xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” เสียใจมะกันแทรกแซงไทย ลั่นมีเกียรติศักดิ์ศรีไม่ให้ใครมากดดัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” เสียใจท่าทีสหรัฐฯ ยังไม่เข้าใจไทย ทั้งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมากว่าร้อบปี ลั่นไม่ยอมให้ใครมากดดัน ไทยมีเกียรติและศักดิ์ศรี และความภูมิใจในความเป็นไทย เล็งถามศาลหาก “ยิ่งลักษณ์” ขอไปนอก แต่ยังให้เกียรติอดีตนายกฯ เสมอ สั่ง คสช.เรียก “ปึ๊ง” ปรับทัศนคติ เหตุแสดงความเห็นการเมืองแรง ขู่หากยังเหิมจะใช้อำนาจเด็ดขาด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ตัวแทนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ โจมตีประเทศไทยว่า ตนได้บอกผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศไปแล้วว่าเราเองก็มีความเสียใจที่การพูดจาของผู้แทนสหรัฐฯ เป็นไปในทางที่ไม่เข้าใจ การทำงานของเราก็รู้สึกเสียใจเพราะสหรัฐฯ เป็นมิตรประเทศกับเรามายาวนานร้อยกว่าปี ถือว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่สุด และที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยไปตอบโต้อะไรเขาเลย ดังนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องชี้แจ้งให้สหรัฐฯ เข้าใจว่าการแก้ไขปัญหาของไทยมีขั้นตอน สำหรับปัญหาเรื่องคดีความหรือเรื่องการถอดถอนที่มีการดำเนินการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้นก็เป็นวิธีการตามปกติ ไม่ได้ไล่ล่าตระกูลใคร

“การดำเนินการในเรื่องการถอดถอน ไม่ใช่เป็นการไล่ล่าตระกูลโน้นตระกูลนี้ ถ้ามีประเด็นแห่งความผิด ทุกตระกูลก็ต้องโดนทั้งหมด ปัญหาอยู่ที่ว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วหรือไม่ วันนี้ผมก็ได้สั่งการไปให้เอาคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหลายๆ คดีที่มีความสำคัญเอาเข้ามา เช่น คดีการทุจริตในทุกๆ เรื่อง ทั้งสหกรณ์และเรื่องต่างๆ จะเห็นได้ว่าวันนี้พยายามทำทุกอย่างให้เคลียร์ให้ได้ และให้เกิดความเข้าใจว่าเรานำทุกเรื่องเข้าสู่กระบวนการซึ่งในวันนี้ก็เหมือนกับกระบวนการปกติ โดย สนช.ทำหน้าที่เหมือนกับสภาผู้แทนฯ ถ้ามั่นใจในการทำงานของรัฐสภาแล้วจะไม่มั่นใจหรือ ทำไมวันนี้ต้องไปทำงาน สนช.แล้วบอกว่าเป็นการรัฐประหาร ทุกอย่างขัดแย้งกันไปหมด ขอร้องว่าให้เอาเหตุและผลมาหักล้างกัน วันนี้เราพยายามนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วหากมีความผิดทางอาญาก็ไปสู้กันในชั้นศาล โดยเอาหลักฐานมาต่อสู้กัน ผมไม่สามารถไปก้าวล่วงการตัดสินดังกล่าวได้ ไม่ใช่นั้นกระบวนการยุติธรรมจะล้มเหลว เพียงแต่วันนี้เราอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่บังเอิญว่าวันนี้คนทำผิดมันโยงใยกันไปมา เลยดูเหมือนว่าเป็นการดำเนินการเพียงข้างเดียว แต่ยืนยันว่าไม่ใช่อย่าไปมองเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นผมทำปฏิวัติมาก็เสียของเปล่า”

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าพร้อมที่จะดำเนินการกับทั้งสองฝ่ายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องถามว่าวันนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือเปล่า

