เกาะกระแส
00 หากนับกันวันนี้(21 ม.ค.)เป็นวันแถลงปิดคดีถอดถอน แม้ว่าจะเป็นคนละเรื่อง แต่ก็เป็นแบบ"คนละเรื่องเดียวกัน"เพราะยึดโยงถึงกัน เริ่มจาก คดี นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนฯ จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็ถึงคิวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เป็นคดีเกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ก่อนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะลงมติถอดถอนในวันที่ 23 ม.ค.เป็นอันเสร็จพิธี
00 อย่างไรก็ดีเชื่อว่า สิ่งที่สังคมกำลังจับตามองมากที่สุดก็คือวันลงมติในวันที่ 23 ม.ค.ว่าในที่สุดแล้ว สนช.จะลงมติถอดถอนกันกี่คน และออกเสียงไม่ถอดถอนกี่คน รวมไปถึงพวกที่ "นั่งเฉย"อยู่นิ่งๆแทงกั๊กแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวรับเงินเดือนฟรีๆอีกกี่คนกันแน่ เพราะจากจำนวนเต็ม สนช.220 คนต้องใช้เสียงถึง 132 คน ถึงจะถือว่า"ถอดสำเร็จ"ซึ่งนาทีนี้ยังวัดใจไม่ได้ เพราะเมื่อพิจารณาจากวันที่ลงมติรับเรื่องในวาระแรกก็มีเสียงเพียงแค่ 87 ต่อ 75 เท่านั้น แถมยังมีพวกนั่งเฉยงดออกเสียงอีก 15 มันก็หวังยากเรื่องผลสัมฤทธิ์ แต่กลายเป็นว่าการลงมติดังกล่าวน่ากลายเป็นการชี้ชะตา พิสูจน์ศรัทธาต่อ สนช.รวมไปถึง คนที่แต่งตั้งคนพวกนี้เข้ามามากกว่า ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่าล้วนมากสามสายหลักคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มากกว่า อยากรู้ว่า สนช.สายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ คนพวกนี้จะได้รับสัญญาณมาแบบไหน งานนี้ถึงได้บอกว่าเป็นการพิสูจน์ศรัทธากันอีกครั้งหนึ่ง เป็นแบบ"สะสมคะแนน"ส่วนจะเป็นคะแนนบวกหรือลบ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เห็นกันแล้ว !!
00 โดนกันแบบเรียกว่า "ยกแก๊ง"กันเลยก็ว่าได้สำหรับการที่ ปปช.ชี้มูลความผิด คดี"ขายข้าวแบบจีทูเจ๊" รวมทั้งหมดก็ 21 คน เรียกว่าเรียงกันไปเป็นลูกระนาด แบ่งเป็นสามพวกคือนักการเมือง 3 คนคือ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขาฯสองสองคนดังกล่าว ยังมีอดีตขรก.พาณิชย์คือ มนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ รวมทั้งเอกชน พวกบริษัทค้าข้าวอีก 15 ราย ซึ่งจากการลงมติ"เอกฉันท์"ชี้มูลความผิด และทาง วิชา มหาคุณ ปปช.ได้แถลงว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 6 แสนล้านบาท โอว แม่เจ้า !!
00 ไม่ทันสิ้นเสียงการแถลงชี้มูล บุญทรง เตริยาภิรมย์ก็แถลงเรียกน้ำตาทันทีทำนองว่า"ถูกกลั่นแกล้ง"ตามสไตล์ แถมยังนำไปโยงกับคดีถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเสียอีก เพราะมีมติก่อนการลงมติเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เรียกว่าเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อ สนช.ก็ว่ากันไป แต่คำถามก็คือเอ็งรวมหัวกันโกงหรือเปล่า สร้างความเสียหายกับงบประมาณมากมายมหาศาลอย่างที่ว่าจริงหรือเปล่า ส่วนจะโยงกันหรือไม่ไม่ใช่ประเด็น !!
00 จะเรียกว่ามากันเป็นชุดก็ว่าได้ ล่าสุด สรรเสริญ พลเจียก เลขาฯปปช.ก็เปิดเผยว่าผลการประชุมคณะกรรมการร่วม ปปช.-อัยการสูงสุด วันที่ 20 ม.ค.มีมติฟ้องอาญา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ จะส่งสำนวนไปเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ซึ่งเลขาฯปปช.เผยว่าทางอัยการฯยืนยันว่าจะดำเนินการโดยไม่ชักช้า ก็รอกันอีกนิด แต่มันก็ใกล้แล้ว นั่นคือใกล้คุกเข้าไปอีกนิดแล้ว !!