xs
xsm
sm
md
lg

ริบอำนาจ กกต.ระวังประเทศไทยเสร็จโจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชัย ศรีสุทธิยากร
ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะมีมติแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปตั้งแต่ก่อนปีใหม่ โดยสาระสำคัญคือ จะโยกอำนาจการจัดการเลือกตั้งถอยหลังไปไว้กับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ

พร้อมกันนี้ ยังริบดาบอาญาสิทธิ์ ชี้เป็นชี้ตายนักการเมืองด้วยการแจกใบแดงออกจากอ้อมอก กกต. ให้เหลือเพียงใบเหลือง คือการสั่งเลือกตั้งใหม่เท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ กกต. ในฐานะองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งมาถึง 16 ปี แทบกระอักเลือด กับคำชี้ชะตาอนาคตขององค์กร
แต่กระนั้นก็ยังไม่ถือว่ามาสุดสายปลายทาง ยังเหลือด่านของคณะกรรมการปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะเป็นปราการสุดท้ายหลายด่าน ว่าจะเอาด้วยกับมติของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้กกต. ยังสงวนท่าทีในการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ แต่ “สมชัย ศรึสุทธิยากร” กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง 1 ใน 5 เสือ กกต. แม้ว่าช่วงแรกจะเหนียมๆ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น จนในที่สุดหลังผ่านศักราชใหม่ไปแค่ 6 วัน ก็คงจะคันปากอยากเอาข้อมูลที่ไปคิดจนตกผลึก มาเผยแพร่

จึงมีการนัดหมายสื่อประจำ กกต. มาจิบชายามบ่าย จัด “Tea Talk” ขึ้น ข้อมูลที่ “สมชัย” นำมาแจกแจงยกเหตุผลนานัปการ ที่ไม่สมควรจะย้อนยุคให้กระทรวงคลองหลอด และกระทรวงใบเสมา จัดการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลายฝ่ายเคยได้สังเคราะห์ไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ คือ การหวั่นวิตกว่า ข้าราชการ อาจเป็นลิ่วล้อ เป็นไม้เป็นมือให้นักการเมืองทุจริตการเลือกตั้งได้

โดยชี้ว่า หลังการเลือกตั้งนักการเมืองได้เข้ามากำกับดูแลข้าราชการที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง และสามารถโยกย้ายคนของตัวเองเข้าไปในแต่ละพื้นที่ จึงสุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดผลลบ มากกว่าผลบวก และ “สมชัย” ได้บัญญัติให้คนที่คิดเรื่องนี้เป็นพวกร้อนวิชา รวมถึงบัญญัตินักการเมืองที่จะไปแสวงประโยชน์ผ่านอำนาจหน้าที่ว่าเป็นพวก “บ้าอำนาจ” แต่ที่สุดกลับไม่ยอมบัญญัติคำให้กลุ่มคนที่สามที่ต้องการใช้กลไกของรัฐจัดการเลือกตั้งในครั้งหน้าที่จะมาถึง

ถ้าจะเป็นวาทกรรมราบเรียบแค่นั้น มันคงจะไม่ใช่คนอย่าง “สมชัย” เพราะยังได้แสดงความคิดเห็นในทางตักเตือน สปช. ผู้ถือธงนำแห่งการปฏิรูปประเทศ ระวัง!!! จะกลายเป็น “นางโมรายื่นดาบให้โจร” แทนที่พระเอกจะได้ดาบมาครอง แต่ความคิดลังเลในที่สุดดาบเข้ามือโจร อย่างนี้ก็ “เสร็จโจร”

บทพิสูจน์การยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญในหลายๆ เรื่อง มิใช่เพียงแค่ใครจะมีอำนาจหน้าที่ในการจัดเลือกตั้ง แต่ต้องมองกลไกในการคัดกรองคนดี คนเก่งเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ และไม่ใช่หวังการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่อาจจะมีพรรคการเมืองเฉพาะกิจเข้ามาเก็บกวาดแต้มทางการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลสืบทอดทายาทท็อปบูต ถ้าประเมินผิดแล้วคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”ฟื้นคืนชีพ แก้สนุ๊กเกมอำนาจนี้ได้ ประเทศไทยก็กลับมาพ่ายทุกประตู

นั่นคืออำนาจกลับไปสู่กับพวกเดิมๆ แล้วจะกล้าร้องเพลง “คืนความสุข” อยู่อีกไหม

ดังนั้น สิ่งที่ควรอยู่ต่อไป และเหมาะสมในระบบการจัดการเลือกตั้งคือหน่วยงานที่เป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริงทำหน้าที่นี้ โดยส่วนราชการเข้ามาเป็นไม้เป็นมือในงานเล็กๆ น้อยๆ ก็น่าจะเหมาะสมกว่า ส่วนใบเหลือง - ใบแดง อาจจะแยกใบแดงไปไว้กับศาลตัดสิน ก็คงจะทำได้

สิ่งสำคัญไอเดียอาจจะฟุ้งกระจายจากหลายทางคิดหวังจะให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้ามีเสียงทัดทาน ก็ต้องฟังบ้าง อย่างน้อยองค์กรอิสระยังพอต่อกรกับนักการเมือง ทัดทานอำนาจ ที่นักการเมืองต้องการจะครอบงำได้บ้าง ถือว่าเป็นข้อดี แต่ถ้าให้องค์กรภายใต้หน่วยงานรัฐมาทำหน้าที่ มันก็ยากจะควบคุม เพราะข้าราชการเองก็หวังจะเติบโตในหน้าที่การงานกันทั้งนั้น เพราะ“เงินและอำนาจวาสนา” เป็นสิ่งหอมหวานหลอกล่อใจ ใครตบะไม่แข็งแกร่งพอ ก็ไหลไปตามน้ำได้ง่ายๆ โดยไม่ได้นึกถึง ธรรมาภิบาล คุณธรรม จึงไม่ควรไปสร้างกลไกเพื่อไปเอื้อให้เกิดสิ่งที่มองเห็นข้างหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ไม่อย่างนั้น ดาบที่โมราทิ้งไว้จะเข้าทางโจร ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ มันก็จะกลับมาทิ่มแทงเราชนิดที่ปืนผาหน้าไม้ ก็เอาไม่อยู่ โมรา จะถูกตราหน้าว่าสองใจ แล้วจะแก้ตัวอย่างไร เมื่อหลักฐานมันเห็นๆ อยู่
ทักษิณ ชินวัตร
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
กำลังโหลดความคิดเห็น