“ผมก็เห็นว่าทั้ง 28 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็เข้ามามอบตัวทั้งหมดแล้ว อีกฝ่ายก็เข้ามามอบตัวบ้างสิ ถ้าคิดว่าตัวเองถูกก็เข้ามามอบตัวเรื่องมันก็จบหนีกันไปทำไม ถ้าเข้ามาต่อสู้กันในกระบวนยุติธรรมก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน แล้วก็ประกันตัวกันออกไป แล้วก็สู้คดีกันมาประเทศเราต้องเป็นแบบนี้”

ต่อข้อถามว่า ส่วนใหญ่กลุ่มคนที่หนีไปต่างประเทศคือพวกที่ไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “แล้วสื่อจะไปช่วยประชาสัมพันธ์ให้เขาทำไม ในเมื่อมันมีความผิด ไม่ใช่นั้นอีกหน่อยคนทำความผิดไม่ว่าจะเป็นคดีอาญา หรือคดีอื่นๆ ก็คงหนีไปต่างประเทศกันหมดแล้วก็กลับมาด่าประเทศตัวเอง อยากถามว่าแล้วประเทศไทยจะอยู่อย่างไร แล้วคนเหล่านี้จะไม่กลับมาประเทศไทยอีกแล้วหรือ ถ้าไม่กลับก็ไม่ต้องกลับ”

ส่วนคนที่หลบหนีมีความคืบหน้าในการติดตามตัวแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยู่ระหว่างการติดตามตัวตามขั้นตอนของกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายกฎหมาย ถ้าประเทศใดที่กฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็อยู่ที่ว่าประเทศนั้นจะพิจารณาส่งหรือไม่ส่ง แต่ปัญหาวันนี้คือมีการไปสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ผิดๆ หาว่ามีการไปทำร้าย ละเมิดสิทธิ ยืนยันว่าไม่มีการไปดำเนินการเช่นนั้น

“มีการไประบุว่ามีการไปนำตัวมาแล้วไปซ้อม คนอย่างผมจะทำหรือ ไม่ทำ มีแต่สั่งว่าอย่าไปทำอะไรเขานะ เรียกมาพูดคุยหาอาหารให้กินกันดีๆ ระดับผู้ใหญ่ อดีตนายกฯ ขอห้องแอร์ ผมก็หาห้องแอร์ให้นอน นี่แหละคือผม แล้วไปพูดอะไรกันคนละเรื่อง หาว่าเอาถุงดำครอบหัว โธ่ นั่นมันในหนัง ประเทศใครจะไปทำ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องคดีอาญา คสช.จะยอมปล่อยออกนอกประเทศเหมือนในอดีตหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการยอมปล่อยหรือไม่ยอมปล่อย แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจาณาของศาลว่าจะอนุญาตให้ออกนอกประเทศได้หรือไม่ วันนี้ตนก็ได้สั่งให้ คสช.ไปพิจารณาและศึกษาดูว่าหากมีคดีหรือศาลตัดสินคดีแล้วจะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่ เพราะวันนี้การเดินทางเข้าออกนอกประเทศโดย คสช.มีการเสนอขึ้นมาโดยผ่านการกลั่นกรองว่าจะไปที่ไหนบ้าง ไปกี่วัน มีกี่ประเทศ มีตั๋วเดินทางมีอย่างชัดเจนตนก็อนุมัติ แต่ถ้าศาลระบุว่าเมื่อตัดสินเป็นอย่างนี้แล้วห้ามเดินทางออกนอกประเทศก็จะไม่ให้ออก ก็แค่นี้เอง อีกทั้งวันนี้ตนได้สั่งการให้มีการเรียกคนที่ออกมาพูดในลักษณะข่มขู่ว่าเดี๋ยวจะเกิดความรุนแรงเหมือนกับภาคใต้มาชี้แจง เพราะจะพูดเช่นนี้ไม่ได้ การออกมาขู่รัฐบาลเช่นนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ให้เรียกมาเพื่อพูดคุยกัน และถ้ายังพูดอีกต่อไปตนก็จะใช้อำนาจของตนระงับการเดินทางและห้ามออกนอกประเทศ และจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีการใช้จ่ายเงินทองต่างๆ เรื่องนี้มีมาตรการจากเบาไปหาหนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่ได้ติดต่อมาเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา ยังไม่มีการขออนุญาต ถ้ามีการขอมาตนก็จะส่งเรื่องไปถามศาลว่าจะให้ไปหรือเปล่า ถ้าศาลบอกว่าไปได้ก็ไปได้

