xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” อ้างข้อเสนอ กมธ.ยกร่าง รธน.แค่โยนหินถามทาง เชื่อนำข้อท้วงติงไปทบทวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิษณุ เครืองาม (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ ระบุข้อเสนอ กมธ.ยกร่างฯที่ถูกวิจารณ์ ยังไม่ใช่บทสรุป แค่โยนหินถามทาง เชื่อจะนำข้อเสนอแนะ ท้วงติงไปพิจารณา มั่นใจไม่ทำให้แตกแยก ไม่โกรธถูก “สมชัย” ย้อน บอกนิรโทษกรรม เป็นการแก้ปลายทาง หากใจยังร้าวลึก สถานการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นได้อีก

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอในขณะนี้ ทั้งเรื่องนายกรัฐมนตรีจากคนนอก หรือการให้อำนาจกระทรวงมหาดไทยในการจัดการเลือกตั้งแทน กกต.ว่า ความจริงแล้วเป็นเพียงข้อเสนอของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เท่านั้น เป็นการโยนหินถามทาง ยังไม่เป็นข้อสรุป อย่าเพิ่งไปคอมเม้นท์หรือแสดงความเห็นอะไรเขาเลย. เราแหย่อะไรไปเดี๋ยวเขาก็ย้อนกลับมา

“ผมคุยกับกรรมาธิการยกร่างฯ2-3 คน ซึ่งเขาก็ยืนยันว่ามันยังไม่ได้เป็นข้อสรุปอะไร เขาเพียงแค่โยนหินมาก้อนหนึ่ง ในนั้นมันมีอะไรอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้พูด อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังย้อนว่านายกฯคนนอกควรจะใช้ในยามวิกฤต ก็ต้องมาดูอีกว่าวิกฤต แปลว่าอะไร เพราะฉะนั้นยังถือเป็นช่วงที่ต้องการคำถามและคำตอบกันอยู่ สำหรับผมเองอยู่ในรัฐบาล ไม่อยากไปยุ่งอะไร”

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายประเด็นที่กรรมาธิการยกร่างฯโยนมา ล้วนแต่สร้างกระแสในสังคมทั้งนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นความต้องการของกรรมาธิการยกร่างฯ ที่ต้องการสร้างกระแสอยู่แล้วเพื่อให้สังคมมีปฏิกิริยา ตอนนี้ใครอยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ

เมื่อถามว่าสังคมอยากให้การยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ยืนอยู่บนผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติจริง ๆ รองนายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปว่าเขา เพราะยังไม่จบ ยังไม่ตกผลึกว่าสุดท้ายมันจะเป็นอย่างไร และครั้งนี้ทางกรรมาธิการยกร่างฯ เขาก็มองว่าสิ่งที่เขาทำมันก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่ใช่ไม่เป็น เพียงแต่เราอาจรู้สึกว่าเป็นอย่างไร

“ทางกรรมาธิการฯ เขาตั้งใจอยู่แล้วว่าเมื่อได้ทางมาแล้ว เขาก็ต้องนำกลับไปคิดใหม่ ซึ่งข้อเสนอวันนี้เป็นข้อๆ แต่ตอนร่างรัฐธรรมนูญเขาจะเอาทุกข้อมาผูกกัน ถึงตอนนั้นเขาอาจจะพบว่าข้อนี้ไปด้วยกันไม่ได้กับข้อนั้น ก็ต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง อย่างเช่นที่มา ส.ว. ก็ต้องให้สอดคล้องกับเรื่องของอำนาจด้วย เพราะหากไม่ได้มาจากเลือกตั้งแต่กลับมีอำนาจมากจะอธิบายกับสังคมอย่างไร เพราะที่มากับอำนาจมันต้องไปด้วยกัน จะไปถึงขนาดถอดถอนพวกที่มาจากการเลือกตั้ง โดยที่คุณไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ทางการมาธิการยกร่างฯ เขาต้องกลับมาคิดใหม่”

ส่วนโยนหินถามทางแบบนี้จะไม่ทำให้สังคมแตกแยกก่อนหรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอก และตนไม่มองว่าเป็นความแตกแยกเพราะเป็นการทำโดยคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ที่เขามีหน้าที่ ไม่ใช่คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราพอใจที่จะฟังเขามากกว่าจะให้เขาปิดประตูตีแมวแล้วมาบอกว่าร่างเสร็จแล้ว ดังนั้นวันนี้คิดว่าไม่มีอะไรที่จะต้องแตกแยก เราจะมาบอกว่าสิ่งที่เขาเสนอไม่รักชาติไม่ได้

สำหรับประเด็นเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระนั้น นายวิษณุ กล่าวว่าความจริงต้องดู 3 อย่างคือ 1.ที่มาต้องให้สมเหตุสมผล 2.จำนวน เพราะถ้าน้อยไปและมีอำนาจเด็ดขาดก็ลำบาก และ3.อำนาจที่เราจะให้ บางครั้งเราเอาอำนาจทั้งหมดประเคนให้ไปทั้งหมด เหมือนกับที่เราเคยประเคนให้กับ กกต.ในการเป็นผู้กำหนด วางระเบียบ ในการเป็นผู้ปฏิบัติคุมหีบเลือกตั้งเอง และในการเป็นผู้แจกใบเหลือง ใบแดงเองได้ มันก็จะเบ็ดเสร็จ แต่วันนี้เขาถอยกลับมาคิดใหม่แล้ว คืออาจจะแยกทั้ง 3 ส่วนนี้ออก บางส่วนให้ กกต. หรือบางส่วนให้กระทรวงมหาดไทย หรือหน่วยงานอื่น ซึ่งอาจทำให้สังคมมองว่าเกิดการถ่วงดุลกันดี แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องช่วยกันคิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง และมีการคัดค้านมาก ความจริงมีช่องทางอื่นมากกว่าจะให้กระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คนจัดการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่มันอยู่ที่คนไปกำกับและจับผิด ซึ่งตนคิดว่าไม่แปลกหรอกถ้าจะให้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย และให้ กกต.เป็นคนคุม สามารถจับผิด และฟ้องได้เลย

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ออกมาย้อนตนเองที่ไม่อยากให้ กกต.ออกมาพูดเรื่องการให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ล้มต้องชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3 พันล้าน โดยเสนอให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเลย ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบว่า นายสมชัย ก็พูดถูก ไม่ได้ผิดอะไร ตนก็รู้ไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่ตนเห็นว่าอันนั้นมันปลายทาง อยู่ดีๆ จะนิรโทษกรรม ก็อาจจะคิดได้ว่าพ้นทุกข์ พ้นโศก แต่ในใจยังมีความรู้สึกร้าวลึกกันอยู่ มันก็เกิดเหตุอีก วันหลังก็ต้องมานิรโทษกรรมกันอีก ตนถึงบอกว่ามันต้องพูดถึงต้นเหตุด้วยว่ามันเกิดจากอะไร ต้องทำให้เขาละลายพฤติกรรมในใจที่เขารู้สึกว่าเมื่อนิรโทษกรรมแล้ว เขาก็พร้อมที่จะเข้าสู่ระบบใหม่ได้

“ความจริง กกต.เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรผมรุนแรง เป็นธรรมดา เมื่อกระทบเขา เขาก็ต้องออกมาชี้แจง ผมยังเห็นว่าถ้าทำทุกอย่างด้วยความเป็นธรรมและยุติธรรม ความปรองดองก็จะเกิด ถ้ามีตัวนี้ได้ทุกอย่างก็จบ ซึ่งนิรโทษกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นธรรม และคืนความเป็นธรรม ความปรองดองก็เกิดขึ้นได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น