ประธานอนุ กมธ.กิจการสตรีแถลง ห่วงละเมิดทางเพศทำความรุนแรงในครอบครัวหลังไทยติดอันดับโลก แนวโน้มเพิ่มขึ้น จี้ พม.ออกมาตราการป้องกัน แบบเร่งด่วนรณรงค์ผ่านสื่อ และไม่เสนอข่าวความเป็นส่วนตัวผู้เสียหาย ระยะยาวแก้ กม.ให้มีประสิทธิภาพ
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่รัฐสภา นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสตรี สนช.แถลงว่า คณะอนุ กมธ.ได้มีความห่วงใยกรณีการล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรีและการกระทำความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว เนื่องจากในปี 2557 มีหญิงไทยติดอันดับโลกเหยื่อความรุนแรงในการจัดอันดับของหน่วยงานสตรีขององค์กรสหประชาชาติที่ออกรายงานว่า เด็กและสตรีไทยมีแนวโน้มถูกกระทำความรุนแรงสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่ผู้กระทำและผู้ถูกกระทำมักเป็นคู่สามีภรรยา โดยประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 36 ใน 75 ประเทศที่มีปัญหาความรุนแรงทางกายมากที่สุด และอยู่ในลำดับที่ 7 จาก 71ประเทศที่มีการกระทำรุนแรงทางเพศมากที่สุด วิกฤตของสังคมที่หญิงไทยเหยื่อของความรุนแรงจะเห็นได้จากการรายงานข่าวล่วงละเมิดทางเพศต่างๆ ตามสื่อ และล่าสุดก็มีข่าวอาชญากรรม ฆาตกรต่อเนื่อง การข่มชืน ผู้หญิงสูงอายุในเขตจังหวัดนครปฐม
นางสุวรรณีกล่าวต่อว่า คณะอนุ กมธ.จึงขอให้สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เร่งออกมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และคุ้มครอง กลุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศและผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว 2 ประการ ดังนี้ 1. มาตรการเร่งด่วน โดยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกกระทรวงและองค์กรธุรกิจอบรมข้าราชการและพนักงาน และรณรงค์ผ่านสื่อถึงค่านิยมสังคมไทยที่ไม่ล่วงละเมิดทางเพศและใช้ความรุนแรงในครอบครัว ขณะเดียวกัน สื่อก็ต้องไม่เสนอข่าวให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกกระทำต้องเสียไป 2. มาตรการเชิงรุกระยะยาว โดยให้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองผู้ประสบความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และบูรณาการความร่วมมือระหว่าง พม. กระทรวงมหาดไทย สาธารณสุข ศึกษาธิการ วัฒนธรรม กลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันเฝ้าระวังคุ้มครอง และยุติความรุนแรงของสตรีและครอบครัว
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่รัฐสภา นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสตรี สนช.แถลงว่า คณะอนุ กมธ.ได้มีความห่วงใยกรณีการล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรีและการกระทำความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว เนื่องจากในปี 2557 มีหญิงไทยติดอันดับโลกเหยื่อความรุนแรงในการจัดอันดับของหน่วยงานสตรีขององค์กรสหประชาชาติที่ออกรายงานว่า เด็กและสตรีไทยมีแนวโน้มถูกกระทำความรุนแรงสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่ผู้กระทำและผู้ถูกกระทำมักเป็นคู่สามีภรรยา โดยประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 36 ใน 75 ประเทศที่มีปัญหาความรุนแรงทางกายมากที่สุด และอยู่ในลำดับที่ 7 จาก 71ประเทศที่มีการกระทำรุนแรงทางเพศมากที่สุด วิกฤตของสังคมที่หญิงไทยเหยื่อของความรุนแรงจะเห็นได้จากการรายงานข่าวล่วงละเมิดทางเพศต่างๆ ตามสื่อ และล่าสุดก็มีข่าวอาชญากรรม ฆาตกรต่อเนื่อง การข่มชืน ผู้หญิงสูงอายุในเขตจังหวัดนครปฐม
นางสุวรรณีกล่าวต่อว่า คณะอนุ กมธ.จึงขอให้สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เร่งออกมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และคุ้มครอง กลุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศและผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว 2 ประการ ดังนี้ 1. มาตรการเร่งด่วน โดยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกกระทรวงและองค์กรธุรกิจอบรมข้าราชการและพนักงาน และรณรงค์ผ่านสื่อถึงค่านิยมสังคมไทยที่ไม่ล่วงละเมิดทางเพศและใช้ความรุนแรงในครอบครัว ขณะเดียวกัน สื่อก็ต้องไม่เสนอข่าวให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกกระทำต้องเสียไป 2. มาตรการเชิงรุกระยะยาว โดยให้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองผู้ประสบความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และบูรณาการความร่วมมือระหว่าง พม. กระทรวงมหาดไทย สาธารณสุข ศึกษาธิการ วัฒนธรรม กลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันเฝ้าระวังคุ้มครอง และยุติความรุนแรงของสตรีและครอบครัว