ต่อข้อถามว่า การที่สหรัฐฯ ไม่มีความเข้าใจไทยจะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่าจะมีผลกระทบในเรื่องอะไร เพราะขณะนี้ความสัมพันธ์ก็ยังดีอยู่ การค้าขายการลงทุนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและธุรกิจต่างๆ ก็มีการค้าขายกันอยู่ ผู้แทนทั้งสหรัฐฯ และยุโรปก็ยังมีความมั่นใจในการทำงานของรัฐบาลที่ได้มีการแถลงยุทธศาสตร์ไปแล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับเขามากกว่าภาวะปกติด้วยซ้ำ เพราะทุกอย่างมีความชัดเจนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับท่าทีของสหรัฐฯ ในวันนี้ตนไม่ขอวิจารณ์ และยังมั่นใจว่าสหรัฐฯ ยังสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือเรื่องการเมือง และอะไรคือเรื่องการค้าเศรษฐกิจ การเมืองสหรัฐฯ ก็เหมือนการเมืองบ้านเรา ก็คงไม่สามารถที่จะพูดอย่างอื่นได้ เขาก็คิดถึงประชาธิปไตยแบบตะวันตกว่าควรเป็นแบบนั้น แต่อย่าลืมว่าคนของเรา วิถีชีวิตของเราหรือผู้นำทางการเมืองของเราในอดีตมันไม่เหมือนของเขา นี่คือความแตกต่าง ทางสหรัฐฯ ต้องฟังบริบทเหล่านี้ด้วยว่าแตกต่างกันอย่างไร และที่ผ่านมาเมื่อผู้แทนเขาต้องการฟังอีกทางหนึ่ง เราก็ให้อิสระโดยไม่ห้าม แต่เขาต้องมาถามว่าสิ่งที่ฟังมานั้นใช่หรือไม่ จะไปฟังความข้างเดียวไม่ได้ แต่สุดท้ายต้องมองว่ารัฐบาลเดินหน้าประเทศอย่างไรการปราบปรามการทุจริต การดำเนินคดีเราทำทุกเรื่องเพื่อคนไทยทุกคน

เมื่อถามว่า การที่สหรัฐฯ มีท่าทีเช่นนี้จะทำให้การเป็นแหล่งหลบหนีของผู้กระทำผิด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องดูว่าวันนี้มีการหลบหนีเข้าไปหรือยัง สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันอธิบายว่าไม่ใช่ทุกเรื่องจะเป็นคดีทางการเมืองทั้งหมด ยืนยันว่าตนในฐานะนายกฯ จะไม่ยอมให้ประเทศใดเข้ามาแทรกแซงบ้านเรา ทุกประเทศมีศักดิ์ศรี ประเทศไทยก็ต้องมีศักดิ์ศรีประเทศไท ยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเราให้เกียรติกับทุกๆ ประเทศ ตนไม่เคยไปต่อต้านใคร

“แต่ผมเสียใจในการแสดงความคิดเห็นบางอย่างที่มันไม่ใช่ ไปฟังข้างนี้แล้วออกมาพูดแบบนี้ มันไม่ใช่ ผมก็เสียใจที่เราเป็นมิตรกันมายาวนาน แต่ผมไม่ใช่ศัตรูของเขา อนาคตวันหน้าเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป และบางครั้งที่ผมไม่พูดอะไรก็เพราะอาย ส่วนอีกฝ่ายที่พยายามพูด สื่อก็ต้องไปตำหนิว่าไม่ถูกต้องและต้องให้ความรู้กับประชาชน การทำงานของรัฐบาล ถ้าทำไม่ดีก็ให้ว่ามา แต่ถ้าอะไรดีก็ช่วยไปขยายความให้ประชาชนเข้าใจไม่ใช่ให้ประชาชนมาตี”

