“ประยุทธ์” เผยประชุมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เร่งรัดเรื่องล่าช้า จัดการข้าวในสต๊อก ลดราคาขายคนรายได้น้อย ยันรถไฟทางคู่จีนคุยรายละเอียดเดือนนี้ คาดลงเสาเข็ม ก.ย. เตรียมหารือญี่ปุ่นร่วมทุนรถไฟเหมือนชาติมังกร แต่ต้องเร่งเริ่ม 1 - 2 เส้นก่อน นักข่าวอิศราลุกถามฮั้วจัดซื้อเรือท้องแบนกองทัพ บอกไปแจ้งความมา ฉุนหน้าแดงเจอถามเรื่อง พ.ร.บ.ไซเบอร์ โวยกฎหมายออกหรือยัง สวนจะผ่าน ทำไม ก่อนบ่นอารมณ์เสียเดินขึ้นตึก
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในประเด็นที่ยังล้าช้า ซึ่งจะเร่งรัดให้ รวมถึงชี้แจงการทำงานต่างๆ จากนั้นเข้าสู่การประชุม ครม. เป็นการหารือในงานปกติที่ต้องมีการขออนุมัติและพิจารณา โดยหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ครม. แล้ว ได้มีการประชุม ครม. เศรษฐกิจวงเล็ก เพื่อดูว่าเราจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราดูแลในส่วนประชาชนที่ไม่ได้ทำการเกษตรในฤดูแล้ง ว่า จะมีการจ้างงานได้หรือไม่ และหาเม็ดเงินลงไปดูแล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการหารือการจัดการเรื่องข้าวในสต๊อกให้ได้ โดยที่ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อราคาข้าวในท้องตลาด โดยอาจจะมีการขายให้กับคนที่มีรายได้น้อยบ้าง แต่จะต้องไม่มีผลกระทบต่อราคาข้าว อีกทั้งมีการหารือในการแก้ไขปัญหายางพารา ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้ว จะมีส่วนหนึ่งนำไปทำถนนได้จำนวนหนึ่งเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ และดูว่าต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และสามารถนำมาทำยางรถยนต์หรือวัสดุสนามกีฬาให้โรงเรียนต่างๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 ตัน โดยใช้ยางในสต็อกเป็นวัสดุต้นทุน ทั้งนี้ ถ้าเราเริ่มตรงนี้ได้จะทำให้สามารถนำยางในสต๊อกออกมาใช้ได้ และจะไม่ทำให้ยางในท้องตลาดเสียหาย
นายกฯ กล่าวต่อว่า เราคิดในทุกมาตรการทั้งรถไฟส่วนต่อขยาย สายสีน้ำเงินซึ่งมีการพูดคุยชัดเจนให้แล้วเสร็จในเดือน ก.พ. แต่ถ้าไม่ได้จะมาว่ากันในเรื่องวิธีการ โดยไม่มีใครได้ผลประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้เกิดผลได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการรายงานความก้าวหน้าที่จะมีการพูดคุยกับจีนในการตั้งคณะกรรมการร่วมกันของโครงการรถไฟทางคู่ และพูดคุยลงรายละเอียดภายในเดือน ม.ค. นี้ เพื่อให้เกิดให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม หากมีการตกลงกันได้ ทุกอย่างทั้งเงินทุน ระเบียบ การบริหารจัดการ คาดว่า เดือน ก.ย. จะมีการเริ่มต้นลงเสาเข็มได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนต้องเตรียมการหารือกับประเทศญี่ปุ่น ในเรื่องความร่วมมือด้านรถไฟ ซึ่งขึ้นอยู่กับญี่ปุ่นว่าจะร่วมทุนอย่างไร เช่นเดียวกับการร่วมมือไทยกับจีน โดยเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงด้วย ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการทางรถไฟเพียง 1 - 2 เส้นทางก่อน ผู้ที่สนใจก็ต้องว่ากันไปในเรื่องการแข่งขันประมูล แต่เราต้องเร่งให้มีการเริ่มใน 1 - 2 เส้นทางแรกก่อน เพราะเรามีเงินแค่นี้
มีรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวอิศราถามถึงการจัดซื้อเรือท้องแบนของกองทัพบกเป็นเงิน 39 ล้านบาท มีกรณีที่บริษัทที่ชนะการประกวดราคาและบริษัทที่เสนอราคาทั้ง 2 บริษัทนั้น มีความเชื่อมโยงกัน และมีผู้ถือหุ้นเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบเพียงสั้นๆ โดยไม่หันไปมองหน้าผู้สื่อข่าวที่ถามคำถามดังกล่าว ก่อนกล่าวว่า “ไปแจ้งความมา” เมื่อถูกถามย้อนกลับว่า ผู้สื่อข่าวไม่มีหน้าที่ในการฟ้องร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ได้สิ ทุกคนแจ้งได้ ไปหามา”
เมื่อผู้สื่อข่าวคนเดิมพยายามถามถึงกรณีที่ ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การรักษาความความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า มีความจำเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “เป็นการเข้าไปหาคณะกรรมาธิการ เพราะเราเป็นผู้เริ่มต้นแล้วคณะกรรมาธิการเข้ามาเสนอต่อ ครม. ทุกคนต้องรู้จักกติกาบ้าง รู้ว่าทำงานกันอย่างไร สิ่งที่ผมกลัวและเป็นห่วงทุกคนมัวแต่มองอย่างเดียวว่าจะถูกจำกัดสิทธิ วันนี้จำกัดสิทธิอะไรบ้างหรือยัง จำกัดอะไรบ้างรึยัง”
เมื่อถามอีกว่า แต่ว่ามีการให้อำนาจหน้าที่เจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลทุกรูปแบบ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบอย่างมีอารมณ์ขึ้นมาทันทีว่า “แล้วเขาจบหรือยังล่ะ กฎหมายออกมาหรือยัง” เมื่อถามว่า ประเด็นคือทำไมถึงผ่านร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบแบบขึงขังด้วยสีหน้าแดงก่ำ ว่า “ไม่ต้องมาทำไม ทำไมล่ะ จะผ่าน ทำไม เฮ้ยแล้วจะเป็นทำไมวะ นายกฯ จะเป็นทำไม” จากนั้นผู้สื่อข่าวคนอื่นพยายามจะถามประเด็นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินเลี่ยงไปก่อนกล่าวว่า “ไม่เอา ไปแล้ว” พร้อมเดินไปบ่นเสียงดังว่า “อารมณ์เสียๆ” ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า