว่าคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าไปเชื่ออะไรที่ผลีผลาม เมื่อคืนพอตนทราบก็ได้สั่งการ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้รับการยืนยันก็ให้รีบแถลงไปเพราะเดี๋ยวจะเป็นปัญหา
ส่วนความคืบหน้าของการติดตามมือวางระเบิดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าห้างสยามพารากอนนั้น นายกฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงว่ายังมีคนบางประเภทที่ไม่เข้าใจว่าบ้านเมืองเราอยู่ในสถานการณ์อะไร และมุ่งหวังแต่เพียงทำให้เกิดความขัดแย้ง ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น และสร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน วันนี้เรื่องของบ้านเมือง เขาต้องคิดว่าเขาเป็นคนไทยหรือเปล่าที่ทำแบบนี้ วันนี้ฝ่ายความมั่นคงได้รายงานมาแล้ว โดยมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งกำลังดำเนินการสืบความเชื่อมโยงให้ได้ และคงต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
“ขอเตือนไว้ก่อนแล้วกัน วันนี้ได้สั่งการการป้องกันอาชญากรรม การกระทำการทุจริตผิดกฎหมายต้องเข้มงวด วันนี้ให้ คสช.ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการเพิ่ม วางกำลังในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง แต่ต้องระมัดระวังเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ในกรณีที่ใช้ทหารออกทำงานในพื้นที่ สถานการณ์กำลังไปดีๆ อยู่แล้ว ถ้าเราไม่จัดคนดูแลเพิ่มเติมคงไม่ได้ สิ่งหนึ่งต้องเรียนทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ว่ามีกฎหมายความมั่นคงแล้ว หรือมีกฎอัยการศึกแล้วทุกคนจะกลัว นี่แสดงว่ามันยังมีอยู่ และเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรเข้มงวดขนาดนั้น เขาเลยใช้วิธีการเหล่านี้ และก็เคยเกิดมาหลายครั้ง ลองไปดูว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในสถานการณ์ไหน เช่น ปี 53 ก็มีเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงมาตอบโต้รัฐบาล พอปี 56-57 ก็ใช้ความรุนแรงมาตอบโต้กลุ่มต่อต้าน เหตุการณ์แบบนี้มาจากใครคิดกันเอาเอง จากใครไม่รู้ ถ้าไม่ใช่พวกไหนก็ต้องหาตัวพวกที่ว่านี้มา อย่าไปให้ความสำคัญมากนัก โชคดีที่ไม่มีคนบาดเจ็บสูญเสีย ก็ถือเป็นบทเรียน และเป็นบทเรียนทุกเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงต้องไปเข้มงวดหามาตรการ เพราะมันจะอันตรายมากขึ้นในช่วงที่เป็นเออีซี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายความมั่นคงได้มีการประเมินหรือไม่ว่าผู้ก่อเหตุต้องการสร้างสถานการณ์เพื่ออะไร นายกฯ กล่าวว่า ก็เห็นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับมีการประเมินกันมาแล้วโน่นนี่ ท่านก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว มันจะมาจากใคร ตนไปทำเองหรือ ก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า 1. มาจากรัฐบาลทำเอง คสช.ทำเองเพื่อต่อกฎอัยการศึก พวกนี้สมองเสีย มันเขียนอย่างนี้ได้อย่างไร ไม่มีใครเขาลงทุนขนาดนั้น 2. การแย่งชิงจ่าฝูงในกองทัพบก การโยกย้ายในกองทัพบกจะมีเดือนตุลาคมโน่น ยังไม่มีปรับย้าย หรือจะเป็นตำรวจนอกแถวก็กำลังตรวจสอบทั้งหมด จะเกี่ยวข้องทหารเก่าตำรวจเก่าก็ต้องลงโทษอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัว อย่าไปให้ความสำคัญมากนัก ไปหามาตรการจะเฝ้าระวัง จะช่วยดูแล และแจ้งเจ้าหน้าที่กันอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน เป็นหน้าที่ของทุกคนในชาติ เจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด เขาก็ทำอย่างเต็มที่ เว้นแต่ว่าปล่อยปละละเลย แต่อันนี้คงไม่ใช่ เพราะเป็นพื้นที่สัญจรไปมา ซึ่งไม่คาดคิดว่าใครจะต้องมาทำแบบนี้ แสดงว่าไม่เห็นใจประเทศไทยกันเลย คนไทยทั้งหมด
เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องทำความเข้าใจต่างชาติอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เขาเข้าใจในเหตุการณ์ และสิ่งที่ทำมาไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย 1. ไม่เกิดประโยชน์กับตน 2. ยิ่งทำให้ต่างชาติมองไทยยังมีเหตุการณ์อย่างนี้ เขาก็ต้องเข้าใจเรา ยิ่งหนักไปกว่าเดิมคนที่คิดทำแบบนี้ มันแย่ เมื่อถามกรณีที่สหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์การเตือนนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ ที่มาเที่ยวไทยให้ระมัดระวังจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าไปยุ่งกับเขามากนักเลย ปล่อยเขาไปเถอะ ก็ชี้แจงไปแล้วก็จบแล้ว มันอะไรนักหนา วันหน้าก็ต้องคบค้าสมาคมกันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวเราก็สร้างความมั่นใจ จะดูแลให้มากที่สุด ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯก็พูดว่าโอเคไม่มีผลกระทบเท่าไหร่ มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะขยายความแค่ไหน จะขยายข่าวให้คึกโคมแค่ไหน นั่นแหละมีผลกระทบ วันนี้ตนคิดว่ายังน้อย เราต้องยืนยันกลับไปว่าจะดูแลให้ดีที่สุด ก็เหมือนทุกประเทศ โอกาสจะเกิดขึ้นก็มีทุกประเทศ ซึ่งก็เห็นอยู่ว่ามีเหตุการณ์ลักษณะเหล่านี้ เรามีแต่น้อยนิดเดียว ไม่มีใครบาดเจ็บแต่เราต้องป้องกันต่อไปให้ได้ในคราวหน้า อย่าไปขยายความให้เขาเลย
เมื่อถามว่าจะติดตามจับคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ นายกฯ กล่าวว่า บอกแล้วใครเกี่ยวข้องจับหมด จะเลือกจับได้ไหมเล่า ก็จับหมดแหละ คนวางก็ต้องจับ อยู่ดีๆมันจะมาบ้าวางเล่นหรือไง ก็ต้องจับ ใครสั่งมันก็ไปสอบมา ถึงใครก็จับมา ใครไม่อยู่ก็ออกหมายจับไปก็ได้อยู่แล้ว
“วันนี้ให้โอกาสผ่อนผันอะไรเยอะแยะ ยังสร้างความรุนแรงเกิดขึ้น ผมถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ท่านยืนยันกับผมไหมว่าถ้าไม่ใช้กฎหมายพิเศษแล้วจะไม่มีเรื่อง แต่วันนี้ยังมีเรื่อง ผมถามว่าคนเหล่านี้เป็นใคร ไปหามา ไม่ได้โมโหเลยนะเนี่ย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีก นายกฯ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่ากังวล ตนเป็นห่วงคนไทย คนบริสุทธิ์ที่จะต้องมีปัญหาเดือดร้อน ต้องเขียนให้ตนว่าวันนี้รัฐบาลกำลังสร้างความเข้มแข็ง ถ้าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สังคม แต่มีคนเหล่านี้มา แทนที่จะมาว่าตนดูแลไม่ดี ต้องไปตำหนิฝ่ายโน้น ตนทำแบบนี้ต้องไปช่วยตน เขียนสอนเขา การเสนอข่าวความรุนแรงแม้เป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าเสนอความรุนแรงมากก็กลายเป็นว่าประเทศไทยเคยชินกับความรุนแรง ทีวีบางช่องถามแล้วถามอีก เช้าเย็นเอาไปออกอยู่นั่น เรื่องความรุนแรงไม่เห็นสรุปเลยว่าอย่างนี้ไม่ถูกต้อง เอาปืนมายิงกัน คนฟังกันทุกวันก็ชิน มันยิงกันธรรมดาปกติ ยามยิงคน คนยิงยาม วันนี้กำชับไปแล้วก็ต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคมของคนไทย ไปแก้ที่มิติของสังคม นี่ไงค่านิยมคนไทย เรื่องนี้สำคัญ ถ้าทุกคนมีความคิดที่ดีก็จะไม่สร้างผลกระทบความเดือดร้อนคนอื่น และเราก็ไม่ต้องไปขยายความรุนแรงให้กับเขา นี่คือหน้าที่ของสื่อที่ตนอยากขอร้อง
“เหตุการณ์นี้ผมไม่กังวล แต่เป็นห่วงการบังคับใช้กฎหมายก็ต้องใช้อย่างสร้างสรรค์ ท่านลองดูกฎหมายก่อนหน้าผมเข้ามามันใช้ได้บ้างไหม ตอบสิ ได้ไหม เขียนให้ตายมันไม่ทำ วันนี้มีกฎหมายอย่างนี้ยังไม่ทันมีกฎหมายใหม่อะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคง ก็ยังมีอยู่เลย ผมถามว่าแล้วกฎหมายจะไปกันอะไรได้ ถ้าจิตสำนึกคนมันไม่ได้ ยังไงมันก็ไม่ได้ กฎหมายเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ อย่าเอากฎหมายมาเป็นพันธกรณีให้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ได้ จะใช้สิทธิเสรีภาพแบบไร้ขอบเขตไม่ได้ สิทธิเสรีภาพมีทุกคน หน้าที่ตามกฎหมายก็ต้องมี ทำให้บ้านเมืองปลอดภัยมีความสงบสุข ประชาชน เอกชน สื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณา โทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย ทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจ ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง อะไรเป็นข้อเท็จจริงเสนอได้ ผมไม่ห้าม แต่ถ้าเป็นความขัดแย้งอย่าไปขยาย นั่นคือสิ่งที่จะช่วยชาติบ้านเมืองในเวลานี้ วันหน้าก็ลองดูแล้วกัน มีรัฐบาลเลือกตั้งมาแล้วท่านก็ทำแบบที่ถามผม โอเคไหม โอเคจ้า ขอบคุณนะ วันนี้อารมณ์ดี ลมเย็น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมก้าวลงจากโพเดียม โดยเดินขากะเผลกเล็กน้อย บอกกับสื่อว่าเจ็บขา ยืนนาน