00 ทำไมเวลาเก็งหวยมันไม่แม่นอย่างนี้ เหมือนอย่างที่คาดเดาฟันธงมาล่วงหน้าหลายวันแล้ว ตั้งแต่เรื่องวันแถลงเปิดคดี จนกระทั่งวันแถลงปิดคดีถอดถอน ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องมา เพราะมันเป็นรายการ "อ่านโพย" ที่คนที่ลูกน้องของพี่ชาย คือทักษิณ ชินวัตร เขียนเอาไว้ให้เสร็จสรรพ แต่ถ้าเป็นรายการต้องตอบคำถามเธอไม่มาเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวจะมั่ว เข้าตัวลึกไปอีก ขณะเดียวกันถ้าพิจารณาจากเนื้อหาก็เป็นเพียงดราม่า เรียกน้ำตาสาวกเท่านั้น ประเภทไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือ สนช. มีที่มาจากเผด็จการ จะมาถอดถอนชี้ชะตาคนที่มาจากการเลือกตั้งอย่างพวกเธอได้อย่างไร ประมาณนี้แหละ เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่มา "อ่านโพย" คำแถลงเปิดคดีเมื่อปลายปีก่อน
00 อย่างไรก็ดี พูดไปก็แค่นั้น สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ ต้องมองไปข้างหน้าว่า ในที่สุดแล้ว สนช. จะลงมติถอดถอนเธอได้กี่เสียง ก็ให้จับตาไปที่ สนช.สายทหาร และตำรวจ ว่าจะยกมือไปทางไหน เที่ยวนี้ถ้ายังขวาง หรือ งดออกเสียง คนที่ "ซวย" ตามมาแบบเลี่ยงไม่พ้นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพราะคนพวกนี้เป็นคนแต่งตั้งเข้ามา งานนี้ไม่ต้องมาพูดเรื่องประชาธิปไตย หรือเผด็จการ แต่ต้องพิจารณากันถึงความถูกต้อง และให้เกียรติประชาชนส่วนใหญ่ผู้เสียภาษี และเป็นเจ้าของประเทศ ที่กำลังเฝ้ามองกันอยู่ อย่าล้อเล่น ที่สำคัญอย่าทำลายความศรัทธาแบบสะสมไปเรื่อยๆ
00 ส่วนคำพูดของ "ทนายถุงขนม" พิชิต ชื่นบาน ที่ว่า "ความยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด" ก็ไม่ผิดหรอก แต่ขณะเดียวกันความยุติธรรมต้องมี และต้องสามัคคีไล่คนโกงออกไปทั้งโคตรด้วย มันเป็นไปได้อย่างไร ที่โกงกันจนสร้างความเสียหายกับเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนล้าน มีคนฆ่าตัวตายนับสิบ แต่คนที่รับผิดชอบด้านนโยบาย คนสั่งการสูงสุดคิดจะ "ลอยนวล" ไม่รับผิดชอบ มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย ใช่มั๊ย และใครก็ตามที่คิดนั่งเฉย หรือปล่อยตัวไป ก็ลองดูก็แล้วกัน วันนี้ (23 ม.ค.) วันลงมติของ สนช. ก็จะรู้กันว่า ใครมีธาตุแท้อย่างไรกันบ้าง !!
00 ประเด็นเรื่องการเดินหน้าเปิดสัมปทานรอบใหม่ (รอบที่ 21 ) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศกร้าวว่า ไม่ต้องฟังมติของ สปช. ที่คัดค้าน และอ้างว่าพวกที่ขัดขวางได้รับข้อมูลผิดๆ งานนี้ต้องวัดใจกันอีกนิดว่า ในที่สุดแล้ว ใครกันแน่ที่รับแต่ข้อมูลของกลุ่มทุนพลังงาน โดยไม่สนใจประชาชนที่ต้องทนบริโภคพลังงานในราคาแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดการออกมาสาวไส้ เปรียบข้อมูลตัวเลขด้านราคา การอุดหนุน การเอาเปรียบของกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่สมคบกับภาครัฐ ของ รสนา โตสิตระกูล สปช.ด้านปฏิรูปพลังงาน เสียงข้างน้อย มันช่างน่าเจ็บปวด ขณะเดียวกันเมื่อได้เห็นตัวเลขอัปยศดังกล่าว มันก็เรียกอารมณ์ปรี๊ด ขึ้นสมองได้ดีจริงๆ
00 เดินหน้าไปเรื่อยๆ สำหรับการยกร่าง รธน. รายมาตรา ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. มาถึงภาค 3 ว่าด้วย นิติธรรม ศาล และองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งมีเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตาก็คือการ "รื้อ" อำนาจหน้าที่ของ "อัยการ" กันใหม่ เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนชื่อเรียกจาก "พนักงานอัยการ" เป็น "ข้าราชการอัยการ" และ ต่อไปนี้ห้ามอัยการเข้าไปเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจ ห้ามเป็นที่ปรึกษาด้านกม.บริษัทห้างร้านต่างๆ ห้ามเป็นที่ปรึกษานักการเมือง มีการกล่าวถึงจริยธรรมที่ดีของข้าราชการอัยการ ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าว เริ่มบังคับทันทีหลังจากรธน.มีผลบังคับใช้ และหวังว่าในส่วนของการปฏิรูปตำรวจ ก็ต้องมีในแบบเดียวกันด้วย นั่นแหละถึงจะพอมีความหวังกันบ้าง !!
