รักษาราชการแทน ผบช.ก.สั่งกองปราบ ร่วมกับตำรวจภาค 7 จัดชุดไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องข่มขืนแล้วฆ่าหญิงชราในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสงคราม ตั้งแต่ปี 53-57 รวม 8 คดี
วันนี้ (24 ม.ค.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รักษาราชการแทน ผบช.ก.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 ร่วมประชุมวางแนวทางการสืบสวนจับกุมฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุข่มขืนแล้วฆ่าหญิงอายุระหว่าง 50-70 ขึ้นไป รวม 8 คดี ในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสงคราม เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2553-2557
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเวลา 01.30 น.วันที่ 25 ธ.ค.2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ที่บ้านพัก จากการสอบสวน น.ส.เอ ทราบว่า พักอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกับแม่ อายุกว่า 70 ปี เพียง 2 คน โดยคนร้ายได้ปีนรั้วขึ้นไปบนห้องนอนของแม่ แต่ผู้เสียหายมาพบเสียก่อนจึงถูกข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นคนร้ายก็ได้หลบหนีไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.เอ ไปตรวจร่างกาย และเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งผลการตรวจพบว่า ดีเอ็นเอ ของผู้ก่อเหตุนั้นตรงกับคนร้ายที่เคยลงมือก่อเหตุข่มขืนหญิงชรามาแล้วถึง 8 รายด้วยกัน โดยมีหญิงชรา จำนวน 2 ราย ได้ถูกคนร้ายฆ่าตาย
หลังประชุม พล.ต.ต.ฐิติราช ได้นำกำลังไปตรวจจุดที่เกิดเหตุต่างๆ ที่คนร้ายได้ก่อเหตุ พร้อมกับ พร้อมกับตรวจสอบสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อดูว่าคนร้ายใช้เส้นทางไหนในการเข้าก่อเหตุ และหลบหนี
ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.สส.บช.ภ.7 ได้ทำงานสืบสวนมาเป็นอย่างดีแล้ว ทางกองปราบปรามสามารถทำงานต่อได้เลย โดยได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภุมรินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป.ส่งชุดทำงานลงพื้นที่เพื่อหาหลักฐานพยานต่างๆ เพิ่มเติม รวมทั้งให้ทุกกองกำกับในสังกัดกองปราบปราม ช่วยกันทำในคดีนี้ สำหรับการตรวจจุดที่เกิดเหตุอีกครั้งและการประชุมร่วมกันในวันนี้ทำให้พบหลักฐานหลายอย่างที่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนร้ายมักเลือกเหยื่อที่มีอายุระหว่าง 50-70 กว่าขึ้นไป โดยเลือกเหยื่อที่อยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งคดีหลังสุดคนร้ายเตรียมจะเข้าไปข่มขืนแม่อายุกว่า 70 ปีของ น.ส.เอ แต่เจ้าตัวมาเจอเสียก่อนจึงถูกข่มขืนแทน ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลายรายต่างไม่กล้าอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากกลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ นอกจากนี้ เมื่อข่าวโจรข่มขืนคนชราแพร่สะพัดในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสงคราม แล้วสร้างความหวาดผวาให้แก่บรรดาหญิงชราในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก