ดาวอาทิตย์สถิตราศีเมษ 10 องศา 11 ลิบดา
ดาวจันทร์ สถิตราศีกรกฎ 15 องศา 20 ลิบดา
ดาวอังคารสถิตราศีพฤษก 20 องศา 2 ลิบดา
ดาวพุธสถิตราศีมีน 4 องศา 11 ลิบดา
ดาวเสาร์สถิตราศีธนู 9 องศา 42 ลิบดา
ลัคณาพระศุกร์สถิตราศีเมษจากดวงราศีจักรและองศาของดวงดาวที่ปรากฏ สามารถเขียนเป็นพยางค์จักรได้ดังนี้
ข้อสังเกตในดวงเมืองมีดาวเพียง 8 ดวงเท่านั้น ไม่มีดาวเกตุและมฤตยู
ดังนั้น การพยากรณ์เหตุการณ์ในระยะยาวเป็นปีจะใช้เพียงดาวใหญ่ 3 ดวง คือ พฤหัส เสาร์ และราหู แต่ถ้าแบ่งผ่านลงเป็นเดือน ก็จะนำอื่นๆที่เหลือมาประกอบด้วย
ด้วยเหตุนี้การคาดการณ์หรือการพยากรณ์ดวงเมืองในปี 2558 ก็จะใช้หลักเกณฑ์นี้ เริ่มด้วยเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์หรืออนุมานโดยอาศัยดาวราหูที่เล็งพุธในด้านลบก็จะเป็นดังนี้
ในปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะมีปัญหาทางด้านการเงิน การคลัง มีการก่อหนี้เพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น หรืออาจถึงขั้นประกาศลดค่าเงินบาท ส่งผลกระทบถึงการจ่ายคืนเงินกู้ต่างประเทศ และการนำข้าสินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมัน ทั้งนี้ เกิดจากอิทธิพลของดาวราหูเล็งพุธ
ปัญหาการเมือง อันเกิดจากเสาร์เล็งอังคาร อนุมานได้ว่าเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน จะกดดันรัฐบาล เนื่องจากราคาผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมตกต่ำ และข้าวของแพง จึงมีการขอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
ปัญหาทางด้านสังคม จะดูได้จากดาวพฤหัสที่โคจรเป็นมหาอุจ ส่งผลให้ผู้คนในสังคมออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทุจริตอย่างจริงจังและรวดเร็ว แทนที่จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการปกติ เข้าทำนองป่วยเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบต้องผ่าตัดโดยด่วน แต่กลับรักษาด้วยการกินยาแก้ปวดแทน
หากรัฐบาลยังคงยืดยาดในการแก้ปัญหาทุจริต กระแสกดดันทางสังคมจะเกิดขึ้นแน่นอนไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2558 และสุดท้ายอาจต้องมีการปรับ ครม.หรือเกิดเหตุการณ์มากกว่านี้ขึ้นได้
ดาวจันทร์ สถิตราศีกรกฎ 15 องศา 20 ลิบดา
ดาวอังคารสถิตราศีพฤษก 20 องศา 2 ลิบดา
ดาวพุธสถิตราศีมีน 4 องศา 11 ลิบดา
ดาวเสาร์สถิตราศีธนู 9 องศา 42 ลิบดา
ลัคณาพระศุกร์สถิตราศีเมษจากดวงราศีจักรและองศาของดวงดาวที่ปรากฏ สามารถเขียนเป็นพยางค์จักรได้ดังนี้
ข้อสังเกตในดวงเมืองมีดาวเพียง 8 ดวงเท่านั้น ไม่มีดาวเกตุและมฤตยู
ดังนั้น การพยากรณ์เหตุการณ์ในระยะยาวเป็นปีจะใช้เพียงดาวใหญ่ 3 ดวง คือ พฤหัส เสาร์ และราหู แต่ถ้าแบ่งผ่านลงเป็นเดือน ก็จะนำอื่นๆที่เหลือมาประกอบด้วย
ด้วยเหตุนี้การคาดการณ์หรือการพยากรณ์ดวงเมืองในปี 2558 ก็จะใช้หลักเกณฑ์นี้ เริ่มด้วยเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์หรืออนุมานโดยอาศัยดาวราหูที่เล็งพุธในด้านลบก็จะเป็นดังนี้
ในปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะมีปัญหาทางด้านการเงิน การคลัง มีการก่อหนี้เพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น หรืออาจถึงขั้นประกาศลดค่าเงินบาท ส่งผลกระทบถึงการจ่ายคืนเงินกู้ต่างประเทศ และการนำข้าสินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมัน ทั้งนี้ เกิดจากอิทธิพลของดาวราหูเล็งพุธ
ปัญหาการเมือง อันเกิดจากเสาร์เล็งอังคาร อนุมานได้ว่าเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน จะกดดันรัฐบาล เนื่องจากราคาผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมตกต่ำ และข้าวของแพง จึงมีการขอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
ปัญหาทางด้านสังคม จะดูได้จากดาวพฤหัสที่โคจรเป็นมหาอุจ ส่งผลให้ผู้คนในสังคมออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทุจริตอย่างจริงจังและรวดเร็ว แทนที่จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการปกติ เข้าทำนองป่วยเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบต้องผ่าตัดโดยด่วน แต่กลับรักษาด้วยการกินยาแก้ปวดแทน
หากรัฐบาลยังคงยืดยาดในการแก้ปัญหาทุจริต กระแสกดดันทางสังคมจะเกิดขึ้นแน่นอนไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2558 และสุดท้ายอาจต้องมีการปรับ ครม.หรือเกิดเหตุการณ์มากกว่านี้ขึ้นได้