00 อย่างไรก็ดี พูดไปก็แค่นั้น สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ ต้องมองไปข้างหน้าว่า ในที่สุดแล้ว สนช. จะลงมติถอดถอนเธอได้กี่เสียง ก็ให้จับตาไปที่ สนช.สายทหาร และตำรวจ ว่าจะยกมือไปทางไหน เที่ยวนี้ถ้ายังขวาง หรือ งดออกเสียง คนที่ "ซวย" ตามมาแบบเลี่ยงไม่พ้นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพราะคนพวกนี้เป็นคนแต่งตั้งเข้ามา งานนี้ไม่ต้องมาพูดเรื่องประชาธิปไตย หรือเผด็จการ แต่ต้องพิจารณากันถึงความถูกต้อง และให้เกียรติประชาชนส่วนใหญ่ผู้เสียภาษี และเป็นเจ้าของประเทศ ที่กำลังเฝ้ามองกันอยู่ อย่าล้อเล่น ที่สำคัญอย่าทำลายความศรัทธาแบบสะสมไปเรื่อยๆ
00 ส่วนคำพูดของ "ทนายถุงขนม" พิชิต ชื่นบาน ที่ว่า "ความยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด" ก็ไม่ผิดหรอก แต่ขณะเดียวกันความยุติธรรมต้องมี และต้องสามัคคีไล่คนโกงออกไปทั้งโคตรด้วย มันเป็นไปได้อย่างไร ที่โกงกันจนสร้างความเสียหายกับเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนล้าน มีคนฆ่าตัวตายนับสิบ แต่คนที่รับผิดชอบด้านนโยบาย คนสั่งการสูงสุดคิดจะ "ลอยนวล" ไม่รับผิดชอบ มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย ใช่มั๊ย และใครก็ตามที่คิดนั่งเฉย หรือปล่อยตัวไป ก็ลองดูก็แล้วกัน วันนี้ (23 ม.ค.) วันลงมติของ สนช. ก็จะรู้กันว่า ใครมีธาตุแท้อย่างไรกันบ้าง !!
00 ประเด็นเรื่องการเดินหน้าเปิดสัมปทานรอบใหม่ (รอบที่ 21 ) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศกร้าวว่า ไม่ต้องฟังมติของ สปช. ที่คัดค้าน และอ้างว่าพวกที่ขัดขวางได้รับข้อมูลผิดๆ งานนี้ต้องวัดใจกันอีกนิดว่า ในที่สุดแล้ว ใครกันแน่ที่รับแต่ข้อมูลของกลุ่มทุนพลังงาน โดยไม่สนใจประชาชนที่ต้องทนบริโภคพลังงานในราคาแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดการออกมาสาวไส้ เปรียบข้อมูลตัวเลขด้านราคา การอุดหนุน การเอาเปรียบของกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่สมคบกับภาครัฐ ของ รสนา โตสิตระกูล สปช.ด้านปฏิรูปพลังงาน เสียงข้างน้อย มันช่างน่าเจ็บปวด ขณะเดียวกันเมื่อได้เห็นตัวเลขอัปยศดังกล่าว มันก็เรียกอารมณ์ปรี๊ด ขึ้นสมองได้ดีจริงๆ
00 เดินหน้าไปเรื่อยๆ สำหรับการยกร่าง รธน. รายมาตรา ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. มาถึงภาค 3 ว่าด้วย นิติธรรม ศาล และองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งมีเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตาก็คือการ "รื้อ" อำนาจหน้าที่ของ "อัยการ" กันใหม่ เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนชื่อเรียกจาก "พนักงานอัยการ" เป็น "ข้าราชการอัยการ" และ ต่อไปนี้ห้ามอัยการเข้าไปเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจ ห้ามเป็นที่ปรึกษาด้านกม.บริษัทห้างร้านต่างๆ ห้ามเป็นที่ปรึกษานักการเมือง มีการกล่าวถึงจริยธรรมที่ดีของข้าราชการอัยการ ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าว เริ่มบังคับทันทีหลังจากรธน.มีผลบังคับใช้ และหวังว่าในส่วนของการปฏิรูปตำรวจ ก็ต้องมีในแบบเดียวกันด้วย นั่นแหละถึงจะพอมีความหวังกันบ้าง !!
