ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศ สหรัฐฯ เยี่ยมคารวะ “อภิสิทธิ์” พร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นสถานการณ์การเมือง ความเป็นไปได้ของโรดแมป คสช. พร้อมแนวคิดร่าง ร่าง รธน. ระบุต้นต่อของปัญหาขัดแย้งเกิดจากมีการละเมิดการใช้อำนาจ การคอร์รัปชั่น เผยผู้แทนมะกันแสดงท่าทีเป็นมิตรกับไทย ปชป.แนะควรมองไปข้างหน้า ด้านรองโฆษกฯ ตอก “อ๋อย” อ้าง ปชต.เพื่อประโยชน์ตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 ม.ค.) นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเซีย ตะวันออกและแปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ณ ที่ทำการพรรค ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทย
นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้คุยกันถึงเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองทั่วไป และดูว่าโรดแมปของ คสช.จะมีแนวทางเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และแนวคิดเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเราก็มีที่ข้อเสนอที่เป็นทางการอยู่แล้ว เราเห็นว่าควรมีการทำประชามติเพื่อเป็นการยอมรับรัฐธรรมนูญ โดยควรมีทางเลิกที่ชัดเจนว่ารับหรือไม่รับ ถ้ารับแล้วได้อะไร
นอกจากนั้นยังได้พูดคุยถึงต้นตอของปัญหาความขัดแย้ง มี 2 เรื่องหลัก คือ การใช้อำนาจโดยมิชอบ ถึงแม้พรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ก็มีการละเมิดการใช้อำนาจ หวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่คงจะมีรายละเอียดที่ปรับปรุงเรื่องเหล่านี้ และเรื่องคอร์รัปชัน ซึ่งนายแดเนียล ยังแสดงท่าที่เป็นมิตรกัประเทศไทย แต่เราก็บอกไปว่า ท่าที่ของแต่ละกลุ่มก็แตกต่างกันไป เขาก็ควรกำหนดท่าทีที่มองไปข้างหน้ามากกว่า
ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแสดงความเห็นของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ว่าตนได้อ่านเฟซบุ๊กของนายจาตุรนต์แล้วรู้สึกแปลกใจในมุมมองและวิธีคิดต่อหลักการประชาธิปไตย โดยเฉพาะหลักการวินิจวิเคราะห์ต่อกรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนมีข้อคิดเห็นว่าการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีนั้น ไม่ใช้การล้มล้างหรือไล่ล่าตระกูลชินวัตร แต่เป็นตระกูลชินฯ ต่างหากที่ยังไม่เลิกไล่ล่าประเทศไทย และหากกระบวนการถอดถอนไม่ถูกต้อง ทำไมนายจาตุรนต์ไม่แนะนำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตั้งแต่ต้น ทำไมจึงปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา และขอถ่ายทอดสดที่รัฐสภา อีกทั้งยังส่งทีมอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและทีมทนายเข้าไปแก้ข้อกล่าวหาแทน แต่แถลงปิดคดีด้วยตนเองจนกระทั่งมีการลงมติเสร็จสิ้น
“อย่าทำคนผิดคิดไม่ซื่อ มาสร้างอ้างกระแสประชาธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้องอีกเลย เพราะมันไม่สง่างาม การไม่ยอมผลการตรวจสอบ ไม่ยอมรับผลการพิพากษา ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายต่างหากที่ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย ถ้านายจาตุรนต์คิดว่าต้องชนะสถานเดียวถึงจะเป็นประชาธิปไตย ก็คงเป็นประชาธิปไตยกลวงโบ๋แบบนายจาตุรนต์คนเดียว”