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ออกมาแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองของไทยจะดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “เดี๋ยวผมจะให้ คสช.เรียกมา ผมพูดไปแล้วไม่ว่าใครออกมาพูดก็จะเรียกมาให้หมดทุกคน วันนี้ขอร้องว่าถ้ามองผมเป็นความหวังที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ ก็ขอร้องว่าอย่าทำลายความหวังของท่านตรงนี้ ถ้าเห็นว่าผมเป็นความหวังเดียว เพราะที่ผ่านมามันไม่มีใครทำ ที่ผมมีอารมณ์โมโหก็เป็นแบบนี้ คนสูงวัยและผมก็ถอดหินสีออกไปแล้ว และได้บอกกับลูกสาวซึ่งเขาก็เข้าใจดี เขารู้ว่าอะไรก็เอาไม่อยู่ อย่างไรก็ตาม ปกติผมเป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนโรแมนติกอยู่เหมือนกัน และทั้งวันผมก็ไม่ได้คิดเรื่องอื่น คิดแต่เรื่องการแก้ปัญหาตั้งแต่เช้ายันเย็นจนกลับบ้าน นั่งดูทีวีดูข่าวอ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็นั่งเขียนว่าพรุ่งนี้ว่าจะทำอะไร พอเช้าขึ้นมาก็มีคณะทำงานเข้ามาพบ มีการสั่งงานเซ็นหนังสือและประชุม ชีวิตทุกวันนี้มีอยู่เท่านี้ จึงขอร้องว่าท่านอย่าทำลายความหวังเดียวของท่านถ้าคิดว่าผมเป็นความหวังของท่าน ฝากสำหรับทุกคนด้วย เพราะถ้าเราไม่ทำวันนี้ก็จะสายเกินไป อย่าให้ใครมากดดันรัฐบาล เราเป็นคนไทยมีเกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นไทยและเราต้องภูมิใจในความเป็นไทยทำให้เห็นว่าคนไทยรักกัน แต่ถ้าคนไทยไม่ต้องการแบบนี้ก็จะนำไปกลับไปสู่ความขัดแย้งอีก อย่างไรก็ไปไม่ได้เพราะจะเกิดความขัดแย้ง การเลือกตั้งถ้าทำได้ก็ทำไป แต่ถ้าเลือกไม่ได้จะให้ทำอย่างไร ใครแก้ได้ก็มาทำไปหรือจะลากใครเข้ามาแก้ก็ยกประเทศไทยให้เขาไปทั้งหมด”

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะฝ่ากลุ่มที่ดิสเครดิตและต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องฝ่าไปได้แต่ต้องทำได้ด้วยการสร้างความเข้าใจไม่ใช่ด้วยการใช่อำนาจ แม้แต่การเรียกตัวมาก็จะใช้ความเข้าใจพูดกับเขาดีๆ เขาก็เงียบและเข้าใจแต่เขาก็บอกว่าเขาจำเป็นต้องแสดงความเห็นทางการเมือง แต่วันนี้มันไม่ใช่เวลาตรงนั้นก็ขอว่าอย่าไปพูดอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ

เมื่อถามว่า เรียกนายสุรพงษ์มาปรับทัศนคติแล้วจะเรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์มาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “ใครพูดบ้างล่ะ สำหรับคุณยิ่งลักษณ์ผมให้เกียรติเขาตลอดมา ก็ต้องให้เกียรติกับเขาบ้าง ผมให้เกียรติกับเขามาตลอดในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี”
กำลังโหลดความคิดเห็น